เปิดประวัติฆาตกรต่อเนื่อง 25 คน ที่ก่อเหตุฆ่าสุดสยองด้วยวิธีการต่าง ๆ เรียกได้ว่าเป็นมนุษย์ที่เลือดเย็นที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ในโลกนี้อาจจะมีฆาตกรมากมาย แต่จะมีสักกี่คนที่จะลงมือฆ่าคนซ้ำ ๆ โดยไม่รู้สึกอะไร จนได้ชื่อว่าเป็นฆาตกรต่อเนื่องเลือดเย็น ล่าสุดเว็บไซต์ list25 ได้เปิดแฟ้มฆาตกรต่อเนื่อง 25 คน ที่ได้ขึ้นชื่อว่า เลือดเย็นที่สุดในประวัติศาสตร์ จนอาจทำให้คุณสงสัยว่า เขาเหล่านั้นกระทำการอันบ้าคลั่งแบบนี้ลงไปได้อย่างไร
1. เดวิด เบอร์โควิตซ์
นายเดวิด เบอร์โควิตซ์ หรือที่รู้จักกันในฉายา Son of Sam หรือฉายา นักฆ่าปืนคาลิเบอร์ .44 เขาเองได้ก่อเหตุโดยใช้ปืนคาลิเบอร์ .44 ในการยิงคนตาย 6 คน และบาดเจ็บ 7 คน ตลอดช่วงฤดูร้อนปี 1976 อีกทั้งเขาเองยังส่งจดหมายไปแจ้งกับตำรวจและสื่อมวลชนว่าเขาจะเดินหน้ายิงคน ไปเรื่อย ๆ สร้างความหวาดกลัวทั่วกรุงนิวยอร์กซิตี้เป็นอย่างมาก
ในปี ปี ค.ศ. 1977 นายเดวิด เบอร์โควิตซ์ ก็ถูกจับกุมได้ในเดือนสิงหาคม เขาได้ให้การรับสารภาพ และต้องโทษจำคุกจำคุก 25 ปี สำหรับแต่ละชีวิตที่เขาฆ่า และดูเหมือนว่า เขาเองจะรับโทษอยู่ในคุกโดยไม่มีทีท่าว่าจะถูกปล่อยออกมา
2. เอ็ดมันด์ เค็มเปอร์
นายเอ็ดมันด์ เค็มเปอร์ หรือที่รู้จักกันในนาม "นักเรียนนักฆ่า" เขาเองเป็นฆาตกรต่อเนื่องชาวอเมริกันและชอบมีเพศสัมพันธ์กับศพ เขาก่อคดีฆ่าสุดสยองในแคลิฟอร์เนียตลอดช่วงปี 1970 โดยที่เขาเริ่มฆ่าคุณปู่คุณย่าของตัวเองตั้งแต่อายุแค่ 15 ปี จากนั้นก็ฆ่าและตัดแขนตัดขาหญิง 6 คนในพื้นที่ซานตาครูซ เขาเองได้ลงมือฆ่าคุณแม่แท้ ๆ ของตัวเองกับเพื่อนของเธอ ก่อนที่จะมอบตัวกับตำรวจในอีกไม่กี่วันต่อมา
นายเอ็ดมันด์ เค็มเปอร์ ถูกตั้งข้อหาและพบว่ามีความผิดในเดือนพฤศจิกายน 1973 จากการฆาตกรรม 8 ศพ เขาได้ร้องขอให้มีการประหารชีวิตตัวเขาเอง แต่เขากลับได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิตและดูเหมือนจะไม่ได้รับการปล่อยตัวแม้แต่ น้อย
3. ลาร์รี่ บิตเทคเกอร์ และ รอย นอร์ริส
ลอว์เรนซ์ บิตเทคเกอร์ และ รอย นอร์ริส หรือเจ้าของฉายา นักฆ่ากล่องเครื่องมือ คือ 2 ฆาตกรต่อเนื่องชาวอเมริกันที่ร่วมกันฆ่าผู้หญิง 5 คนในแคลิฟอร์เนียในช่วงปี 1979 พวกเขาจะหลอกล่อให้ผู้หญิงมาขึ้นรถตู้ด้วยกัน จากนั้นก็ขับรถไปที่เปลี่ยว ๆ และลงมือข่มขืนผู้หญิง พร้อมทั้งทรมานเหยื่อด้วยเครื่องมือช่างต่าง ๆ ก่อนที่จะฆ่าปิดปาก
ในปี 1981 ทั้งสองคนมีความผิดในข้อหาฆาตกรรม ลักพาตัว และ ข่มขืน นายลอว์เรนซ์ บิตเทคเกอร์ ถูกตัดสินประหารชีวิต ในขณะที่นายรอย นอร์ริส ถูกเว้นโทษการประหารชีวิต เนื่องจากเขาได้รับสารภาพเกี่ยวกับการร่วมมือกระทำการกับนายลอว์เรนซ์ บิตเทคเกอร์ และถูกสั่งจำคุก 45 ปี
4. เอียน เบรดี้ และ มิร่า ฮินลีย์
เอียน เบรดี้ และ มิร่า ฮินลีย์ ได้ฆาตกรรมเด็ก 5 คนในช่วงระหว่างปี 1963 - 1965 ในภูมิภาคเกรทเตอร์แมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ พวกเขาได้ฆาตกรรมเด็กอายุตั้งแต่ 10 - 17 ปี และเหยื่อทุกคนต่างถูกล่วงละเมิดทางเพศก่อนที่จะถูกฆาตกรรมอย่างทารุณ ศพของเหยื่อ 3 คนถูกขุดค้นพบที่สุสาน และศพของเหยื่อคนสุดท้ายถูกพบที่บ้านของนายเบรดี้ ส่วนศพของคีธ เบ็นเน็ต เหยื่อคนที่ 4 นั้น ปัจจุบันยังหาไม่พบ
ทั้งเอียน เบรดี้ และ มิร่า ฮินลีย์ ต่างถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ซึ่งมิร่า ฮินลีย์ เสียชีวิตขณะที่จำคุกในปี 2002 ในขณะที่นายเอียน เบรดี้ ถูกย้ายไปอยู่ที่โรงพยาบาลแอชเวิร์ธ โดยมีการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา
5. เคนเนธ บีอานชี และ แองเจโล บูโอโน
นายเคนเนธ บีอานชี และนาย แองเจโล บูโอโน ชาย 2 คนที่เป็นญาติกัน ได้ก่อเหตุสุดสยองในพื้นที่แคลิฟอร์เนียตั้งแต่ปี 1977 - ต้นปี 1978 ทั้งการลักพาตัว ข่มขืน และฆ่าเด็กสาว 10 คน อายุระหว่าง 12 - 28 ปี และรัดคอแต่ละคนพร้อมกับทิ้งศพเอาไว้ที่เนินเขา จนทำให้ทั้งสองคนได้ฉายาว่า "นักฆ่าริมเนินเขา"
นายบีอานชี ปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าเขาเองนั้นมีปัญหาทางจิต แต่สุดท้ายก็พบว่าข้อมูลนี้เป็นเท็จ ดังนั้นเขาจึงยอมรับผิดและซักทอดไปถึงนายบูโอโน่ ทั้งสองคนจึงถูกศาลตัดสินจำคุกตลอดชีวิต และนายบูโอโน่ก็เสียชีวิตในคุกเมื่อปี 2002
6. นายเดนนิส เรเดอร์
นายเดนนิส เรเดอร์ ได้ฆ่าคน 10 คนในเขตเซดวิกเคาท์ตี้ เมืองวิชิตา รัฐแคนซัส สหรัฐอเมริกา ระหว่างปี 1974 - 1991 โดยที่เขาเองได้ส่งจดหมายไปหาตำรวจพร้อมกับใช้นามแฝงว่า BTK ที่ย่อมากจาก " Bind, Torture, Kill. (มัด, ทรมาน, ฆ่า) โดยนายเรเดอร์จะตามเหยื่อไปถึงบ้าน จากนั้นก็บุกเข้าไปในบ้าน เขาจะผูกเหยื่อเอาไว้และฆ่ารัดคอ
นายเดนนิส เรเดอร์ ได้หายตัวไปในช่วงปี 1988 และปรากฏตัวอีกครั้งเมื่อปี 2005 เมื่อเขาได้ส่งแผ่นฟลอปปี้ดิสก์ไปให้กับสื่อ ทำให้ตำรวจตามสืบที่มาของแผ่นดิสก์ และตามจับตัวเขาได้ในที่สุด ซึ่งนายเรเดอร์ยอมให้การรับสารภาพโดยทันที เขาถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต
7. โดนัลด์ เฮนรี่ แก๊สสกินส์
ในปี 1969 นายแก๊สสกินส์ เริ่มพฤติกรรมฆาตกรรมต่อเนื่องกับผู้คนที่โบกรถข้างทาง ในช่วงที่เขาขับรถไปมาบนทางหลวงบริเวณทางใต้ของอเมริกา เขาจะทรมานและตัดแขนขาเหยื่อ เขาอ้างว่าเขาได้ฆ่าคนไปแล้วกว่า 80 - 90 คน
ในปี 1975 นายแก๊สสกินส์ก็ถูกจับกุมตัว เมื่อมีพยานมาแจ้งกับตำรวจว่า เห็นนายแก๊สสกินส์ฆ่าชายหนุ่ม 2 คน เขาถูกคดีฆ่าคน 8 คน และถูกตัดสินให้ประหารชีวิตก่อนลดโทษมาเป็นจำคุกตลอดชีวิตโดยห้ามปล่อยตัว และแม้ว่าเขาจะอยู่ในคุก นายแก๊สสกินส์ยังก่อเรื่องด้วยการฆ่าเพื่อนร่วมห้องขัง และเขาถือเป็นคนเดียวที่กล้าฆ่าเพื่อนร่วมคุกทั้งที่ตัวเองต้องโทษรอการ ประหารชีวิต
8. นายปีเตอร์ มานูเอล
นายปีเตอร์ มานูเอล เป็นชาวอเมริกันที่ย้ายไปอยู่สก็อตแลนด์ เขาก่อเหตุฆ่าคน 9 คนทางตอนใต้ของสก็อตแลนด์ระหว่างปี 1956 - 1958 และเขายังต้องสงสัยว่าฆ่าคนมากถึง 18 คน โดยในตอนนั้น ตำรวจยังไม่สามารถหาหลักฐานมาดำเนินการกับเขาได้ จนกระทั่งเหยื่อคนสุดท้ายของเขา เมื่อธนบัตรที่นายมานูเอลใช้จ่ายสำหรับค่าเครื่องดื่มในผับ เป็นธนบัตรใบเดียวกันกับที่เขาฆ่าชิงทรัพย์มาจากเหยื่อ เขายอมให้การสารภาพ เมื่อคุณแม่ของเขามาเจอกับเขาที่สถานีตำรวจ
ในปี 1958 นายปีเตอร์ มานูเอล ถูกตัดสินประหารชีวิตโดยการแขวนคอ ที่คุกบาร์ลินนี่ ในเมืองกลาสโกลว์ สำหรับความผิดอาชญากรรมที่เขาก่อขึ้น และเขาเป็น 1 ในนักโทษคนสุดท้ายของสก็อตแลนด์ที่ถูกตัดสินประหารชีวิตโดยการแขวนคอ ก่อนที่จะเปลี่ยนกฎการลงโทษ
9. นายจอห์น จอร์จ เฮก
นายจอห์น จอร์จ เฮก หรือที่รู้จักกันในนาม "นักฆ่าอาบน้ำกรด" เขาเป็นฆาตกรต่อเนื่องชาวอังกฤษที่ก่อเหตุช่วงปี 1940 เขามีความผิดในข้อหาฆาตกรรม 6 ศพ แม้ว่าเขาจะบอกเขาได้ฆ่าคนไปทั้งสิ้น 9 ศพ โดยที่นายจอห์น จอร์จ เฮก จะวางเป้าหมายไว้ที่คนที่มีความร่ำรวย และหลอกให้คนเหล่านั้นเชื่อว่าเขาเองเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ เขาจะหลอกเหยื่อไปที่โกดังร้างและใช้ปืนยิงเหยื่อ จากนั้นก็นำศพของเหยื่อไปแช่กรดกำมะถัน ก่อนที่จะปลอมลายเซ็นเพื่อนที่จะขายมรดกของเหยื่อและฉกฉวยเงินในบัญชีธนาคาร
อย่างไรก็ตาม ร่องรอยของมนุษย์ยังคงมีให้เห็นและเป็นหลักฐานสำคัญที่จะมัดตัวนายจอห์น จอร์จ เฮก เขาถูกตัดสินประหารชีวิตและถูกแขวนคอที่คุกแวนด์สเวิร์ธ
10 เฟรด และ โรส เวสต์
ในช่วงปี 1967 - 1987 นายเฟรด เวสต์ พร้อมด้วยภรรยาคือ โรส เวสต์ ได้ทรมาน ข่มขืน และฆ่าเด็กสาวทั้งสิ้นกว่า 11 คน ที่บ้านของทั้งสองคนบนเลขที่ 25 ถนนครอมเวลล์ กลอเชสเตอร์ จนบ้านหลังนั้นได้ขึ้นชื่อว่าเป็นบ้านแห่งความสยอง และทั้งสองคนก็ถูกจับและตั้งข้อหาในปี 1994 หลังจากที่ตำรวจได้บุกค้นและตรวจพบกระดูกมนุษย์มากมายที่ฝังอยู่ที่สวนหลัง บ้านและพื้นบ้าน
ในระหว่างที่มีการไต่ส่วนนั้น นายเฟรด เวสต์ ก็ได้แขวนคอตายในคุกก่อนที่จะมีการตัดสินความผิด และในปี 1995 นางโรส เวสต์ ก็ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตสำหรับคดีฆาตกรรมกว่า 10 ศพ ส่วนบ้านของพวกเขาก็ถูกรื้อถอนแล้ว
11. นายอาเธอร์ ชอว์ครอส
นายอาเธอร์ ชอว์ครอส ได้รับฉายาว่า นักฆ่าแห่งแม่น้ำจีเนซี เขาเริ่มลงมือฆาตกรรมครั้งแรกเมื่อปี 1972 โดยการล่วงละเมิดทางเพศพร้อมกับฆ่าเด็กชายวัย 10 ขวบหลังจากที่หลอกให้เด็กเข้าป่าในย่านวอเตอร์ทาวน์ กรุงนิวยอร์ก จากนั้น เขาก็ได้ข่มขืนและฆ่าเด็กหญิงวัย 8 ขวบ ซึ่งเขาเองถูกจับและมีความผิดในข้อหาฆาตกรรม
เขา ติดคุกนานกว่า 14 ปีและถูกปล่อยตัวออกมาในปี 1988 และออกมาก่อคดีซ้ำด้วยการฆาตกรรมอย่างทารุณกับโสเภณี 12 คนที่มีอายุตั้งแต่ 22 - 59 ปี เขาถูกจับได้คาหนังคาเขาในตอนที่กำลังลงมือฆ่าเหยื่อคนสุดท้าย ซึ่งเขาก็ได้สารภาพว่า เขาคือผู้ที่ลงมือฆ่าคนทั้ง 12 คน และถูกตัดสินจำคุก 250 ปี จากนั้นเขาก็เสียชีวิตเนื่องจากเหตุหัวใจวายเมื่อปี 2008
12. นายปีเตอร์ ซัตคลิฟฟ์
นายปีเตอร์ วิลเลียม ซัตคลิฟฟ์ คือฆาตกรต่อเนื่องชาวอังกฤษที่รู้จักกันในนาม "นักฆ่าแห่งยอร์กเชียร์" ในปี 1981 นายซัตคลิฟฟ์มีความผิดในข้อหาฆาตกรรมหญิง 13 คนและพยายามฆ่าอีก 7 คน เขาเองจะเลือกเหยื่อที่เป็นโสเภณีในพื้นที่เมืองลีดส์และแบรดฟอร์ด จนทำให้เกิดความหวาดกลัวทั่วภาคเหนือของอังกฤษ
เมื่อเขาถูกจับกุมเมื่อปี 1981 จากข้อหาขับรถโดยติดแผ่นป้านทะเบียนปลอม ตำรวจก็ได้สอบสวนเกี่ยวกับคดีฆาตกรรม และเขาก็ให้การรับสารภาพ ในระหว่างการไต่สวน นายซัตคลิฟฟ์ ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาเนื่องจากอ้างว่าเขามีสติไม่สมประกอบ แต่ทางคณะลูกขุนได้ปฏิเสธคำให้การของเขา
