ช่างภาพสาวผุดภารกิจเด็ด แก้ผ้าทั่วกรุงนิวยอร์ก กระตุ้นให้เกิดการตั้งคำถามกับสังคม เหมาะสมหรือไม่ ?
เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2558 เว็บไซต์เดลี่เมล รายงานว่า ช่างภาพสาวคนหนึ่ง ซึ่งได้ตามถ่ายรูปนู้ดของตัวเองไปรอบ ๆ กรุงนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เตรียมที่จะตีพิมพ์หนังสือรวมภาพนู้ด เพื่อที่จะเป็นการกระตุ้นให้ทุกคนเข้าใจถึง "การดำรงอยู่ขั้นต้นของสิ่งมีชีวิต"
เอริก้า ซีโมน วัย 29 ปี คือชื่อของเธอ เธอเป็นชาวปารีสที่อาศัยในกรุงนิวยอร์ก เธอใช้เวลากว่า 5 ปี ในการแชะภาพนู้ดของตัวเธอเองตามสถานที่สาธารณะต่าง ๆ ขณะกำลังทำกิจวัตรประจำวันที่หลากหลายในนิวยอร์ก เพื่อเก็บรวบรวมเป็นคอลเลคชั่นและตีพิมพ์เป็นหนังสือ เผยทุกอย่างเริ่มมาจากการที่เธอตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องเสื้อผ้าและความสำคัญของวงการแฟชั่นในสังคมสมัยใหม่
เอริก้าบอกว่าหนังสือของเธอจะเผยให้เห็นถึงภาพที่ดีที่สุดของเธอ ทั้งภาพนู้ดขณะที่กำลังลงจากรถแท็กซี่สีเหลือง สัญลักษณ์ของกรุงนิวยอร์ก หรือภาพนู้ดขณะที่เธอนั่งซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์ที่ขับฝ่าไปในการจราจรที่วุ่นวาย หรือเป็นภาพที่เธอนั่งอยู่ริมถนน สวมใส่หมวกเพียงใบเดียว พร้อมกับมีป้ายที่เขียนว่า "ต้องการเงินไปซื้อเสื้อผ้า"
"กรุงนิวยอร์กเปรียบดั่งนครแห่งแฟชั่น ที่มีทั้งภาพและหุ่นกระจายอยู่เต็มไปหมด ฉันเองได้มองเห็นสังคมที่คนห่วงแต่ภาพลักษณ์ของตัวเอง คนสนใจว่าร้านบาร์นีย์ (ห้างสรรพสินค้าหรู) จะลดราคาสินค้าเมื่อไหร่ มากกว่าที่จะสนใจถึงปัญหาคนไร้บ้าน ฉันเริ่มครุ่นคิดว่า โลกเราจะรู้สึกอย่างไรเมื่อคนเปลือย และจะเป็นอย่างไรถ้าเรื่องเสื้อผ้าไม่ได้เข้ามาแบ่งชนชั้นของเรา หรือจะเป็นอย่างไรหากเราไม่สามารถแสดงให้เห็นถึงฐานะทางสังคมที่แท้จริงได้ หรือจะเป็นอย่างไรถ้าเรามีเพียงแค่ร่างกายของเรา ที่สามารถแสดงออกให้เห็นถึงตัวตนจริง ๆ ของเราได้ คำถามเหล่านี้ก่อให้เกิดปัญหาต่าง ๆ และปัญหาต่าง ๆ ก็ก่อให้เกิดคำถามตามมา เหตุใดเราจึงได้วิวัฒนาการมาไกลจากการดำรงอยู่ขั้นต้นของสิ่งมีชีวิต จนทำให้การเปลือยในพื้นที่สาธารณะกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย"
"สิ่งที่เราสวมใส่นั้น เปรียบเสมือนภาษาที่ไม่เปล่งเสียง ที่ทำให้เราสามารถแสดงออกถึงตัวตนของเราหรือสิ่งที่เราอยากจะเป็น อันเป็นการสร้างความประทับใจให้เกิดขึ้นกับบุคคลภายนอก ไม่ว่ามันจะคืออะไรก็ตาม"
ก่อนหน้านี้ในปี 2011 ภาพถ่ายบางภาพของเธอ ได้ถูกจัดแสดงที่แดช แกลอรี่ และในตอนนี้ เอริก้าเองก็กำลังตั้งเป้าหมายที่จะนำภาพนู้ดของเธอไปให้ผู้คนได้รับชมผ่านการตีพิมพ์ออกมาเป็นหนังสือ โดยคาดว่ามันจะกระตุ้นให้เกิดการตั้งคำถามในสังคมได้ดีเลยทีเดียว
ภาพจาก ericasimone