เช้านี้อากาศดีครับ หลังจากฝนตกลงมากระทบหลังคาบ้านเมื่อคืนก่อน ดูบอลไปฝนตกไป ตกได้ตกดี แมนยูเลยทำได้แค่เสมอเซลติกไป แบบบุกอยู่ข้างเดียว 1-1 เซงฝน!(เกี่ยวกันไหมนะ?) เข้าเรื่องดีกว่า วันนี้ผมไปนั่งอ่านหนังสือที่แมคโดนัลน์ตรงโรงเรียนสตรีวิทยา อ่านจบตอนบ่ายๆ ขี่รถกลับบ้านผ่านภูเขาทอง อยู่ๆ มือเจ้ากรรมก็บังคับแฮนด์เลี้ยวเข้าสู่ที่นี่โดยมิได้นัดหมายกันไว้ล่วงหน้า ก็เลยจับพลัดจับพลูแบบงงนิดหน่อย แล้วมือผมก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ขอต้อนรับเข้าสู่เรือนจำในความทรงจำครับ..
"เลยสามยอดไปหน่อยอยู่ซ้ายมือก่อนถึงสี่แยกสำราญราษฏ์(ถ้ามาจากพาหุรัด)"
"ประตูทางเข้าเรือนจำสร้างตั้งแต่ พ.ศ.2443 ในรัชกาลที่ 5"
"เข้ามาในอาคาร 1 ภาพการทรมานนักโทษในสมัยก่อน โหดว่ะ"
"อันนี้ตู้เซฟเก็บของมีค่า นำเข้าจากต่างประเทศ ข้างบนเป็นโล่ทำจากหวาย"
"แผนผังเรือนจำในอดีต"
"ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นสวนสาธารณะในปัจจุบัน"
"ไม่แน่ใจว่าเป็นอาจารย์ใหญ่ของผู้ที่ถูกประหารชีวิตหรือป่าว(ลืมถาม..)"
"ภาพถ่ายขาว-ดำ ของสภาพเรือนจำในอดีต"
"จนมาถึงเวลาที่ต้องทุบเรือนจำ เพื่อเคลื่อนย้ายไปเรือนจำบางขวาง"
"ขึ้นมาชั้น 2 มีห้องประหารชีวิตนักโทษ 3 ห้อง ห้องแรกจำลองการประหารชีวิตด้วยดาบ"
"การประหารชีวิตนักโทษกลางแจ้ง และเสียบหัวประจาน เพื่อมิให้มีผู้ใดเอาเยี่ยงอย่าง"
"นายเหรียญ เพิ่มกำลังเมือง เพชรฆาตดาบคนสุดท้ายของประเทศไทย"
"ดาบของจริงที่นายเหรียญตัดคอคนมาแล้วนับไม่ถ้วน อยู่ๆ ก็ขนลุกซะงั้น!"
"ห้องที่สอง จำลองการประหารชีวิตด้วยปืน"
"แค่เห็นก็เสียวแล้ว โอ้ย! แอร์ก็เย็น หนาวๆๆ"
"เห็นภาพนี้แล้วหน้าซีดใจชืดอย่างกับไก่ต้มเลยตอนนี้"
"ห้องสุดท้าย การประหารชีวิตนักโทษด้วยวิธีฉีดยาพิษเข้าสู่ร่างกายในปัจจุบัน"
,,,, ,,,,
ทีนี้เดินตามผมไปดูคุกของจริงกันดีกว่า แต่ใครจะมาชมที่นี่ต้องติดต่อแม่บ้านที่อาคาร 1 ก่อนนะ เพราะเขาปิดตลอดถ้าไม่มีคนมาดู กันพวกคนจรเข้ามาทำความเสียหาย วันนั้นนอกจากผมแล้ว ยังมีชาวต่างชาติอีก 2-3 คน ผมเห็นป้าแกสปีกอิงลิชฟุดฟิดพอไฟกับฝรั่งคล่องปร๋อ อึ้งครับอึ้ง! ขอต้อนรับเข้าสู่แดน 9 คุกที่มีไว้สำหรับนักโทษอุกฉกรรจ์..
"คุกสร้างพร้อมเรือนจำ ตัวอาคารมี 2 ชั้น ชั้นละ 34 ห้อง ส่วนชั้นบนปิดเพราะไม่มีอะไร"
"ฆ้อง ระฆัง สำหรับเรียกนักโทษ และป้ายกฏเหล็กที่ใช้ควบคุมนักโทษ"
"ป้าแกบอกว่าที่นี่เพิ่งทาสีใหม่ไม่กี่ปีมานี้ แต่ก่อนสีดูไม่จืด ฝาผนังมีแต่ศิลปะของนักโทษ"
"หลักประหารชีวิตที่เคยใช้งานจริง แค่ยืนมองจากข้างนอกก็หวิวแล้ว"
"แท่นปืนประหารชีวิต ตั้งห่างประมาณ 4 เมตร เลื่อนขึ้น-ลงได้ เพื่อปรับระดับให้ตรงกับหัวใจ"
"ผ้าขาวม้าและตะขอเหล็ก ที่ผู้ต้องขังใช้ปีนกำแพงหนี"
"อุปกรณ์การเล่นพนัน"
"อาวุธที่ผู้ต้องขังทำขึ้นเพื่อใช้ต่อสู้เจ้าพนักงงานหรือก่อเหตุร้าย"
"อุปกรณ์ที่ผู้ต้องขังทำขึ้นเพื่อเสพยา"
"ห้องการลักลอบขนยาเสพติดเข้าเรือนจำ"
"ยาเสพติดที่เจ้าพนักงานยึดได้จากผู้ต้องขัง"
"ตัวอย่างที่นอนมาตรฐาน"
"ตัวอย่างที่นอนจริงจากเรือนจำบางขวาง"
"ตัวอย่างที่นอนนักโทษชายในยุคต่อมา"
"ห้องขังเดี่ยว โครงสร้างทำจากเหล็กยึดผนัง แบบที่เห็นกันในหนัง"
"โต๊ะผู้พิพากษาผู้ต้องขังในเรือนจำ"
"ห้องน้ำผู้ต้องขัง ถ้าตอนใช้งานอยู่คงไม่ต้องสืบ ว่าสภาพจะเป็นยังไง"
,,,, ,,,,
ทีนี้ไปดูห้องขังอีกฝั่งหนึ่งเป็นส่วนของเครื่องมือ-อุปกรณ์ ที่ใช้ทรมานนักโทษในสมัยก่อน
"ตะกร้อช้างเตะ ทำด้วยหวายขนาดใหญ่ พอใส่คนเข้าไปแล้ว จะมีเหล็กแหลมโผล่จากด้านใน แล้วใช้ช้างเตะไป-มา ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตละว่ะ ต้นกำเนิดมาจากนครศรีธรรมราช(มิน่าเล่า..ทำไมคนใต้ถึงดุ!)"
"เบ็ดเหล็ก ใช้เกี่ยวคอนักโทษ แล้วชักรอกเชือกดึงรั้งค้างไว้ให้ตัวลอยสูงจากพื้น"
"ฆ้อนตอกเล็บ ทำด้วยไม้แก่น ปลายข้างหนึ่งแหลม ใช้สำหรับใส่เข้าไประหว่างเล็บและเนื้อ แล้วใช้ฆ้อนตอกไม้เข้าไป โอยตายตั้งแต่ยังไม่ตอกแล้ว"
"หีบทรมาน เป็นหับขนาดพอดีตัว เมื่อเข้าไปนอนอยู่ข้างในแล้วจะพลิกตัวไมได้ ทำให้อึดอัด"
"ไม้บีบขมับ ใช้ไม้สองอันบีบขมับทั้งสองข้างเพื่อกดให้เจ็บปวด จนกว่าจะยอมรับสารภาพ"
"ไม้ขาหย่าง เป็นเครื่องมือลงทัณฑ์ ใช้สำหรับประจานโทษให้หลาบจำ"
"สมอ ทำด้วยไม้เนื้อแข็งมีน้ำหนักมาก ตรึงด้วยโซ่สวมเท้านักโทษที่ทำผิดวินัย"
"ขื่อ เป็นเครื่องพันธนาการ ใช้จองจำนักโทษ ซึ่งเป็นโทษทางอาญาควบคู่กับการจำคุก ใช้ใส่มือและเท้าทั้งสองข้าง"
"ตะโหงก ทำด้วยไม้มีลักษณะคล้ายขื่อ ใช้สวมที่คอ แต่สามารถเดินไปมาได้ ใช้มือทำงานได้ แต่หลบหนียาก มักใช้กับนักโทษที่มีโทษหนัก หรือผู้ร้ายที่ส่งไปคุมขังป้องกันการหลบหนีระหว่างทาง"
"เครื่องพันธนาการ เป็นเครื่องมือใช้จองจำผู้กระทำความผิด สมัยโบราณใช้ในการลงโทษนักโทษอุกฉกรรจ์ หรือนักโทษที่มีนิสัยดื้อด้านด้วย"
"หวาย เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเฆี่ยนตีนักโทษ เป็นเครื่องมือไต่สวนคนร้ายที่ถูกกล่าวหา เพื่อให้รับผิด"
"ดาบที่ใช้ประหารชีวิต มีรูปร่างต่างกัน แล้วแต่ครูเพชรฆาตจะทำขึ้น เริ่มใช้สมัยกรุงศรีอยุธยาและเลิกใช้ในสมัยรัชกาลที่ 7 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์"
"มีดตัดสายมงคล, มีดตัดส้นเท้า เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบการประหารชีวิต โดยใช้มีดตัดสายมงคลต่างๆ รอบลานประหาร และเพชรฆาตจะใช้มีดตัดส้นเท้า เพื่อให้ข้อเท้าหลุดจากตรวน หลังจากที่นักโทษถูกประหารชีวิต(ดีนะที่ไม่ตัดก่อน!)"
"คบเพลิง สำหรับส่องทาง การนำนักโทษประหารออกจากคุกไปตัดคอที่วัด มักนำนักโทษลงเรือพายไปตามลำคลองให้ทันเวลาย่ำรุ่งประมาณ ตีสาม ซึ่งยังมืดมาก ส่วนธงแดงสำหรับปักบริเวณลานประหารเพื่อให้รู้ว่าบริเวณนี้มีพิธีประหารชีวิต ห้ามฝูงชนมากีดขวาง"
"ศาลเพียงตา เป็นที่ตั้งเครื่องสังเวยและดาบสำหรับประหารชีวิต จัดตั้งขึ้นเพื่อใช้ในพิธบวงสรวงก่อนการดำเนินการประหารชีวิต"
"ไม้เสาหลักกลม มีไว้สำหรับปักขึงผ้ากันแดดและกันฝูงชนมิให้รุกล้ำเข้ามาในระหว่างทำพิธีสังเวยหรือบวงสรวง"
"ชุดผู้คุมและนักโทษ ห้องนี้ต้องเดินผ่านเพื่อไปอีกฝั่งของคุก น่ากลัวมากห้องนี้ เสียวสันหลังวูบ.."
"แดดร่มลมตกก็มีคนมาเตะตะกร้อกันที่ลานหน้าประตูเรือนจำ"
,,,, ,,,,
เสียวสันหลังครับ! เหมือนเป็นนักโทษคนหนึ่งที่ติดคุกจริงๆ เลย บรรยากาศขมุกขมัว เพราะทุกอย่างจริงไม่ใช่ลวง ผมว่าสมัยก่อน เรื่องของวิธีการทรมานหรือบทลงโทษผู้ที่กระทำความผิดนั้น อาจจะดูโหดเหี้ยมป่าเถื่อนเหลือเกิน แต่มันคงดีกว่าที่มีแต่กฏหมายเหยาะแหยะ ผ่อนผันแล้วผ่อนผันอีก ประกันตัวแล้วประกันตัวอีก คนสมัยนี้ถึงได้ไม่เกรงกลัวการกระทำใดๆ ที่ผิดจริยธรรม เอาเข้าจริงถ้าขุดเอากฏเหล็กเดิมๆ มาใช้ ผมว่าประเทศเราต้องมีเรือนจำมากกว่าห้างสรรพสินค้า และมีพิธีการประหารชีวิตบ่อยครั้งที่สุด จนติดกินเนสบุ๊คเป็นอันดับหนึ่งชัวร์ เห็นด้วยกับผมบ้างไหมครับ คุณผู้ชม??