ชาวเน็ตจีนขอโทษแทนเพื่อนร่วมชาติ กรณีวีรกรรมที่ วัดร่องขุ่น จ.เชียงราย จนทัวร์จีนถูกแบนไปครึ่งวัน ชี้คนจีนไม่ได้เป็นเหมือนกันทุกคน และพวกเขาก็ละอายต่อสิ่งที่เกิดขึ้นเช่นกัน
กลายเป็นประเด็นฮือฮาทั้งในประเทศไทยและประเทศจีนทีเดียว สำหรับกรณีวีรกรรมของนักท่องเที่ยวจีน ที่ทำให้วัดร่องขุ่น จ.เชียงราย สกปรก ด้วยการทิ้งกระดาษชำระเปื้อนอุจจาระในถังน้ำที่สุขาสีทอง ทำชักโครกเปื้อนอุจจาระเพียบ แถมยังมีการทิ้งผ้าอนามัยที่ใช้แล้วไว้พื้น จนเป็นผลให้ อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ เจ้าของวัดร่องขุ่น ต้องออกมาติดป้ายห้ามทัวร์จีนเข้าวัดร่องขุ่น เป็นเวลาครึ่งวัน
โดยสื่อจีนอย่าง CCTVNews ก็ได้มีการรายงานข่าวเรื่องดังกล่าวเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2558 ซึ่งนอกจากเผยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว CCTVNews ก็ยังได้หยิบยกพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวจีนที่ถูกต่างชาติร้องเรียนเข้ามาบ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการพูดจาหยาบคายในที่สาธารณะ การขีดเขียนหรือแกะสลักยังสถานที่สำคัญทางศาสนา และพฤติกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย จนทางการจีนต้องออกมาเรียกร้องให้นักท่องเที่ยวชาวจีน ศึกษาเรื่องมารยาทในการท่องเที่ยวก่อนเดินทางออกไปท่องเที่ยวต่างแดน พร้อมชี้ให้เห็นว่าพฤติกรรมแย่ ๆ ของนักท่องเที่ยวจีนนั้นส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศและชาวจีนด้วย
จากรายงานดังกล่าว ได้ทำให้มีกลุ่มผู้ใช้อินเทอร์เน็ตชาวจีนจำนวนหนึ่ง เข้ามาแสดงความขอโทษแทนเพื่อนร่วมชาติต่อพฤติกรรมที่น่าละอายเหล่านั้น พร้อมชี้ให้เห็นว่าชาวจีนไม่ได้เป็นเหมือนกันทุกคนด้วย ดังเช่นผู้ใช้ชื่อ Audrey Li ที่ระบุว่า "ผมเป็นคนจีนจากยูนนาน สิ่งที่พวกเขาทำช่างเลวร้ายอะไรขนาดนี้ ผมต้องขอโทษแทนด้วย อย่างไรก็ตามใช่ว่าคนจีนทุกคนจะมีพฤติกรรมเช่นนี้ เราต่างละอายในสิ่งที่พวกเขาทำ และต้องขอโทษแทนด้วย"
เช่นเดียวกับ Yuhao Zhu ที่เข้ามาชี้ว่า "พวกเขาทำในสิ่งที่น่าละอายอะไรเช่นนี้ !! ฉันไม่สามารถทำอะไรได้มากไปกว่าการขอโทษแทนพวกเขา"
ทางด้าน Loh Sien Chi ระบุว่า ในขณะที่ประเทศจีนมีประชากรจำนวนมากกว่า 1.4 พันล้านคน มีคนเพียง 0.01% เท่านั้นที่เป็นพวกไร้การศึกษา ไร้อารยธรรม ซึ่งมีพฤติกรรมที่สร้างความระอาใจให้แม้แต่คนจีนด้วยกันเอง ขณะที่ Gordon Thor ซึ่งเป็นชาวจีน-สิงคโปร์ ก็ได้ออกมาขอโทษแทนนักท่องที่ยวกลุ่มนั้นด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ยังมีชาวเน็ตจีนบางคนที่เสนอให้สื่อโทรทัศน์แห่งชาติของจีน นำเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมานำตีแผ่เพื่อเป็นบทเรียนให้ชาวจีนได้เห็นถึงพฤติกรรมที่น่าละอายเหล่านี้ด้วย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก CCTVNews