ประเทศไทยเมืองพุทธ แต่กลับมีคดีฆาตกรรม เกิดขึ้นแทบทุกวัน โดยเฉพาะคดี ที่ผู้ฆ่านั้นมี อยู่ในสถานะพิเศษ ผู้ต้องหามีอาชีพที่สูงส่งอย่าง “แพทย์” หรือ “หมอ” ยิ่งได้รับความสนใจมาก เพราะแพทย์ได้ชื่อว่าเป็น ‘ผู้ให้ชีวิต’ แต่เมื่อมาเป็น ‘ผู้พรากชีวิต’ เสียเอง จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจและ ซับซ้อน ซ้อนเงื่อน เราจึงขอย้อนรอยคดีดัง เปิดแฟ้มสยอง คดี “หมอโหด” ฆาตกรรมในตำนาน
คดีนวลฉวี ย้อนไปเมื่อ 50 กว่าปีก่อนเกิดคดีเขย่าขวัญคนกรุงเมื่อมีผู้พบศพพยาบาลสาวถูกฆ่าข่มขืนอย่างทารุณแล้วโยนศพทิ้งน้ำบริเวณสะพานนนทบุรี ซึ่งต่อมาถูกเรียกกันว่าสะพานนวลฉวีจุดเริ่มต้นมาจากในช่วงปี 2501 นายแพทย์อธิปได้พบรักกับนวลฉวีที่จังหวัดลำปาง จนกระทั่งตัดสินใจจดทะเบียนสมรสกันเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2502 แต่หลังจากนั้นเพียง 6 วัน นายแพทย์อธิปได้จดทะเบียนสมรสซ้อนกับนางสาวสมบูรณ์ สืบสมานอีกคน ปมปัญหาจึงเริ่มก่อตัวขึ้น 13 กรกฏาคม 2502 นวลฉวีได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลพญาไท ให้ดำเนินคดีกับหมออธิปในข้อหาทำร้ายร่างกาย โดยขณะเข้าแจ้งความนวลฉวีมีบาดแผลที่ตาซ้ายและจมูกมีรอยช้ำบวม จนกระทั่งช่วงเย็นของวันที่ 10 กันยายน มีพยานพบเห็นนายแพทย์อธิป ขับรถพานวลฉวีเดินทางออกไปจากโรงพยาบาลยาสูบ ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายที่มีผู้พบเห็นนวลฉวีในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ ก่อนที่เธอจะถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม
คดีศยามล ก็เป็นอีกหนึ่งคดีที่สร้างความสลดหดหู่ยิ่งนักเกิดขึ้นเมื่อ ปี 2536 เมื่อมีผู้พบศพพยาบาลสาวถูกฆ่าโดยอำพรางว่าเป็นการขมขื่นและทิ้งศพไว้ในรถเก๋งนิสสัน สีขาว ทะเบียน ก-2344 ประจวบคีรีขันธ์ ในพื้นที่ อ.บ้านลาด จ.ประจวบฯ โดยมีลูกสาววัย 2 ขวบ ร้องไห้กอดศพและคอยซับเลือดผู้เป็นแม่อยู่ทั้งคืนซึ่งผู้ที่บงการสั่งฆ่าก็ไม่ใช่ใครอื่น นั่นก็คือ นายแพทย์บัณฑิตโฆษิตชัยวัฒน์ แพทย์ประจำโรงพยาบาลหัวหิน ซึ่งก็เป็นสามีของเธอนั่นเอง
คดีหมอเสริม สาครราษฎ์ ก่อเหตุขณะเป็นนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 2 ด้วยการฆ่าหั่นศพ นางสาวเจนจิราพลอยองุ่นศรี แฟนสาว โดยหมอเสริมให้การว่าเกิดผิดใจกันที่มีชายอื่นมาพัวพันแฟนของตัวเองก่อเหตุด้วยการใช้ปืนยิงแล้วใช้มีดผ่าตัดเฉือนศพเป็นชิ้นๆทิ้งลงชักโครกจนมีผู้พบชิ้นเนื้อมนุษย์จนนำไปสู่การพิสูจน์ DNA ก็พบว่าตรงกับเจนจิราต่อมาหมอเสริมได้รับพระราชทานอภัยโทษพ้นโทษออกมาเมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา โดยบอกเพียงว่าอยากไปใช้ชีวิตสงบๆไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับใคร
คดีหมอผัสพร แพทย์หญิงโรงพยาบาลรถไฟที่หายตัวไปนานร่วมเดือนกระทั่งกลายเป็นคดีที่นำไปสู่การสืบสวนสอบสวน นายแพทย์วิสุทธ์ บุญเกษมสันติผู้เป็นสามี ซึ่งให้การปฎิเสธมาโดยตลอดจนเมื่อทีมสืบสวนเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นอาคารวิทยนิเวศน์พบคราบเลือดและเส้นผม และหลักฐานสำคัญที่เป็นชิ้นส่วนของมนุษย์ในบ่อพักน้ำเสียของอาคารซึ่งตรงกับ DNA ของหมอผัสพร สอดคล้องกับพยานที่เห็นว่านายแพทย์วิสุทธิ์อยู่กับหมอผัสพรเป็นคนสุดท้ายรวมถึงเรื่องการฟ้องหย่าที่มีปัญหาขัดแย้งกันมานานจนนำไปสู่มูลเหตุจูงใจฆ่าในที่สุด
คดีหมอต้น นายแพทย์ปุรนันท์โลหะนวกุลเจ้าของ โอเคคลีนิก ในสงขลา ตกเป็นผู้ต้องหาจ้างวานฆ่าภรรยาตนเองที่ตั้งครรภ์ได้ 5 เดือน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2551 เริ่มจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจับทีมมือปืนได้ 4 คน และให้การซัดทอดว่าได้รับการว่าจ้างจากนายแพทย์ปุระนันท์5 แสนบาท ให้ลงมือสังหารชนวนขัดแย้งของเหตุสลดครั้งนี้ มาจากเรื่องความเจ้าชู้ของหมอปุรนันท์และเรื่องการตกลงผลประโยชน์สินสมรสที่ไม่ลงตัว
คดีหมอสุพัฒน์ หรือ พันตำรวจเอกนายแพทย์สุพัฒน์เลาหะวัฒนะ แพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัย ในคดีฆาตกรรมอำพราง 2 สามีภรรยา ชาวไร่อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ที่วันนี้กำลังเป็นปริศนาว่าตำรวจจะสามารถหาพยานหลักฐานมาประกอบสำนวนส่งฟ้องได้อย่างไรเมื่อเริ่มเจอเงื่อนงำทางคดีที่ยากขึ้นโยงใยไปสู่คดีมรดกตามมา