ตั้งแต่เด็ก ๆ พวกเราต่างเคยได้ยินเรื่องมนุษย์หมาป่าที่เวลาปกติจะมีร่างเป็นเหมือนมนุษย์เราทั่ว ๆ ไป แต่พอถึงคืนพระจันทร์เต็มดวงเมื่อไหร่ก็จะกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่าออกหาเหยื่อเพื่อฆ่ากินเป็นอาหาร แม้เรื่องราวอาจจะดูพิลึกพิลั่น และน่าพรั่นพรึงเกินกว่าความเป็นจริง แต่ทว่ามนุษย์หมาป่าก็ไม่ใช่เรื่องแต่ง แต่กลับเป็นเรื่องที่มีเค้าของความจริงอย่างน่าขนลุก!

 

มนุษย์หมาป่า ศัพท์ภาษาอังกฤษใช้คำว่า Werewolf ซึ่งคำว่า Were เป็นคำอังกฤษดั้งเดิมแปลว่ามนุษย์ และ Wolf ก็แปลว่า หมาป่า จะว่าไปแล้ว ในตำนานเก่า ๆ ต่างก็จะมีมนุษย์ครึ่งสัตว์ตามตำนานท้องถิ่นอยู่แล้ว เช่น มนุษย์เสือหรือเสือสมิงในอินเดียก็มี ในไทยก็มีในแอฟริกามีเรื่องเล่ามนุษย์สิงโต ในอเมริกาใต้มีเรื่องมนุษย์เสือดำ ว่ากันว่าการอยู่ที่คลุกคลีใกล้ชิดกับป่าและสัตว์ ธรรมชาติมักมีสิ่งที่น่าพิศวงแอบแฝงอยู่เสมอ และพระจันทร์เต็มดวงก็มีอิทธิพลกับการเป็นมนุษย์หมาป่า มีความเชื่อกันอย่างจริงจังในสมัยก่อนว่าคนธรรมดาไม่ควรอยู่นอกบ้านในคืนพระจันทร์เต็มดวง เพราะอาจมีอันตรายจากมนุษย์หมาป่าได้ หรืออาจกลายเป็นมนุษย์หมาป่าได้หากถูกมนุษย์หมาป่า ถ่ายทอดให้จากการดื่มน้ำจากแก้วเดียวกัน หรือถูกน้ำลายของเขา หรือถูกกัด หรืออาจโดนคำสาปให้เป็นมนุษย์หมาป่า

 

มนุษย์หมาป่าสามารถถ่ายทอดถึงลูกหลานได้มีการบันทึกไว้ว่ามนุษย์หมาป่าเป็นการกลับมาของดวงวิญญาณของคนที่มีบาป และเคยทำความชั่วไว้ในตอนที่ยังมีชีวิต รูปลักษณ์ของคนที่เป็นมนุษย์หมาป่านั้นในตอนปกติ เขาจะมีขนตามร่างการมากผิดปกติ ไม่ใช่ขนดกธรรมดา แต่มีขนหยาบ ๆ และยาวกว่าคนขนดก มีท่าเดินแปลก ๆ เล็บมือเท้ายาวและบิดเบี้ยว ๆ ไม่กล้าสบตาคนตรง ๆ หรือนาน ๆ มีบางคนที่อยากมีพลังพิเศษ อยากเป็นมนุษย์หมาป่า จึงพยายามไปเรียนหรือไปหาคนเก่งทางคาถาให้มาใช้เวทมนตร์คาถาทำพิธีต่าง ๆ ให้กลายเป็นมนุษย์หมาป่า พิธีกรรมเริ่มด้วยการเปลื้องผ้าร่ายมนตร์ ใส่หน้ากากขนหมาป่า การแปลงหริอกลายร่างจะเกิดขึ้นเฉพาะเวลากลางคืน ในคืนพระจันทร์เต็มดวงเท่านั้น

 

เมื่อกลายร่างแล้วก็จะมีการออกล่าเหยื่อส่วนมากเหยื่อจะมีทั้งมนุษย์และสัตว์ โดยมากจะเป็นเพศหญิงที่ยังอยู่ในวัยรุ่น พอรุ่งเช้าตะวันขึ้นก็จะกลายร่างเป็นคน มนุษย์หมาป่าที่ถูกจับได้หรือถูกฆ่าจะเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์ แต่กรณีที่การเป็นมนุษย์หมาป่านั้นไม่ได้เต็มใจจะเป็นก็สามารถรักษาให้หายได้ โดยต้องกรีดให้เลือดหยด 3 หยด หรือต้องถูกเรียกชื่อจริงในตอนที่ยังกลายเป็นร่างหมาป่าอยู่ บางคนเชื่อว่ากิ่งมะกอกสามารถนำมาใช้ป้องกันมนุษย์หมาป่าได้ อีกอย่างหนึ่งก็คือ กระสุนเงิน แต่มนุษย์หมาป่าที่จับได้ส่วนมากจะถูกนำไปเผา เพราะสมัยนั้นคิดว่าเมื่อฆ่าคนอย่างโหดร้ายก็ต้องถูกประหารเท่านั้น

