‘พระเอก ม.’ หิวขนมหวาน ทิ้งแฟนสาว หิ้วชายชาตรีเข้าโรงแรม

ใน ที่สุดเรื่องราวอันเน่าหนอนของหมู่ภมรดาราก็ล่วงเลยมาจนถึงคืนที่พันหนึ่ง ราตรีซะแล้วคร้าบ... ในฐานะที่เป็นราตรีอันพิเศษอย่างนี้ กระผม “เทพบุตร สุดเวหา” เลยขอจัดบุพเฟ่ต์ชุดใหญ่ ขุดซากศพของพระเอกหล่อแต่หน้าใสมาให้สดับรับฟังกัน

          พระเอกหน้าหล่อคนนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน นั่นก็คือ “ผู้บ่าว ม.” หนุ่มเมืองกรุงฯ อันศิวิไลซ์ และด้วยความที่ถูกส่งไปเรียนโรงเรียนชายล้วน ที่ขึ้นชื่อลือชาว่าเป็นแหล่งรวมเก้ง กวาง บวกกับแฟมิลี่มีแต่อิสตรีพฤติกรรมของพ่อหน้าหล่อคนนี้เลยส่อไปในทางหวานแหวว ไปซะหน่อย

          สมัยเมื่อตอนที่ “ผู้บ่าว ม.” ยังละอ่อนอยู่นั้น หล่อน เอ๊ย! ฮีมักนิยมชมชอบหัวเราะต่อกระซิกกับเพศผู้เป็นอย่างมาก ถึงขั้นถึงเนื้อถึงตัว แถมพลพรรครักก๊วนของพี่ท่านยังจัดอยู่ในจำพวก “แก๊งชะนีกับอีแอบ” อีกต่างหาก ด้วยความที่หน้าตาหล่อเหลา ดูสะอาดสะอ้าน บวกกับลุคส์ที่ดูน่าเจี๊ยะเป็นอย่างมากทำให้กลายเป็นขวัญใจชะนี เก้ง กวางเป็นอย่างยิ่ง ถึงขนาดมีเหยื่อยอมพลีกายถวายข้าวเหนียว ถั่วดำอยู่บ่อยครั้ง

          พอถึงคราววัยแตกสาว ม่ายช่าย...วัยแตก หนุ่มผู้บ่าวที่ชอบเรื่องสวยๆ งามๆ ก็ออกอาการเซลฟ์ว่าตัวเองน่ะหน้าตาดี มาดก็แหวว เอ๊ย! มาดก็เท่ หน้างี้ใสกว่าจิ๊กโก๋ปากซอยแถวบ้านหลายขุม จึงตัดสินใจขออนุญาตบุพการีขึ้นเวทีประชันความใสของวัยรุ่น

          ด้วยความที่หน้าใส บวกกับความสามารถ หรือพูดตามประสาชาวบ้านว่าจริตจะก้านเกินร้อย เลยส่งผลให้กรรมการฟันธงลงทัณฑ์ให้ “ผู้บ่าว ม.” คว้าตำแหน่งไปครอง สงสัยชาติที่แล้วคงคลุกข้าวให้หมา แมว ได้พออิ่มท้องบ้าง เลยส่งผลให้ชาตินี้มีผู้ใหญ่ใจดีมีเมตตาโยนบทละครให้ได้ชิมลางดู

          แต่ครั้นจะเอาพฤติกรรมนะฮ้า! พ่วงไปด้วยประเดี๋ยวคนดูจะคิดว่าเล่นเป็นนางเอก ก็เลยเข้าตำราเก้ง กวาง กลายพันธุ์เป็นละมั่งละอง แอ๊บแมนสุดฤทธิ์ ชนิดชะนีของแท้ยังจับไม่ได้ว่าเป็นพวกเดียวกัน

