พระอุโบสถวัดวิมุตยาราม
ในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ มีตึกรามบ้านช่องและผู้คนจากทั่วทุกสารทิศมาอาศัยอยู่กันมากมาย ทำให้เมืองใหญ่กลายเป็นเมืองที่วุ่นวาย
แต่หากใครจะมองหาสถานที่สงบๆ ในเมืองใหญ่แบบนี้ ก็ยังพอจะหลงเหลืออยู่บ้างในหลายๆ ที่ อย่างใน “ย่านบางอ้อ” ที่อยู่ในเขตบางพลัด ก็มีถนนจรัญสนิทวงศ์ตัดผ่าน ก็ถือว่าเป็นย่านที่มีผู้คนอาศัยอยู่มากมาย การจราจรติดขัดอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ยังมีบางมุมที่สามารถเข้าไปหาความสงบได้บ้าง อย่างเช่นในวัดวาอารามที่อยู่ในย่านบางอ้อนี้ ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่เข้าไปหาความสุขสงบกันได้
พระประธานภายในพระอุโบสถ
เริ่มต้นจากวัดริมแม่น้ำ ใกล้ๆ กับสะพานพระราม 7 วัดนี้มีชื่อว่า “วัดวิมุตยาราม” ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งธนบุรี สร้างขึ้นเมื่อใดและใครเป็นผู้สร้างไม่ได้มีหลักฐานปรากฏ แต่มีหลักฐานในการสร้างพระประธานในพระอุโบสถว่าสร้างในสมัยรัตนโกสินทร์ จึงได้สันนิษฐานกันว่าวัดแห่งนี้ก็น่าจะสร้างในสมัยรัตนโกสินทร์เช่นเดียวกัน
สมัยก่อน ชาวบ้านเรียกชื่อของวัดนี้แตกต่างกันไป บ้างก็เรียกวัดละมุดสีดา, วัดละมุดล่าง หรือ วัดละมุดไทย พระอุปัชฌาย์เขียน พุทธรักขิโต เจ้าอาวาสในสมัยนั้น ท่านพิจารณาและเห็นว่าคำว่า "ละมุด" ในชื่อของวัดนั้นมีเสียงคล้ายคำว่า “วิมุติ” ในภาษาบาลีที่แปลว่าหลุดพ้น จึงได้ตั้งชื่อวัดขึ้นใหม่ว่า “วัดวิมุตยาราม” เพื่อให้เป็นมงคลนาม
ภายในวัดมีพระอุโบสถที่สวยงามและโดดเด่น สามารถมองเห็นได้ไกลจากอีกฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระประธานองค์ใหญ่ มีการเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังที่งดงาม หากใครมาที่วัดแห่งนี้แล้ว นอกจากจะมาไหว้พระทำบุญ ก็ยังสามารถมานั่งกินลมชมวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยาได้อีกด้วย
เจดีย์ทรงปรางค์ วัดฉัตรแก้วจงกลณี
จากบริเวณเชิงสะพานพระราม 7 ที่ตั้งของวัดวิมุตยาราม ก็มุ่งหน้ามาทางถนนจรัญสนิทวงศ์ มาถึงซอยจรัญสนิทวงศ์ 94 เป็นที่ตั้งของ “วัดฉัตรแก้วจงกลณี” วัดแห่งนี้ชาวบ้านเรียกกันว่า “วัดบางอ้อ” แต่ก็ไม่ปรากฏว่าสร้างขึ้นเมื่อไหร่
แต่ภายในวัดก็มีสิ่งที่น่าสนใจคือ เจดีย์ทรงปรางค์องค์ใหญ่ เป็นเจดีย์ย่อมุมยอดประดับนภศูล องค์เจดีย์สีขาวสะอาดตา สันนิษฐานว่าสร้างตั้งแต่ช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ใครที่แวะมาสักการะพระประธานในพระอุโบสถและสักการะเจดีย์แล้ว ก็สามารถเดินเลาะเลียบวัดเข้าไปชมวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยาได้ด้วยเช่นกัน
พระอุโบสถวัดอาวุธวิกสิตาราม
อีกหนึ่งวัดที่ยังคงมีความสงบให้ได้เข้าไปสัมผัสกัน คือ “วัดอาวุธวิกสิตาราม” ในซอยจริญสนิทวงศ์ 72 วัดนี้เดิมชื่อวัดบางพลัดนอก แต่ได้รับพระราชทานนามใหม่จากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 อันหมายถึง พระยาอาวุธและคุณหญิงแย้ม ผู้บูรณะวัดในปี พ.ศ.2441
ภายในวัดมีพระพุทธรูปและสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายให้เข้าไปสักการะ อย่างที่บริเวณพระอุโบสถของวัดนั้น ภายนอกก็มีพระสยามเทวาธิราช เสาหินพระเจ้าอโศก และธรรมจักร ที่จัดวางไว้ด้านหน้าพระอุโบสถ
พระพุทธชินราชจำลอง ภายในพระอุโบสถ
พระอุโบสถของวัดอาวุธวิกสิตาราม เป็นพระอุโบสถทรงไทย หลังคาลดสามชั้นประดับช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ หน้าบันเจาะเป็นช่องเพื่อประดิษฐานพระพุทธรูปปางลีลาประกอบลายปูนปั้นกนกเปลวและกระจกสี บานหน้าต่างด้านนอกเป็นไม้แกะสลักรูปเทพพนมประดับกระจก ส่วนบานประตูเป็นไม้แกะสลักรูปกินรียืนประนมมือและรูปดอกไม้ต่างๆประดับกระจก ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระประธานคือ พระพุทธชินราชจำลอง และบนฐานชุกชีเดียวกันนั้นยังเป็นที่ประดิษฐานพระอัครสาวก 4 องค์ยืนประนมหัตถ์และพระพุทธรูปปางต่างๆ อีกด้วย
นอกจากในย่านบางอ้อนี้จะมีวัดให้เข้าไปทำบัญทำทาน สงบจิตสงบใจแล้ว ในย่านนี้ก็ยังเป็นชุมชนของชาวมุสลิมด้วย ซึ่งจะเห็นว่ามีมัสยิดถึง 2 แห่ง ในย่านนี้
ส่วนใครที่เที่ยวในย่านนี้จนเหนื่อยแล้ว ก็ยังมีร้านอร่อยและแหล่งของกินให้เลือกซื้อหามาอิ่มอร่อยกันด้วย เรียกว่า “บางอ้อ” เป็นอีกหนึ่งย่านที่มีทั้งที่เที่ยว ที่ทำบุญ และของอร่อยอย่างครบเครื่องเลยจริงๆ (คลิก!! อ่านเรื่องกินย่านบางอ้อ)