ได้ฉายาว่านักชกเสเพล “มนัส บุญจำนงค์” นักชกฮีโร่ของชาวไทย ผู้คว้าเหรียญทองโอลิมปิก ปี 2004 เหรียญเงินโอลิมปิก ปี 2008 จากวันที่ได้เหรียญมีเงินทองพร้อมทั้งเพื่อนฝูง สู่วันนี้ที่ผันตัวมาเป็น “พ่อค้าขายขนม” เจ้าตัวขอเปิดใจเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับนักชกรุ่นน้อง อย่าหลงระเริงกับเงินทอง เพื่อนฝูงที่มีเพียงชั่วคราว เผยคิดถึงวงการมวย แพลนเปิดยิมเล็กๆ ที่จังหวัดลพบุรี
หลังจากได้เหรียญชีวิตเปลี่ยน ?
“เปลี่ยนครับ เราได้ทุกสิ่งทุกอย่าง เงินทอง”
เงินอัดฉีดได้เท่าไหร่ เงินเดือนอีก ?
“น่าจะ 10 กว่าล้านครับ แล้วก็มีเงินเดือนให้กินตลอดจนอายุถึง 60 ปี”
คุ้มไหม ?
“คุ้มครับ แต่กว่าเราจะมายืนจุดนี้ได้ เราก็เหนื่อย”
คุณใช้เงินยังไงบ้าง ?
“เรามาจากเด็กบ้านนอก เราไม่มีรถ ไม่มีบ้าน ได้เงินมาก็ซื้อรถ ซื้อบ้าน เที่ยวเตร่”
หมดกับอะไรเยอะที่สุด ?
“ครอบครัว แล้วก็เพื่อนฝูงด้วย”
คุณมีโอกาสไปโอลิมปิกครั้งที่ 3 แต่คุณกลับทำตัวเละ ?
“ใช่ครับ ตอนนั้นมันมีอะไรหลายๆ อย่าง ตอนนั้นผมมีปัญหา พูดตรงๆ มีปัญหากับโค้ช คือเขาก็ไม่ชอบผม ถามว่าผมคิดไปเองไหม ไม่ได้คิดไปเองครับ เรื่องจริง”
วงการมวยยังมีเส้นสาย คนชอบ คนไม่ชอบอีกเหรอ ?
“มีครับ เส้นใครเส้นมัน เด็กใครเด็กมัน เรื่องความสามารถมันก็ใช่อยู่ แต่ความสามารถก็ช่วยเด็กไม่ได้ถ้าโค้ชไม่รัก ไม่ใช่เด็กเขา เรื่องจริงครับ”
มาที่เรื่องการใช้เงินของคุณต่อ หลังจากกลับจากโอลิมปิก ?
“เวลาเสร็จงานโชว์ตัวเราก็ไปเที่ยว แล้วก็มีเพื่อนฝูงเข้าหาเราเยอะ เราก็พาเพื่อนกินเที่ยว คืนหนึ่ง 2-3 หมื่น กินเที่ยวบางทีเพื่อนยืมเงิน เราก็ให้ไม่สนใจอะไร ผมเป็นคนที่ถ้ามี ใจดีใจถึงอยู่แล้ว ไม่เคยหวงอะไรกับใคร”
รู้ตัวตอนไหนว่าเรากำลังใช้เงินแบบผิดระบบระเบียบ ?
“เราก็มีครับ ถามว่าใช้หมดไหม มันไม่หมดหรอกครับ แต่มันก็เริ่มน้อยลงๆ นายเขาก็มีมาเตือนว่าระวังนะ เราได้มาเห็นตอนเราลำบากด้วยแหละ เพื่อนฝูงที่เราเคยให้ เคยพากินพาเที่ยว ไม่เคยเป็นห่วงเรา”
เพื่อนหาย ?
“หายไม่เท่าไหร่ มาซ้ำเติมเราด้วยนี่สิ”
เสียใจกับเพื่อนพวกนั้น ?
“เสียใจ น้อยใจมากครับ บางครั้งเราไม่มีตังค์เราโทรไปบอกเพื่อนยืมตังค์ เขาบอกไม่มี ผมมานั่งคิดเวลาตอนนั้นเรามีเราไม่เคยหวง ผมพูดตรงๆ เวลาไปเที่ยว เที่ยวเสร็จบางทีผมยังให้ตังค์ค่ารถกลับ”
แล้วคุณก็เลิกกับภรรยา เลิกเพราะอะไร ?
