โรคระบาดถือเป็นสาเหตุหลักสาเหตุหนึ่งที่สามารถคร่าชีวิตมนุษย์ให้ล้มตายได้เป็นจำนวนมาก มาดูกันว่าในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของมนุษยชาติ มีโรคระบาดอะไรที่ทำให้คนตายได้เป็นจำนวนมากที่สุด

9. เอดส์

ขอบคุณภาพจาก photoinstinct

          โรคเอดส์ถูกพบครั้งแรกเมื่อปี 1981 ที่สหรัฐอเมริกา โดยเหตุเกิดจากการใช้เข็มฉีดยาร่วมกันและการร่วมเพศที่ไม่มีการป้องกัน และในปี 1994-1995 เอดส์ถูกจัดให้เป็นโรคที่เป็นสาเหตุการตายมากที่สุด ซึ่งจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มียาที่สามารถรักษาโรคเอดส์ให้หายขาดได้ มีเพียงยาต้านไวรัสที่ช่วยหยุดการกระจายตัวของเชื้อ HIV เท่านั้น

8. กาฬโรค

ขอบคุณภาพจาก simplenewz

          โรคนี้จัดว่าเป็นโรคที่ทำให้มนุษย์ล้มตายมากที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยมีการระบาดครั้งใหญ่ถึง 3 ครั้ง ทั้งที่เมดิเตอร์เรเนียน ยุโรป และจีน ผู้ป่วยส่วนมากจะติดมาจากสัตว์ฟันแทะจำพวกหนู และติดต่อมายังคนด้วยกันเอง อาการของคนที่เป็นกาฬโรคจะมีทั้งต่อมน้ำเหลืองโต เป็นไข้ ปวดเนื้อปวดตัว ซึ่งสมัยก่อนไม่มียารักษาให้หาย คนที่เป็นโรคนี้มีแต่ตายเท่านั้น แต่ปัจจุบันถ้าตรวจพบไวและให้ยาปฏิชีวนะทันก็จะรักษาได้

7. ฝีดาษ

ขอบคุณภาพจาก wikipedia

          ฝีดาษ มีอีกชื่อว่า ไข้ทรพิษ โรคนี้เคยแพร่ระบาดรุนแรงในหลายทวีปทั่วโลก และถึงขั้นที่ทำให้อาณาจักร Aztec ที่ยิ่งใหญ่ต้องล่มสลายมาแล้ว เพราะชาวเมืองติดเชื้อนี้ โดยผู้เป็นฝีดาษจะมีอาการปวดเนื้อตัว มีไข้ เป็นผื่นตามผิวหนังและเกิดเป็นตุ่มน้ำทั่วร่างกาย ปัจจุบันการป้องกันโรคนี้ทำโดยการปลูกฝี

6. อหิวาต์

ขอบคุณภาพจาก phys.org

          โรคอหิวาต์ ที่เรียกเต็มๆว่า อหิวาตกโรค หรือเรียกง่ายๆ ว่าโรคห่า เคยระบาดมาแล้วทั้งอินเดีย สหรัฐ ยุโรป จีน ตะวันออกกลาง ฯลฯ ทำเอามีคนเสียชีวิตจากโรคนี้ไปกว่า 3-5 ล้านคนทั่วโลก โดยอาการของโรคนี้คือการถ่ายท้องเป็นน้ำและอาเจียนอย่างรุนแรง จนมีชื่อโรคนี้ว่า ลงราก ผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีจะเกิดอาการขาดน้ำและแร่ธาตุจนช็อกถึงตายได้

5. มะเร็ง

ขอบคุณภาพจาก thewestsidestory

          เป็นโรคที่คนส่วนใหญ่คุ้นหูกันดี เพราะเป็นหนึ่งในสาเหตุการตายของคนทั่วโลกเป็นลำดับต้นๆ แถมเจ้าโรคมะเร็งนี่ยังป้องกันได้ยาก เป็นได้แบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว แถมยังเกิดได้กับแทบทุกส่วนในร่างกายอีก และการรักษาให้หายขาดยังทำได้เฉพาะกับรายที่ตรวจเจอในระยะเริ่มต้นเท่านั้น ที่สำคัญอัตราการเป้นโรคมะเร็งของคนทั่วโลกดุจะสูงขึ้นๆ ทุกปีเสียด้วย

4. ไข้หวัดนก

ขอบคุณภาพจาก miabaga

          โรคไข้หวัดนก พบครั้งแรกที่อิตาลี ราวต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 ในตอนนั้นเรียกกันว่าไข้หวัดสเปน ก่อนที่ภายหลังจะเกิดการแพร่ระบาดไปยังส่วนอื่นๆ ของโลก และเมื่อไม่กี่ปีนี้ เชื้อนี้ก็กลับมาอีก ซึ่งเกิดกับคนที่สัมผัสใกล้ชิดกับสัตว์ปีก โดยปกติจะไม่ติดต่อในคน ยกเว้นเกิดการกลายพันธุ์ของไวรัส

3. โรคซาร์ส

ขอบคุณภาพจาก riskcomthai

          SARS หรือที่เรียกกันอย่างเป็นทางการว่า โรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง เป็นโรคที่เพิ่งจะค้นพบประมาณ 10 ปีมานี้ แต่ก็มีฤทธิ์รุนแรง คนที่เป็นโรคนี้จะอ่อนเพลีย เป็นไข้ อุจจาระเหลว เบื้ออหาร หนักไปถึงขั้นหายใจลำบาก และเพียงแค่หายใจใกล้กันก็สามารถติดเชื้อได้ ทำเอาหน้ากากอนามัยกลายเป็นแฟชั่นไปพักใหญ่ในช่วงหนึ่ง

2. เมอร์ส-คอฟ MERS-CoV

ขอบคุณภาพจาก vcharkarn

          ชื่อเต็มๆ ของโรคนี้ คือ Middle East respiratory syndrome corona virus ซึ่งก็พอทำให้เราเดาได้ว่าต้นกำเนิดของโรคนี้อยู่ที่ตะวันออกกลาง อาการของโรคคล้ายกับซาร์ส แต่รุนแรงกว่ามาก และยังไม่มียาที่สามารถรักษาได้ด้วย

1. อีโบลา

ขอบคุณภาพจาก nbcnews

          กำลังเป็นที่สะพรึงของผู้คนทั่วโลกอยู่ในขณะนี้ สำหรับไวรัสอีโบลา ที่อานุภาพการทำลายล้างรุนแรง ผู้ที่ติดเชื้อนี้จะมีอาการไข้ ปวดตัว อาเจียน ถ่ายท้อง บางรายอาจมีผื่นด้วย ที่สำคัญถ้าติดเชื้อนี้เพียง 10 วันก็เสียชีวิตได้แล้ว และโอกาสรอดมีเพียง 10% เท่านั้น ซ้ำร้ายยังไม่มียาที่รักษาได้และควบคุมการระบาดยากเอามากๆ