ชาวบ้านสุดงง สัตว์ป่าที่ล่ามาในเมืองแม่ฮ่องสอน มีรสชาติขม กินไม่ได้มา 3 เดือน โดยมิทราบสาเหตุ ด้านนักวิชาการก็ยังหาคำตอบไม่ได้
เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2558 มีรายงานว่า เกิดเหตุประหลาดขึ้นในพื้นที่บ้านโป่งสา อำเภอปาย จ.แม่ฮ่องสอน โดยพบว่าเป็นหมู่บ้านที่มีสัตว์ป่านานาชนิดจำนวนมาก ที่ไปล่ามานั้น ไม่สามารถรับประทานได้ในช่วงระหว่างเดือนเมษายน-มิถุนายน ของทุกปี
จากการสอบถาม นายพิพัฒน์ บุญปวน หรือ กำนันไหว กำนันตำบลโป่งสา อ.ปาย เผยว่า ช่วงระหว่างเดือนเมษายน-มิถุนายน ของทุกปี สัตว์ป่าที่อาศัยในป่านั้น เนื้อสัตว์ป่าชนิดต่าง ๆ ที่ชาวบ้านล่ามาได้แล้วนำมาปรุงเป็นอาหารจะมีรสชาติขมมาก หรือชาวบ้านเรียกว่า ขิว ซึ่งจะไม่สามารถรับประทานได้เลย กลิ่นจะเหม็นมาก ชนิดที่ว่ากินไม่ได้เลย จากที่ตนเคยนำไก่ป่ามาแกงรับประทานจะมีกลิ่นเหม็น ตนได้พยายามกินเข้าไปแล้วจากนั้นจะมีกลิ่นติดตัว คือกลิ่นจะออกมาตามเหงื่อ ไม่ว่าจะเป็นไก่ป่า, หมูป่า, อีเห็น หรือสัตว์อื่น ๆ เช่น งูต่าง ๆ ก็ไม่สามารถนำปรุงอาหารรับประทานได้เช่นกัน จะมีรสชาติที่ขมมาก แต่ยกเว้นสัตว์ที่เลี้ยงในบ้านจะไม่มีรสชาติขมแต่อย่างใด เชื่อกันว่าสัตว์ป่าพวกนี้ อยู่ในช่วงฤดูกาลการวางไข่
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องที่แปลกอีก คือ สัตว์ป่าด้วยกันก็ไม่สามารถกินกันได้ เช่น ไข่ไก่ป่า งูและอีเห็นรวมทั้งกระรอกที่ชอบแอบมากินไข่ไก่ป่า แต่เพราะเข้าช่วง 3 เดือนดังกล่าว งูไม่กินไข่ไก่ อีเห็นและกระรอกก็ไม่กินไข่ไก่ สัตว์ด้วยกันก็ยังไม่กินเนื้อกันเอง ขณะที่ปลาที่อยู่ในน้ำก็ยังมีกลิ่นเหม็น ฉะนั้นสัตว์ป่าที่นี่จึงมีจำนวนมากกว่าพื้นที่อื่น ๆ ซึ่งสามารถดำเนินชีวิต และนำสัตว์ที่ล่ามารับประทานได้อย่างปกติสุข
ด้านนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ก็ได้นำทีมคณะศึกษาวิจัยมาทำงานในพื้นที่หลายเดือนก็ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ จากที่เคยคาดการณ์ว่าจะเป็นเพราะอาหาร หรือเพราะอากาศบนยอดดอยก็ยังไม่มีข้อสรุป ซึ่งนักวิจัยกลุ่มนี้ก็เคยมารับประทานไก่ป่าในช่วง 3 เดือนดังกล่าวแล้วเช่นกัน ก็ไม่สามารถรับประทานได้เลยเพราะขมมากจริง ๆ
ท้ายสุดนี้ กำนันไหว ก็ยังเชื้อเชิญให้บุคคลทั่วไปสามารถมาท้าพิสูจน์กับเรื่องแปลกประหลาดเรื่องนี้ได้ ซึ่งตนเองกับชาวบ้านในพื้นที่ ก็อยากจะพิสูจน์ว่ามันมาจากสาเหตุใดกันแน่ ด้วยเช่นกัน โดยสามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 088-405-0973 ทุกวัน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก