เป็น เวลาถึง 20 ปี ที่นางดิออพ ซื่อสัตย์ต่อการบรรจงทา "ครีมผิวขาว" ลงบนใบหน้าก่อนนอนทุกคืน ด้วยความเชื่อว่า มันจะทำให้เธอดู "สวยขึ้น" กระทั่งเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เมื่อเธอ สังเกตเห็น "จุดดำๆ" หลายจุดเริ่มปรากฏขึ้นบนผิวหน้า!!!
"ฉันอยากมีผิวขาว เพราะคนชอบบอกว่า มันทำให้คุณดูสวยขึ้น" หญิงวัย 50 ซึ่งอายเกินกว่าจะยอมบอก "ชื่อ" ของเธอแก่ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีในกรุงดาการ์ ประเทศเซเนกัล เธอขอบอกแค่นามสกุล และยอมออกมาให้สัมภาษณ์เพื่อเตือนให้ผู้หญิงได้รู้ถึงอันตรายของครีมทาผิว ขาว ที่น่ากลัวเกินกว่าหลายคนคาดคิด!!!
จากรายงานของเอเอฟพีบอกว่า ครีมทาผิวขาว มักจะมีส่วนผสมของสเตียรอยด์ และไฮโดรควิโนน ซึ่งแพทย์ผิวหน้าบอกว่า เป็นสารอันตรายต่อผิวหนัง และควรมีการใช้อย่างระมัดระวังภายใต้การดูแลของแพทย์ แต่ถึงกระนั้นตามท้องตลาดในเซเนกัล ก็มีครีมทาหน้าขาว และผลิตภัณฑ์บำรุงความงามที่มีส่วนผสมของสารดังกล่าว วางขายเกลื่อนกลาด ล่อใจลูกค้าที่เชื่อว่า ผิวขาว ทำให้ผู้หญิงดูสวยขึ้น
ทั้งนี้ จากรายงานของแพทย์ผิวหนังชาวเซเนกัล และฝรั่งเศส เมื่อปี 2546 บอกว่า มีการใช้ครีมหน้าขาวกันอย่างแพร่หลายในกลุ่มผู้หญิงแถบทวีปแอฟริกา โดยประมาณว่า มีผู้หญิงราว 25-67% ที่ใช้ครีมทาหน้าขาวเป็นประจำ
สำหรับ คนที่ใช้ไวเทนนิ่งครีม หรือครีมทาเพื่อช่วยให้ผิวหน้าขาวมานานถึง 20 ปี อย่าง นางดิออพ เจ้าตัวยอมรับเลยว่า มันทำใจยากมากที่จะให้เลิกทา ถึงแม้จะเห็นจุดดำๆ เริ่มปรากฏ ส่อเค้าไม่ดีบนใบหน้า
"ในการ หักห้ามใจ เลิกใช้ ฉันได้รับกำลังใจจากเพื่อนคนหนึ่ง หากไม่มีเพื่อนคนนี้คอยช่วย ฉันคงเลิกได้ลำบากมาก เพื่อนคนนี้ นำนิตยสารหลายเล่มมาให้ฉันดูรูปผู้หญิงหลายคนที่กำลังได้รับผลข้างเคียงจาก การทาครีมผิวขาว พอฉันเห็นรูปเหล่านั้น ฉันก็บอกตัวเองเลยว่า ฉันต้องหยุดทามันจริงๆ แล้ว"
ครีมไวเทนนิ่งต่างๆ เป็นที่นิยมมากในกรุงดาการ์ เฉพาะที่ตลาดแซนดากา ตั้งอยู่ใจกลางกรุง บรรดาพ่อค้า แม่ค้า เล่าว่า แต่ละวันสามารถขายครีมหน้าขาวได้วันละหลายกล่อง ซึ่งมีหลากยี่ห้อ ในท้องตลาด อาทิ ครีมยี่ห้อ เอ็กซ์-ไวท์ (X-White), เคลียร์ (Clear) และไวท์ (White) ส่วนครีมราคาถูกที่สุด เป็นครีมนำเข้าจากประเทศมาลี และประเทศไอวอรี่ โคสต์ ที่วางขายกันในราคาเพียง 1 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 34 บาท ส่วนครีมและโลชั่นที่มีคุณภาพสูง อาจมีราคาสูงถึงขวดละ 25,000 ฟรังก์แอฟริกัน หรือราว 1,830 บาท
ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีเล่าว่า ได้พูดคุยกับมูนาสส์ สาววัย 21 ที่กำลังเดินหาซื้อครีมทาหน้าขาวอยู่ในตลาด เธอเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ทาครีมไวเทนนิ่งวันละ 2 ครั้ง และหมดเงินไปกับค่าครีมเหล่านั้น ประมาณเดือนละ 40,000 ฟรังก์แอฟริกัน (ราว 2,430 บาท) จำนวนเงินที่มากกว่าเงินเดือนค่าแรงขั้นต่ำของคนเซเนกัล และเหตุผลที่เธอลงทุนใช้ครีม แม้ต้องหมดเงินไปมากมาย ก็เพราะ "ผู้ชายชอบผู้หญิงผิวขาวเนียน"
ผู้ สื่อข่าวถามมูนาสส์ด้วยว่า เธอรู้หรือเปล่าว่า ครีมพวกนี้มีอันตรายต่อสุขภาพของเธอ แล้วก็ได้รับคำตอบว่า "ฉันไม่รู้หรอกว่า ครีมพวกนี้มีอันตรายต่อสุขภาพฉัน" จากนั้นเธอก็ขอตัวไปเดินเลือกซื้อครีมต่อด้วยท่าทีไม่รู้สึกทุกข์ร้อนใดๆ
ด้วย ความที่เป็นครีมที่ผู้ใช้มีความเสี่ยงที่จะได้รับผลข้างเคียงจากสารส เตียรอยด์ และไฮโดรควิโนน โดยเฉพาะ ไฮโดรควิโนน ซึ่งเป็นตัวยาที่ประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป ได้ประกาศห้ามใช้ตั้งแต่ปี 2544 ในฐานะเป็นสารที่มีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนัง ส่วนที่เซเนกัล ก็มีการประกาศห้ามเด็กนักเรียนชั้นประถมและมัธยมศึกษาใช้ครีมทาผิวขาว หากจับได้ว่านักเรียนคนใดใช้อาจเสี่ยงที่จะถูกไล่ออกจากโรงเรียน แต่ถึงกระนั้นในเซเนกัลก็ยังมีคนนิยมใช้ครีมเหล่านี้อย่างแพร่หลาย
ซู แซน อูมู เนียง แพทย์ผิวหนังโรงพยาบาลเอริสไทด์ แดนเทค ในกรุงดาการ์ เปิดเผยกับเอเอฟพีว่า ปริมาณการใช้ครีมทาผิวขาวในเซเนกัลได้เพิ่มปริมาณขึ้นมากว่า 10 ปีแล้วด้วยซ้ำ
"ครีมเหล่านี้วางขายกันอย่าง เสรี ทั้งที่ควรเป็นครีมที่แพทย์เท่านั้นเป็นผู้สั่งจ่ายให้คนไข้ตามอาการต่างๆ ทางผิวหนัง เจ้าหน้าที่ควรสั่งแบน ห้ามการขายครีมทาผิวขาว และให้ความรู้แก่ประชาชนถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ครีมเหล่านี้"
หมอ ซูแซนประเมินว่า คนไข้ที่มีอาการติดเชื้อทางผิวหนังอย่างรุนแรงที่มาให้เธอรักษา เกิดจากการใช้ไวเทนนิ่งครีม ถึง 60% "มันกลายเป็นปัญหาสุขภาพที่กำลังเกิดขึ้นในสังคม ผู้หญิงทุกระดับอายุ ทุกระดับชั้นต่างใช้ครีมเหล่านี้ เพราะว่ามีวางขายทุกระดับราคาให้สามารถเลือกซื้อกันได้"
คุณหมอเล่าว่า ปัญหา ที่คนไข้มาพบเธอบ่อยๆ หลังจากใช้ครีม มีทั้งปัญหาเรื่องสิว จุดด่างดำ และผิวหนังบวมจากการใช้ครีม "ความเสี่ยงต่างๆ ที่จะทำให้ผิวหนังเกิดการอักเสบ ติดเชื้อ เกิดจากสารสเตียรอยด์ ซึ่งสามารถทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด"
คุณหมอยังพูด ถึงปัญหานี้ ซึ่งยากจะแก้ว่า ส่วนหนึ่งมาจากการขาดความมั่นใจ และความเชื่อของผู้หญิง ที่เชื่อว่า การมีสีผิวที่ขาว นั่นหมายถึงความทันสมัย มีเสน่ห์ และช่วยทำให้ตนดูมี ระดับทางสังคมขึ้น
สำ หรับนางดิออพ ซึ่งเลิกทาครีมได้แล้ว เธอเล่าว่า เธอรู้สึกแปลกใจมากกับคำชมที่ไม่คาดฝันว่าจะได้ยิน "ทุกคนต่างบอกว่า ฉันดูสาวขึ้น แม้แต่สามีฉันเอง"