พบซากฟอสซิลดึกดำบรรพ์ กว่า 360 ปี ที่คลอง จ.พิษณุโลก คาดเคยเป็นทะเลมาก่อน

พบซากฟอสซิลดึกดำบรรพ์ กว่า 360 ปี ที่คลองห้วยผึ้ง จ.พิษณุโลก ถูกหินปูนห่อหุ้มอยู่อย่างดี คาดพื้นที่นี้เคยเป็นทะเลมาก่อน

วานนี้ (13 กุมภาพันธ์ 2558) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านบ้านน้อยซุ้มขี้เหล็ก ได้พบซากฟอสซิลพลับพลึงทะเลดึกดำบรรพ์ ภายในคลองห้วยผึ้ง หมู่ 10 อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก จึงรุดไปตรวจสอบ

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบพบว่าฟอสซิลดังกล่าวอยู่ภายในไร่ของ นายณัฐพงษ์ แก้วนวล อายุ 40 ปี อาชีพเกษตรกร โดยนายณัฐพงษ์เล่าว่า หลังจากสภาพอากาศแห้งแล้ง ทำให้น้ำในลำคลองห้วยผึ้งแห้งขอดและลดลง ตนจึงลงน้ำหาปลาและพบซากฟอสซิลพลับพลึงทะเลดึกดำบรรพ์โดยบังเอิญ จึงแจ้งไปยังนักอนุรักษ์กลุ่มเรารักเนินมะปราง

จากการตรวจสอบพบว่า ซากฟอสซิลดังกล่าวถูกห่อหุ้มด้วยหินปูนขนาดใหญ่จำนวน 4 ก้อน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันใช้แปรงขัดและน้ำราดชะล้างจนสะอาด เผยให้เห็นซากฟอสซิลของสิ่งมีชีวิตลักษณะคล้ายเปลือกหอยแบนยาวประมาณ 5-10 เซนติเมตร เกาะติดฝั่งแน่นอยู่ทั่วทั้งก้อน

นอกจากนี้ยังพบว่า ที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำผาท่าพล ซึ่งอยู่ห่างจากคลองห้วยผึ้งจุดที่สำรวจพบซากฟอสซิล ประมาณ 5 กิโลเมตร โดยพื้นที่เป็นถ้ำและภูเขาหินปูน ก็มีการสำรวจพบซากฟอสซิลพลับพลึงทะเลดึกดำบรรพ์เช่นกัน

โดยภูเขาผาท่าพลนั้น จัดเป็นเขาหินปูนอยู่ในมหายุคพาลีโอซีน(Palaeocene) และอยู่ในยุคย่อยคาร์บอนิฟอรัส (Caboniferus) มีอายุราว 286-360 ล้านปีมาแล้ว ซึ่งภูเขาหินปูนบริเวณนี้ ส่วนมากเกิดจากการทับถมของเปลือกหอย พลับพลึงทะเล หรือปะการัง เมื่อตายแล้วถูกฝังในดินโคลนหรือทราย ก่อนจะเน่าเปื่อย และถูกฝังรักษาไว้ในหิน บางครั้งเปลือกหรือกระดูกของสัตว์ก็จะถูกแทนที่ด้วยแร่ธาตุ แต่ยังคงรูปร่างไว้เช่นเดิม และจากการศึกษาจำแนกซากดึกดำบรรพ์ทำให้ทราบว่า บริเวณนี้เคยเป็นทะเลมาก่อน