ผู้ร้องเรียนอึ้ง เพื่อนส่งพัสดุมาจากญี่ปุ่น พอถึงไทยเจอค่าภาษีและค่าธรรมเนียมรวมแล้วกว่า 11,000 บาท
เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนรายหนึ่งร้องเรียนผู้สื่อข่าวเดลี่นิวส์ออนไลน์ หลังได้รับพัสดุจากเพื่อนชาวญี่ปุ่นที่ส่งของใช้มาให้ แต่ไปรษณีย์ไทยได้เรียกเก็บค่าภาษีประมาณ 11,000 บาท ซึ่งคิดว่าเป็นจำนวนที่แพงมหาโหด สร้างความฉงนให้กับผู้ร้องเรียนรายนี้เป็นอย่างมาก
ผู้ร้องเรียนเล่าว่า เพื่อนชาวญี่ปุ่นได้ส่งของกินของใช้มาให้ตนทั้งสิ้น 17 รายการ โดยเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ครีมล้างหน้า เครื่องสำอาง สำลี ยาสีฟัน เป็นต้น แต่แล้วเมื่อไปรับพัสดุที่ด่านศุลกากรไปรษณีย์ ทางไปรษณีย์ได้แจ้งว่าต้องเสียค่าภาษีสินค้าประมาณ 11,000 บาทก่อนจึงจะนำพัสดุดังกล่าวออกไปได้ จึงเกิดความไม่เข้าใจ เพราะไม่ได้นำสินค้ามาจำหน่าย แต่เอามาใช้ จึงตัดสินใจไม่รับพัสดุ และส่งพัสดุกลับคืน
แต่แล้วเมื่อตัดสินใจส่งพัสดุกลับคืน ไปรษณีย์ไทยก็ได้แจ้งให้เสียค่าธรรมเนียมอีก โดยคิดค่าอากรขาเข้า 861 บาท ทั้งที่ไม่ได้นำเข้า และค่าธรรมเนียมอีก 200 บาท ซึ่งเมื่อรวมกับค่าพัสดุส่งคืน 1,760 บาท สรุปแล้วผู้ร้องเรียนจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการตีกลับพัสดุทั้งหมด 2,821 บาท
อย่างไรก็ดี หลังจากที่มีการติดต่อสอบถามข้อเท็จจริงไปยัง นายธนิต วัฒน์ธนนันท์ผอ.ส่วนบริการศุลกากรไปรษณีย์ นายธนิตได้อธิบายว่า ด่านศุลกากรไปรษณีย์จะยกเว้นอากรในกรณีที่พัสดุมีราคาไม่เกิน 1,000 บาท หรือเป็นตัวอย่างสินค้าที่ไม่มีราคาในทางการค้า แต่สำหรับกรณีนี้ สินค้าที่ส่งมาเป็นอาหารและเครื่องสำอาง ระบุราคารวม 95,716 เยน (ราว 26,000 บาท) ค่าขนส่ง 1,760 บาท และค่าประกันภัยสินค้าอีก 1% ค่าสินค้านำเข้า 30% ค่าภาษี 7% รวมทั้งสิ้นต้องเสียภาษีทั้งหมด 11,253 บาท
จากค่าภาษีและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ข้างต้น หากผู้รับไม่ต้องการเสียภาษี ภายใน 60 วัน พัสดุจะกลายเป็นสินค้าตกค้าง ต้องทำลายตามกระบวนการ แต่หากผู้รับเลือกส่งพัสดุกลับคืนถึงต้นทางตรงนี้ก็จะมีค่าธรรมเนียมในการขนส่งสินค้ากลับไปด้วยเป็นปกติ เหตุการณ์แบบนี้มักจะเกิดขึ้นเป็นประจำ ผู้รับสินค้าส่วนใหญ่ไม่เข้าใจในกระบวนการนี้
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม