เว็บไซต์มิร์เรอร์ของอังกฤษ นำเสนอเรื่องราวความรักอันน่าเศร้าสลดของ "แจ็ค เบนิสตัน" พนักงานบาร์วัย 22 ปี ที่ตัดสินใจขอ "มิเชล โอคอนเนอร์" แฟนสาววัย 32 ปีซึ่งป่วยเป็นโรคมะเร็งปากมดลูกระยะสุดท้ายแต่งงานในโรงพยาบาล หลังจากที่แพทย์บอกว่าเธอจะมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียง 2 วันเท่านั้น ซึ่งเมื่อเสร็จสิ้นพิธีแล้ว มิเชลล์ก็เสียชีวิตในอีก 4 สัปดาห์ถัดมา
งานนี้ ทั้งครอบครัว เพื่อน และเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลต่างก็ร่วมมือกันช่วยจัดงานแต่งงานขึ้นในห้องรับรองแขก ตั้งแต่จัดหาชุดเจ้าสาวและแหวนแต่งงาน นอกจากนี้ยังมีการสร้างโบสถ์ชั่วคราวรวมถึงแท่นบูชาในแผนก และมีแขกประมาณ 20 คนมาเข้าร่วมงาน
"วันนั้นเธอเดินไปตามทางจนถึงแท่นบูชา เป็นครั้งแรกในรอบเดือนที่เธอเดินได้อีกครั้ง แต่เดินได้ไม่กี่ก้าวก็ล้มลง ผมเลยต้องคอยช่วยพยุง" แจ็คกล่าว และว่า "เรื่องแบบนี้มันทำใจได้ยากก็จริง แต่มิเชลก็มีความสุขมาก ส่วนผมร้องไห้มากกว่าเธอเสียอีก"
มิเชลมีลูก 3 คนจากความสัมพันธ์กับคนรักเก่า แต่เธอกับแจ็คก็ยังมีลูกสาวด้วยกัน 1 คนเมื่อเดือนมิ.ย. ปีก่อนด้วยเช่นกันชื่อ มาร์ธา ซึ่งหลังจากที่เธอเกิดได้ไม่นาน มิเชลก็เริ่มมีอาการเจ็บที่ท้องอย่างรุนแรง เมื่อแพทย์ตรวจแล้วก็พบว่า สาเหตุเกิดมาจากการที่เธอคลอดถูกด้วยวิธีผ่าท้อง ซึ่งผลสแกนแสดงให้เห็นเนื้องอกขนาดใหญ่เท่าผลส้มข้างในมดลูก ทำให้ยืนยันได้แน่ชัดว่าเธอเป็นมะเร็งปากมดลูกจริงๆ
จากเรื่องตรงนี้ อาจทำให้เรารู้ว่า บางครั้งความรักก็มาเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่สุดท้ายแล้วมันก็เป็นสิ่งที่สวยงามและคุณค่าแก่การเก็บไว้ในความทรงจำที่สุด สำหรับแจ็ค แม้ว่าในอีก 4 สัปดาห์หลังจากแต่งงาน มาร์ธาจะจากไปอย่างไม่มีวันกลับแล้ว แต่หัวใจของชายคนนี้ก็ยังคงอบอุ่นไปด้วยความทรงจำที่เข้าสัมผัสได้ทุกครั้งเวลาจ้องหน้าลูกสาวตัวน้อย
"มาร์ธาเวลายิ้มจะหน้าเหมือนมิเชลมาก ผมเห็นทีไรแล้วจะหวนนึกถึงความทรงจำของพวกเราทันที คือครึ่งหนึ่งมันก็มีความสุขนะ แต่อีกครึ่งหนึ่งก็เจ็บปวด" แจ็คกล่าว