บางตำนานบอกว่ามนุษย์หมาป่าเกิดขึ้นได้ จากการใช้คาถาปลอมแปลงตัว บางรายใช้น้ำมันศักดิ์สิทธิ์ที่ร่ายมนตร์แล้วนำมาลูบไล้ร่างกาย สวมเสื้อคลุมหนังหมาป่า หรือเอาเข็มขัดหนังหมาป่ามาคาดเอว ทำพิธีบ่อย ๆ แล้วผู้นั้นจะกลายร่างในคืนวันเพ็ญ ผสมผสานกับการได้กลิ่นอายของดอกไม้พิเศษบางชนิด แล้วมีขนสีน้ำตาลขึ้นปกคลุม หูจะยาวตั้งตรงชี้ขึ้น มีเขี้ยวแหลมคมงอกออกมาจากปาก ดวงตาแดงฉานเมื่อต้องแสงไฟ สามารถมองเห็นได้ไกล ๆ ในที่มืด คนที่ปกติสายตาสั้นเมื่อกลายร่างแล้วก็จะมีสายตาดีเป็นพิเศษไม่ต้องอาศัยแว่นตาเลยจากนั้นก็จะออกล่าเหยื่อเพื่อฉีกกินเนื้อสด ๆ หรือดื่มเลือดทั้งเป็น

มนุษย์หมาป่าไม่ได้เป็นเพียงเรื่องปรัมปราในตำนาน แต่จากบันทึกในประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศส ในปี ค.ศ. 1573มนุษย์หมาป่าเคยออกอาละวาดในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง จนชาวบ้านต้องหวาดผวาเพราะมีเด็กหลายคนถูกสังหารอย่างสยดสยอง และฆาตกรได้กินเนื้อหนังศพ ผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับได้นามว่า กิลส์ การ์นิเยร์ เขายอมรับสารภาพหลังจากถูกทรมาน แล้วก็เลยโดยลงทัณฑ์ด้วยการเผาทั้งเป็น อีกรายที่เป็นข่าวดังมากคือ เด็กหนุ่มอายุแค่ 14 ปี ชื่อ ของ เกรนิเยร์ ซึ่งก่ออาชญากรรมอยู่ในแถบมณฑลบอโดซ์ ฝรั่งเศส เขาสารภาพ ว่าได้ฆ่าและกินเนื้อเด็ก ๆ มา แล้วมากกว่า 50 คน! มีพยานเห็นเขาทำร้ายผู้คนขณะอยู่ในร่างมนุษย์หมาป่า! มนุษย์หมาป่า รายนี้นอกจากไม่หวาดกลัวการถูกจับแล้ว เขายังเล่าด้วยอารมณ์ขันอีกด้วยในระหว่างให้การในศาลว่า เขาเคยไล่ล่าหญิงชราผู้หนึ่งแล้วก็พบว่าเนื้อเหี่ยวย่นของนางนั้นเหนียวเหมือนหนังควาย

ตอนแรกคดีนี้เกรนิเยร์ถูกพิพากษาให้เผาทั้งเป็น แต่ต่อมาพอเรื่องขึ้นถึงศาลสูง ผู้พิพากษารับฟังคำให้การของเกรนิเยร์ที่ว่า ตอนผมอายุ 10 ขวบ เพื่อนบ้านได้พาผมไปพบกับเจ้าป่าผู้หนึ่งในป่าลึก เจ้าป่าได้ มอบหนังสุนัขป่าให้แก่ผม จากนั้นผมก็ออกล่าเหยื่อไปทั่ว ผู้พิพากษาได้ปรึกษากับจิตแพทย์แล้วสรุปว่าเขาป่วยจากอาการประสาทหลอนจึงไม่มีความผิด ในที่สุดจึงส่งเขาไปอยู่ที่วัดคาทอลิกแห่งหนึ่งตลอดชีวิต ส่วนที่เยอรมัน ในปี ค.ศ. 1589 มีชายชื่อ ปีเตอร์ สตับบ์ ถูกจับข้อหาปลอมแปลงร่างเป็นมนุษย์หมาป่าโดยใช้เข็มขัดหนังหมาป่ามาคาดเอวเขาได้ฆ่าทั้งผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก ๆ ติดต่อกันเป็นเวลานานถึง 25 ปีก่อนจะถูกจับ สตับบ์รับสารภาพและให้การว่า สำหรับผู้หญิงนั้น เขาลงมือข่มขืนก่อนแล้วจึงฆ่า จากนั้นจึงกินศพของเธอ! ในที่สุดสตับบ์ถูกตัดสินให้ประหารอย่างที่ต้องทนทุกข์ทรมานแสนสาหัสก่อนจะสิ้นใจ

เมื่อเวลาผ่านไป ในแวดวงนักวิชาการที่ศึกษาเรื่องภูตผีปีศาจแฟนตาซีเหล่านี้ได้สรุปเคสของมนุษย์หมาป่าว่า อาจเป็นอาการป่วยทางจิตอย่างหนึ่งที่ผู้ป่วยคิดไปเองว่า ตนเป็นมนุษย์หมาป่า แล้วก็เลยพยายามทำตัวอย่างนั้น แต่ก็มีผู้แย้งอีกว่า แล้วพละกำลังอันมหาศาลที่มีนั้นเล่า ทั้ง ๆ ในยามปกติบางคนเป็นคนไม่มีเรี่ยวแรงขนาดจะจับตัวผู้ชายร่างใหญ่ ๆ มาฉีกทิ้งได้ด้วยมือเปล่า แม้ไม่มีใครหาข้อพิสูจน์ได้แต่ความเชื่อและเรื่องราวของมนุษย์หมาป่าก็ยังถูกเล่าขานต่อไปสู่ยุคสมัยใหม่ต่อไปอย่างไม่รู้จะจบสิ้นเมื่อใด

Credit: http://www.siam55.com/news17412.html