“เลิกเพราะตัวผมเองครับ ไม่มีเวลาให้เขา ช่วงนั้นเรามีเงินมีทอง เราก็เที่ยว เที่ยวทุกวัน บ้านไม่กลับ กล้ายอมรับครับ เราผิดจะเก็บไว้ทำไม ที่ผมอยากมาพูด อยากมาเปิดชีวิตก็เพื่อให้เด็กรุ่นหลังที่เขาประสบความสำเร็จมาใช้ชีวิตให้ถูก”
ยอมรับว่าที่ผ่านมาเราใช้ชีวิตผิดหมด ?
“ผิดหมดครับ”
ปัจจุบันลูก 4 คน ได้ดูแลรับผิดชอบบ้างไหม ?
“ตอนนี้ผมก็ยังไม่พร้อม พูดจริงๆ รอผมพร้อมกลับมาตั้งตัวได้ก่อน ลูกผมไม่ทิ้งแน่นอน คำว่าลูกยังไงมันก็อยู่ในสายเลือด รอผมพร้อมที่จะกลับไปดูแลเขา ก็ตั้งใจจะทำหน้าที่พ่อให้ดี ตอนนี้ก็ยอมรับตอนนี้เป็นพ่อที่ไม่ดี ยังไม่ได้ดูแลเขา”
หลังเลิกกับคนนี้คุณก็มีใหม่ ใช้ผู้หญิงเปลือง ?
“ผมมีใหม่ ผมไม่เคยแอบ ก็พาไปโน่นมานี่ พาออกงาน นักข่าวก็เขียนว่ามีแฟนใหม่ แต่เวลาเลิกกันไม่มีใครรู้ว่าเลิกกันเพราะเหตุผลใดไงครับ ธรรมดาเนาะ ผู้ชายพอเลิกมันก็ต้องมีใหม่ แต่พอมีแล้วถ้าเราเจอคนที่ดีกับเรา เราก็คงต้องหยุด”
คิดถึงวงการมวยบ้างไหม ?
“คิดถึงนะ ผมเคยเตะต่อยให้คนดูใช่ไหม เวลามานั่งดูน้องๆ ต่อย เปิดดูบางทีคิดในใจทำไมต่อยไม่ถูกใจเรา บางครั้งก็คิดอยากกลับไปชก”
อยากกลับมาเป็นครูมวย ?
“อยากกลับมาเปิดยิมเล็กๆ สอนอยู่ที่บ้านแฟน บ้านหมี่ ลพบุรีครับ ในกรุงเทพไม่ไหว มันเยอะ ผมอยากไปเปิดเล็กๆ ไม่ได้ใหญ่โต”
เปิดเป็นทางการรึยัง ?
“ยังครับ อยากให้เสร็จเป็นเรื่องๆ ไป ตอนนี้ผมมาทำเรื่องขนมก่อนครับ”
เริ่มขนมยังไง ?
“เริ่มมา 2-3 เดือนแล้วครับ แฟนผมเขาทำขนมเป็น เขาก็มองว่าผมน่าจะมีธุรกิจอะไรเป็นของตัวเองบ้าง ผมก็ยังมีเดินสายโชว์ตัวเตะบอล แล้วก็มีเงินเดือนจากโอลิมปิก แต่เวลาว่างๆ ไม่มีอะไร แฟนผมก็แนะนำว่าน่าจะหาธุรกิจอะไร เริ่มจากเล็กๆ ก่อน แล้วจังหวะแฟนผมเขาทำขนมเป็น ก็ลองทำขายดู ทำขายในเฟชบุ๊คคนก็ตอบรับดีครับ”
ขนมอะไร ?
“คอนเฟรคครับ เดือนๆ หนึ่งก็เกือบ 1,000 กระปุกครับ ให้ชื่อว่าฮีโร่ครับ ใครจะซื้อก็เข้ามาที่เฟชบุ๊คผมเลยครับ มนัส บุญจำนงค์ ครับ”
ชมบทสัมภาษณ์แบบเต็มๆ ได้ในรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ได้ทางช่อง 2 ทุกวันจันทร์-ศุกร์เวลา 10.30/14.00/20.00น. เสาร์-อาทิตย์10.30/14.30/19.30