เรียบเรียงโดย Clipmass.com

 

อาชีพ "นักโบราณคดี" เป็นอาชีพที่ต้องค้นหาความจริง และหลักฐานในอดีต ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ ดังนั้นนักโบราณคดีจึงต้องทำการขุดเพื่อค้นหาซากหลักฐาน มายืนยันความจริง 

 

โดยในวันนี้เราจะพาคุณมาชม 10 สิ่งสุดสยองที่นักโบราณคดีเคยขุดเจอ ซึ่งแต่ละอย่างนั้นนอกจากจะสยองแล้ว ยังมีเรื่องราวที่ชวนให้ขนลุกอีกด้วย เพราะเป็นเรื่องราวที่โหดเหี้ยมเป็นอย่างมาก

 

ซึ่ง 10 สิ่งนี้จะมีอะไรบ้างและโหดเหี้ยม ชวนให้สยดสยองขนหัวลุกแค่ไหนนั้น ไปชมกันเลย

 

 

1.ซากเด็กถูกเผา

 

 

ในระหว่างการขุดที่ Alaskan นักโบราณคดีพบซากที่เชื่อว่าเป็นเด็กสามขวบถูกเผาและฝัง ซึ่งคาดว่าน่าจะมีอายุกว่า 11,500 ปีแล้ว

 

 

2.ซากการกินมนุษย์ด้วยกันเอง

 

 

ในปี 2010 กลุ่มนักวิจัยที่สเปนพบหลักฐานที่เชื่อว่าเป็น “การกินมนุษย์” หรือ Cannibalism ของ Neanderthal family โดยสิ่งที่นักโบราณคดีขุดเจอคือ ซากกระดูกของชาย 3 คน หญิง 3 คน เด็ก 2 คน และทารกอีก 1 คน กระดูกของทุกร่างที่เจอมีร่องรอยของการเคี้ยวและแทะ

 

 

3.ไวกิ้งหัวขาด…

 

 

ในขณะที่มีการขุดเพื่อสร้างรางรถไฟเพิ่มในอังกฤษนั้น ได้มีการขุดเจอซากกระดูกโดนตัดหัวมากมายของนักรบไวกิ้งถูกฝังอยู่ ซึ่งนักวิจัยต่างสันนิษฐานว่า พวกเขาน่าจะถูกสังหารด้วยการตัดหัวจากด้านหน้า โดยชาวบ้านในหมู่บ้านแห่งนี้ที่ต้องการล้างแค้นการบุกรุกของชาวไวกิ้ง

 

 

4.กรงเล็บของ “นกโบราณ”

 

 

ในปี 1986 ลึกลงไปในถ้ำ Mount Owen ที่นิวซีแลนด์นั้น นักโบราณคดีขุดพบกรงเล็บที่ยังอยู่ในสภาพดีมาก และน่ากลัวสุดๆ ของสิ่งมีชีวิตที่คาดว่าน่าจะเป็น “นกโบราณ” ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ ที่ชื่อ Upland Moa

 

 

5.กระโหลกที่ถูก “เสียบ” จนทะลุ

 

 

นักโบราณคดีค้นพบสิ่งที่โหดมากเมื่อราว 8,000 ปีก่อน ที่ก้นทะเลสาบที่แห้งแล้ว ชื่อ Motala ที่สวีเดน เขาพบกระโหลกที่มีรอบเจาะทะลุ และที่หลอนกว่านั้นคือ บางกระโหลก มีชิ้นส่วนของกระโหลกคนอื่นๆ ติดอยู่ด้วย

 

 

6.The Grauballe Man

 

 

The Grauballe Man คือซากมัมมี่ของมนุษย์พรุพีต ที่พบโดยนักโบราณคดีชาวอังกฤษ ที่ยังอยู่ในสภาพไม่เน่าสลาย ทั้งผม และเล็บ และที่น่าทึ่งกว่านั้นคือ นักวิจัยคาดว่า ชายผู้นี้คือผู้เสียสละ หลังจากดูแผลที่คอแล้ว น่าจะถูกสังหารโดยการเปิดช่องคอ ซึ่งเป็นพิธีสังเวยของมนุษย์ในยุคเหล็ก เพื่อให้การเก็บเกี่ยวเป็นไปได้ดีขึ้น

 

 

7.The Vampire Of Venice

 

 

ในอดีตนั้น เป็นเรื่องจริงที่ว่า ผู้คนจะกลัวว่า คนที่รักที่จากไปแล้ว จะกลายเป็นผีดิบ จึงมีวิธีหลายๆ วิธีที่ป้องกันไม่ให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น อาทิ เผาศพและฝังเอาหน้าคว่ำลง หรือถ้าไม่ อีกวิธีคือการเอาอิฐใส่ไว้ในปากของผู้ตาย เพื่อป้องกันไม่ให้ผีดิบมาดูดเลือดได้ และภาพด้านบนคือสิ่งที่พวกเขาขุดเจอ เป็นกระโหลกที่มีอิฐใส่อยู่ โดยพบที่เวนิส อิตาลี

 

 

8.คนแรกของโลกที่เป็นโรคเรื้อน

 

 

ถึงแม้ว่าโรคเรื้อน จะไม่ใช่โรคระบาดมากนัก แต่ก็อยู่กับประวัติศาสตร์โลกมานานพอสมควร นักโบราณคดีสำรวจที่อินเดีย และพบว่ามีหัวกระโหลกอายุ 4,000 ปี ที่เชื่อว่าเป็นมนุษย์คนแรกของโลกที่เป็นโรคเรื้อน และจริงๆ แล้วตามธรรมเนียมฮินดู คนตายต้องเผา เพราะฉะนั้น การที่กระโหลกชิ้นนี้หลุดรอดมาได้ หมายความว่า คนนี้ต้องถูกขับไล่ออกจากหมู่บ้าน และตายโดยไม่มีใครเผาเขานั่นเอง

 

 

9.กระดูกเด็ก

 

 

เมื่อนักโบราณคดีตรวจสอบ bathhouse ยุคโรมันโบราณที่อิสราเอล สิ่งที่พวกเขาต้องอึ้งก็คือ ด้านล่าง บริเวณท่อระบายน้ำนั้น พวกเขาเจอกระดูกของเด็กทารกจำนวนมาก ซึ่งไม่รู้ว่าเพราะอะไรจึงต้องทิ้งในท่อระบายน้ำ และหวังว่าพวกเขาคงตายก่อนที่จะอยู่ในนั้นนะ…

 

 

10.สงครามเคมียุคโบราณ

 

 

2,000 ปีก่อน ชาวโรมันครอบครองเมืองดูรา ในซีเรีย แต่เปอร์เซียต้องการเมืองนี้จึงขุดอุโมงค์เพื่อบุก ชาวโรมันก็ขุดอุโมงค์เช่นกัน เพื่อให้ไปเจอกับเปอร์เซียเพื่อป้องปราม แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ พอเปอร์เซียรู้ว่า โรมันก็ขุด และกำลังมา พวกเขาทำกับดักปล่อยแก๊สพิษลงไปในอุโมงค์ สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เมื่อทหารโรมันสูดเข้าไปแล้ว ปอดเขาก็กลายเป็นกรดทันที โดยถึงตอนนี้ นักวิจัยยังไม่รู้ว่า แก๊สพิษตัวนั้นคืออะไร…

ข้อมูลและภาพประกอบจาก