          ส่วนเรื่องความรักของชี เอ๊ย! ของหล่อน อุ๊ย! ของผู้บ่าวก็ฮอทฮิตติดปรอทใช่ย่อย เพราะ “ผู้บ่าว ม.” เคยจิ๊จ๊ะกับสาวน้อย สาวใหญ่มากมาย จนกระทั่งได้มาป๊ะกับดาราสาวหน้าเศร้า “น้อง ร.” แรกๆ ก็ดูเลิฟๆ กันดีอยู่หรอก แต่ไม่รู้พายเรือ ไปเจอพายุอีท่าไหน นาวารักเลยล่มไม่เป็นท่า พอทัพข่าวไปซักไซร้ไล่เรียงถามถึงเหตุผลที่เลิก ฟาก “น้อง ร.” ก็ขอรูดซิปปิดปากเงียบ พร้อมให้เหตุผลว่าเข็ดจนตาย

          แหม...ก็จะอะไรซะอีกล่ะ เพราะ “น้อง ร.” ของเราเนี่ยไม่ใช่ประเภทพวกชอบเล่นฉิ่งฉาบทัวร์ซะหน่อยจะได้คว้าผู้หญิง (มีองค์) มาควงแก้ขัด

          ก็ใช่ว่า “ผู้บ่าว ม.” จะระคาย อกหักครั้งนี้ก็แค่ขี้เล็บ เพราะเคยมีเสียงลมพัดผ่านลอยแว่วมากระทบหูกระผมว่า ผู้บ่าวที่ชอบฮัมเพลง I will survive รายนี้ ไม่ต้องมีหญิงมาเป่าปี่พระอภัยให้ก็ไม่ตายหรอก เพราะหากเกิดอาการคันขึ้นมาเมื่อไหร่ หันไปใช้บริการพวกบอยทาวน์มาเป่าปี่เพลงแจ๊สให้ฟัง... ก็หายคันแล้ว

          ผ่าง...ผ่าง ล่าสุดมีแมงเม้าท์หน้าบานโฟนอินสายตรงมาเล่าให้กระผมฟังอีกว่า มีครั้งนึงที่ “ผู้บ่าว ม.” ออนทัวร์ไปตจว.จากกลางวันที่เคยขอรับครับผม พอตกดึกยามวิกาลกับตาลปัตรชวนแก๊งชะนีกับอีแอบไประบำเฉิดฉายปาร์ตี้ I will survive กันสนุกสนานจิต

          แดนซ์ไปแดนซ์มาอีท่าไหนไม่รู้ คงเกิดอาการหิวโหยอยากเจี๊ยะของหวานข้าวเหนียวถั่วดำล่ะมั้ง เลยสอยชายอกสามศอกหิ้วขึ้นโรงแรมไปด้วย งานนี้คิดเอาเองละกันว่าจะเกิดอาเพศอะไรต่อ...แล้วก็ว่ากันว่า “ผู้บ่าว ม.” เนี่ยยังชอบไปตะลุ่งตุ้งแช่ในปาร์ตี้สีม่วงที่บ้าน “ไฮโซฯ ปากเป็ด” เป็นประจำ

          ทุกวันนี้ “ผู้บ่าว ม.” ยังก้มหน้ารับกรรมกับชะตาชีวิตที่แสนอาภัพรัก ไอ้ครั้นจะกลับตัวกลับใจขอโอกาสเป็นชายก็เหมือนมีกรรม เพราะชาติที่แล้วคงเคยยิงหนังสติ๊กใส่เก้งกวางไว้ล่ะมั้ง ชาตินี้ถึงไม่สมหวังกับนารีมีที่นาผืนน้อยซะที

          ว่ากันว่าล่าสุดที่ต้องเลิกกับ “แฟนสาวหน้าสวย” เพราะเจ้าตัวยังปักหลักพำนักในแก๊งชะนีที่วี้ดว้ายกระตู้วู๊อยู่จนฝ่ายหญิง ทนไม่ได้

          เฮ้อ! เห็นอย่างนี้แล้วก็อยากจะกระซิบข้างๆติ่งหูเบาๆ ว่า เอาเป็นว่าถ้าคบผู้หญิงไม่เลิศ ก็ลองเปิดตัวคบผู้ชายดู เผื่อจะพบแสงสว่างก็ได้นะจ๊ะ “ผู้บ่าว ม.ม้าคึกคัก”