นายซัตคลิฟฟ์ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตโดยไม่มีการปล่อยตัว และยังคงอยู่ในโรงพยาบาลประสาทบรอดมัวร์ ที่มีการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา จนถึงปัจจุบัน
13. นายริชาร์ด รามิเรซ
นายริชาร์ด เรย์วา มูโนซ นามิเรซ คือฆาตกรต่อเนื่องสุดเหี้ยมโหดที่ก่อเหตุในพื้นที่ลอสแองเจสิสระหว่างปี 1984 - 1985 เขาได้รับฉายาว่า "นักสะกดรอยยามค่ำคืน" ซึ่งนายรามิเรซ จะบุกเข้าไปในบ้านของเหยื่อ ยิงเหยื่อ ใช้มีดแทง ข่มขืน หรือตัดอวัยวะ ซึ่งเหยื่อของเขามีตั้งแต่เด็กอายุ 9 ปี ไปจนถึงคู่สามีภรรยาอายุ 60 ปลาย และเมื่อก่อเหตุเสร็จ เขาก็จะวาดรูปดาว 5 แฉกไว้ที่ผนังบ้านของเหยื่อ
ในปี 1985 นายรามิเรซถูกตัดสินประหารชีวิต และเขาเองก็เป็นนักโทษที่รอการประหารชีวิตเป็นเวลากว่า 23 ปี จนกระทั่งเขาเสียชีวิตเมื่อเดือนมิถุนายน 2013
14. นายเจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์
นายเจฟเฟอร์ ดาห์เมอร์ หรือที่ได้รับฉายา มนุษย์กินคนแห่งมิลวอคกี้ เขาคือฆาตกรต่อเนื่องชาวอเมริกันที่ลงมือฆ่าข่มขืนและตัดอวัยวะผู้ชายและ เด็กกว่า 17 คน ในช่วงระหว่างปี 1978 และ 1991 เขาเองยังมีเพศสัมพันธ์กับศพและรับประทานชิ้นส่วนอวัยวะของเหยื่อ พร้อมกับใช้อวัยวะของเหยื่อในการปรุงอาหารที่บ้าน
นายดาห์เมอร์ถูกจับหลังจากที่เหยื่อของเขาวางแผนจับเขาและแจ้งตำรวจ ในปี 1992 นายดาห์เมอร์ถูกตัดสินให้มีความผิดฐานฆาตกรรม 15 คนและถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต
อย่างไรก็ตาม 2 ปีหลังจากที่เขาเข้าไปชดใช้กรรมในคุก เขาก็ถูกเพื่อนร่วมคุกทุบตีจนถึงแก่ความตายในทัณฑสถานโคลัมเบีย
15. นายเดนนิส นิลเซ่น
นายเดนนิส นิลเซ่น ถือเป็นฆาตกรต่อเนื่องชาวอังกฤษที่มีพฤติกรรมชื่นชอบเพศเดียวกัน เขาฆาตกรรมหนุ่มเกย์ 15 คนที่บ้านของเขาในกรุงลอนดอนในช่วงระหว่างปี 1978 และ 1983 เขาจะชำแหละอวัยวะของเหยื่อ แล้วนำอวัยวะไปเผาหรือทิ้งลงชักโครก ซึ่งเป็นสาเหตุให้เขาถูกจับเนื่องจากมีการพบชิ้นส่วนของมนุษย์ในบ่อเกรอะ นายนิลเซ่นถูกตัดสินให้มีความผิดในปี 1983 จากคดีฆาตกรรม 6 ข้อหา และพยายามฆ่าอีก 2 ข้อหา เขาถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต และตอนนี้ เขาเองยังอยู่ที่เรือนจำฟูล ซัตตัน ในยอร์กเชียร์ ประเทศอังกฤษ โดยไม่มีโอกาสที่จะได้ออกมารับรู้เกี่ยวกับโลกภายนอก