ทึ่ง 7 เด็กอัจฉริยะอายุน้อยที่สุด ที่ได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัย ทำไปได้ยังไง หลายคนต้องสงสัยแน่นอนว่า เด็กๆ กลุ่มนี้ที่มีอายุ 10 ต้นๆ หรือบางคนยังไม่ไถึง 10 ขวบ จะสามารถเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัย เทียบเท่ากับช่วงอายุวันเรียน 17-18 ปี ได้ยังไง แต่ขอบอกว่าเป็นไปแล้วค่ะ และมีเด็กฉริยะทางการเรียนรู้แบบนี้อีกมากมาย วันนี้ทีนเอ็มไทยขอแนะนำ 5 คนนี้กันก่อน
ทึ่ง 7 เด็กอัจฉริยะอายุน้อยที่สุด ที่ได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัย
1. โช ยาโน (Sho Yano) ผู้ที่มีอายุน้อยที่สุดที่เรียนจบแพทย์
เด็กอัจฉริยะไอคิว 200 จากชิคาโก้ ที่เข้าเรียนมหาวิทยาลัย Loyola ตอนอายุ 9 ปี และสำเร็จการศึกษา เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง เมื่ออายุ 12 ปี และได้รับปริญญาเอกด้านพันธุศาสตร์ระดับโมเลกุลและชีววิทยาของเซลล์ เมื่ออายุ 18 ปี ต่อมาในวัย 21 ปี เขาได้สำเร็จการศึกษาปริญญาเอกทางการแพทย์ สร้างประวัติศาสตร์ให้กับโรงเรียนแพทย์พริตซเกอร์ แห่งมหาวิทยาลัยชิคาโก กลายเป็นผู้ที่มีอายุน้อยที่สุดที่เรียนจบแพทย์ แต่ดูเหมือนว่า ไม่ได้มีเพียง ยาโน เท่านั้นที่มีความฉลาดแบบเหลือเชื่อขนาดนี้ เพราะ ซายูริ น้องสาววัย 15 ปี ของเขา ก็กำลังเรียนปริญญาตรีใบที่ 2 ที่มหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกิ้น ในบัลติมอร์ ด้านการเล่นไวโอลิน หลังจากจบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านชีววิทยาจากมหาวิทยาลัยรูสเวลท์ อ่านเพิ่มเติ่มได้ที่ เด็กน้อยที่้เข้าเรียนแพทย์ตั้งแต่ยังไม่เข้าสู่ช่วงวัยรุ่น
2. Gregory Smith ผู้ก่อตั้งองค์กรที่ให้การสนับสนุนหลักการแห่งสันติภาพ
เกิดในปี 1990 อ่านหนังสือออกตั้งแต่อายุ 2 ขวบ และเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเมื่ออายุ 10 ขวบ ความเป็นอัจฉริยะของเขานั้นยังไม่ได้ครึ่งของเรื่องราวของเด็กหนุ่มคนนี้ เมื่อเขาตัดสินใจออกเดินทางไปทั่วโลกเพื่อรณรงค์เรื่องสันติภาพและสิทธิ เด็ก Gregory Smith เป็นผู้ก่อตั้ง International Youth Advocates ซึ่งเป็นองค์กรที่ให้การสนับสนุนหลักการแห่งสันติภาพและความเข้าอกเข้าใจใน ระหว่างเยาวชนทั่วโลก เขาเคยได้พบกับผู้นำคนสำคัญอย่าง Bill Clinton และ Mikhail Gorbachev และยังเคยปฐกถาต่อหน้าที่ประชุม UN อีกด้วย จากการทำงานด้านมนุษยธรรมนี้ ทำให้เขาได้ถูกเสนอชื่อให้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพถึง 4 ครั้ง แต่ความสำเร็จครั้งล่าสุดที่เขาเพิ่งได้รับคือ…มีใบขับขี่เป็นของตัวเองได้
3. ไอนาน โคว์เลย์ อัจฉริยะทางด้านเคมีชาวมาเลเซีย
ที่สามารถผ่านการสอบเคมี สำหรับเด็กอายุ 16 เมื่อตอนเขาแค่ 7 ปี และปีต่อมาเขาเข้าศึกษาที่สิงคโปร์โพลีเทคนิค ถือว่าเป็นนักศึกษาที่อายุน้อยที่สุดเท่าที่เคยมีมา ส่วนเคล็ดลับความสำเร็จของเขานั้น ไม่มีอะไรเลยจริงๆ เพราะพ่อของเขาบอกว่า เขาไม่เคยสอนอะไรให้แก่ลูกชายเลยแม้แต่น้อย เพียงแต่เขาเรียนรู้
ได้ด้วยตัวเอง
4. ทริสตัน ผัง เด็กอัจฉริยะด้านฟิสิกส์
เขาเริ่มอ่านคณิตศาสตร์ระดับมัธยมเมื่อตอนอายุ 2 ขวบ และผ่านการทดสอบคณิตศาสตร์ของเด็กที่โตกว่าเขา โดยได้คะแนนระดับ A มาตลอด จากนั้นได้รับอนุญาติให้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยให้ศึกษาด้านฟิสิกส์ควอนตัม เมื่ออายุ 12 ซึ่งเขาได้สร้างเว็บไซต์เพื่อแบ่งปันความรู้ต่างๆ ให้กับคนอื่นอีกด้วย
5. เจค็อบ บาร์เน็ต เด็กอัจฉริยะ ว่าที่ไอน์สไตน์คนต่อไป
- เจค็อบ เผยแววอัจฉริยะให้ได้เห็นเมื่ออายุได้ไม่ถึง 1 ขวบซะด้วยซ้ำ เขาเรียนรู้ตัวอักษรได้ก่อนที่เขาจะหัดเดิน ฟังคำสั้นๆ ได้เข้าใจและรู้เรื่อง
- เจค็อบ เชี่ยวชาญด้านดาราศาสตร์ ฟิสิกส์ ส่วนน้องชายอีก 2 คน “อีธาน” มีความสนใจในเรื่องชีววิทยา และ “เวสลี่” สนใจเรื่องอุตุนิยมวิทยา
- เมื่ออายุ 8 ขวบ เจค็อบเข้าเรียนสาขาดาราศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยอินเดียน่า และเรียนจบมหาวิทยาลัยเปอร์ดู ในวัย 10 ขวบ
- เจค็อบ วัย 15 ปี ปัจจุบัน กำลังศึกษาระดับปริญญาโทเ พื่อที่จะต่อปริญญาเอก ในสาขาควอนตั้มฟิสิกส์
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ เจค็อบ บาร์เน็ต เด็กอัจฉริยะ ว่าที่ไอน์สไตน์คนต่อไป
6. อาร์แรน เฟอร์นานเดซ
วัย 14 ปี ชาวอังกฤษ ซึ่งไม่เคยเข้าโรงเรียน แต่เรียนหนังสือด้วยตัวเองโดยมีพ่อเป็นผู้ช่วยสอน จะได้สิทธิเรียนวิชาสาขาด้านคณิตศาสตร์ เขาเคยสอบได้ประกาศนียบัตรขั้นมัธยมด้วยเกรดชั้นเยี่ยม เพียง 5 ขวบ สามารถเอาชนะสถิติของน.ส.รูท ลอวเรนซ์ ซึ่งสอบได้ในวัย 9 ปี ทำให้มหาวิทยาลัยเสนอสถานที่เรียนให้ และถือเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแคมบริจด์ มหาวิทยาลัยชื่อดังก้องโลก อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์นับตั้งแต่ปี 1773
7. เอสเธอร์ โอเคด นักศึกษามหาวิทยาลัยที่อายุน้อยที่สุดในอังกฤษ
ข่าวล่าสุดของเดือนกุมภาพันธ์ ปี 58 เอสเธอร์ โอเคด เด็กหญิงวัย 10 ขวบ จากเมืองวอลซอล ประเทศอังกฤษ ที่เธอกลายมาเป็นหนึ่งนักศึกษามหาวิทยาลัยที่อายุน้อยที่สุดในอังกฤษ หลังจากที่เพิ่งเริ่มเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยเปิดแห่งหนึ่ง เอกคณิตศาสตร์ เมื่อ 3 อาทิตย์ที่ผ่านมา ด้วยวัยเพียง 10 ขวบเท่านั้น
ที่ผ่านมา เอสเธอร์ไม่ได้เข้าเรียนหนังสือในโรงเรียนเหมือนเด็กทั่วๆ ไป แต่เธอเรียนที่บ้าน โดยมี เอฟ ผู้เป็นแม่คอยสอนให้ ซึ่งเธอกล่าวว่า ลูกของเธอทำได้ดีมาก สอบครั้งที่ผ่านมาก็ได้คะแนนเต็ม ตั้งแต่เอสเธอร์ อายุ 7 ขวบ เธอจะคอยถามฉันว่าเมื่อไหร่เธอจะได้เข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยสักที ตอนนั้นฉันก็คิดว่าเธอยังเด็กเกินไป แต่เธอก็จะคอยถามซ้ำไปซ้ำมาว่าเมื่อไหร่ ๆ จนกระทั่งอายุได้ 10 ขวบ เธอก็ยืนยันว่า แม่ หนูว่ามันถึงเวลาที่หนูควรจะเริ่มได้แล้วนะ ในช่วงเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว เอสเธอร์ก็เลยไปสมัครเข้าเรียน สอบสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ รวมไปถึงสอบวิชาเรียงความและคณิตศาสตร์ด้วย หลังจากนั้น 2 เดือน เธอก็ได้รับเลือกให้เข้าเรียน
เอสเธอร์วางแผนว่า เธอจะต้องเรียนจบเกียรตินิยมอันดับหนึ่งให้ได้ภายใน 2 ปี และหลังจากนั้นก็ตั้งใจจะเรียนต่อไปจนถึงปริญญาเอก พร้อมกับใฝ่ฝั่นอยากจะเป็นอภิมหาเศรษฐินี ที่มีธนาคารเป็นของตัวเองด้วย ไม่เฉพาะเอสเธอร์เท่านั้นที่มีพรสวรรค์ด้านคณิตศาสตร์ แต่น้องชายวัย 6 ขวบของเธอก็เดินตามรอยเท้าพี่สาวมาติด ๆ ในวิชาแคลคูลัส และคณิตศาสตร์
ต้องยอมรับและทึ่งในความสามารถของพวกเขาจริงๆ ตอนเราอายุเท่านี้ ยังไม่มีความสามารถเชี่ยวชาญเฉพาะด้านขนาดนี้เลย เก่งฝุดๆ เลยอ่ะ