เปิดเรื่องราวของชนเผ่าไทกา ชนเผ่าเร่ร่อนในมองโกเลีย นักรบบนหลังกวางเรนเดียร์ ผู้ยังคงใช้ชีวิตผูกพันกับธรรมชาติ
หากลูกหลานของบุคคลที่อยู่ในตำนานยังคงมีจริงแล้วละก็ ชนเผ่าไทกา หรือ มนุษย์ขี่กวางเรนเดียร์ ก็คงเป็นหนึ่งในนั้น โดยที่ผู้คนชนเผ่าไทกา ชนเผ่าเร่ร่อนเผ่าในมองโกเลีย ยังคงมีวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมเหมือนที่เคยเป็นมาตั้งแต่อดีต พวกเขายังคงมีความใกล้ชิดกับสัตว์ป่า และยังมีความเชื่อในเรื่องของจิตวิญญาณ ความสามารถในการรักษาโรคแบบดั้งเดิม และวิถีชีวิตที่สืบทอดกันมาตั้งแต่อดีต ซึ่งเป็นสิ่งที่คนในปัจจุบัน ได้ละทิ้งไปตามกาลเวลา และสูญหายไปเมื่ออารยธรรมสมัยใหม่รุกคืบเข้ามา
เว็บไซต์ Messy Nessy Chic ได้เผยให้เห็นภาพจากฝีมือการถ่ายภาพของนายฮามิด ซาร์ดาร์-อัฟคาร์มิ ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับภาษามองโกเลียและภาษาทิเบต เขาจบการศึกษาระดับปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และหลังจากที่เขาได้ใช้ชีวิตในทิเบต และออกท่องเที่ยวไปทั่วภูมิภาคแถบภูเขาหิมาลัยมากว่า 10 ปี เขาก็ได้เริ่มออกเดินทางไปในพื้นที่ที่ห่างไกลในมองโกเลีย เพื่อบันทึกภาพดินแดนที่คนส่วนใหญ่ของประเทศ ยังคงดำรงชีพด้วยการเป็นชนเผ่าเร่รอน
ชาวชนเผ่าไทกาในมองโกเลีย มีวิถีชีวิตใกล้ชิดกับธรรมชาติอย่างแท้จริง พวกเขาใช้พื้นที่อยู่ร่วมกันกับกวางเรนเดียร์ หมี เหยี่ยว และหมาป่า ซึ่งคนในเผ่าจะเลี้ยงกวางเรนเดียร์ให้เชื่อง อีกทั้งจะไม่ฆ่ากวางเพื่อนำเนื้อมาทำเป็นอาหาร นอกเสียจากกวางเรนเดียร์จะไม่มีประโยชน์อีกต่อไป พวกเขาจะขี่กวางเรนเดียร์เข้าไปในป่าที่ปกคลุมด้วยหิมะ เพื่อหาอาการและเก็บเขากวาง และนำมาขายต่อให้คนในหมู่บ้านใกล้เคียงเพื่อนำเงินมาซื้อหาเครื่องอุปโภคบริโภคอื่น ๆ
สายสัมพันธ์ด้านจิตวิญญาณระหว่างคนในเผ่าและสัตว์นั้น มีมากกว่าแค่การเลี้ยงกวางเรนเดียร์เท่านั้น แต่พวกเขายังอยู่ร่วมกันกับหมาป่า นกอินทรี หรือแม้กระทั่งหมี
การใช้นกอินทรีในการล่าเหยื่อนั้นถือเป็นประเพณีอันเก่าแก่ในมองโกเลีย ที่ตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น แต่เพียงคนไม่กี่คนบนโลกที่เหมาะสมกับฉายา "นักล่านกอินทรี" โดยที่ นักล่านกอินทรี จะฝึกให้นกอินทรีเชื่อง และใช้นกอินทรีในการล่าสัตว์เล็ก เช่น หมาป่าและตัวมาเมิต ซึ่งนี่ไม่ใช่แค่ฉายาแห่งความภาคภูมิใจ แต่เป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตไปแล้ว
ภาพจาก Hamid Sardar-Afkhami , messynessychic.com