สวัสดีเอวี่บอดี้ที่น่ารักของนุ้งเหมียวทุกคน วันนี้เหมียวจะพาเพื่อนๆ มารู้จักกับจุดกำเนิดและที่มาที่ไปของ 5 สัญลักษณ์เหล่านี้ ที่จะทำให้หลายคนอึ้งไปตามๆ กันแน่นอนเมี๊ยว
สงสัยแล้วใช่ไหมว่า สัญลักษณ์พวกนี้คืออะไร เหมียวเชื่อว่าหากบอกไป ทุกคนจะต้องร้อง อ๋อ!! เพราะ 5 สัญลักษณ์เหล่านี้ เป็นสิ่งที่เราทุกคน คุ้นเคยกันดี แต่ยังไม่มีใครรู้ต้นกำเนิดที่แท้จริงของมันใช่ไหมล่ะ วันนี้เหมียวมีคำตอบมาให้
สัญลักษณ์ Bluetooth
Bluetooth นั้นเป็นชื่อของกษัตริย์ประเทศเดนมาร์ก ‘Harald Bluetooth’ โดยในขณะนั้นทรงปกครองประเทศเดนมาร์กและนอร์เวย์ และมีพระประสงค์ที่จะรวมประเทศให้เป็นหนึ่งเดียว
เนื่องจากเจ้า Bluetooth คือเทคโนโลยีที่เชื่อมกับ PC และ อุตสาหกรรม Cellular เข้าด้วยกัน ก็เหมือนกับการรวมประเทศของกษัตริย์ยังไงล่ะเหมียว จึงทำให้ผู้ผลิต Bluetooth Wireless คิดว่าชื่อของกษัตริย์นี่แหละที่เข้ากับผลิตภัณฑ์ของตนฝุดๆ
ส่วนสัญลักษณ์ของ Bluetooth ที่เราได้เห็นกันทุกวันนี้ ก็เกิดมาจากการนำเอาอักษรย่อของราชาองค์นี้ ในภาษา Danish Runes มาผสมกันยังไงล่ะเมี๊ยว
Command Key ของ Apple
แท้จริงแล้วสัญลักษณ์นี้ เรียกกันว่า ‘Gorgon Loop’ ซึ่งมักจะปรากฏอยู่ตามท้องถนน ในประเทศสวีเดน เพื่อเป็นการบอกให้รู้ว่า มีสถานที่ใดบ้างที่น่าสนใจและเหมาะกับการไปตั้งแคมป์
ปุ่มปิดเปิด (Power Button)
เพื่อนๆ รู้ไหมว่า? ปุ่มเปิดปิดที่เราเห็นกันนี้มีการนับใช้กันมานานมาก ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เลยนะเหมียว แถมยังมีแรงบันดาลใจมาจากระบบ Binary System อีกด้วย โดยหมายเลข 1 แทนความหมายว่า ‘เปิด’ ส่วนหมายเลข 0 แทนความหมายว่า ‘ปิด’ ยังไงล่ะเมี๊ยว
หลายคนอาจจะยังนึกภาพไม่ออก อ่ะๆ มาดูกันว่าถ้าเอาเลข 1 กับ 0 มาฟิตเจอริ่งกัน ก็จะได้หน้าตาแบบนี้….
แล้วพอจับๆ ให้มันเข้าที่เข้าทางหน่อย ก็จะออกมาเป็นสัญลักษณ์ที่เราคุ้นเคยกันยังไงล่ะเมี๊ยว
สัญลักษณ์ USB
ฟังดูอาจจะอลังการงานสร้างไปหน่อย เพราะ USB ที่เราใช้กันทุกวันนี้ ได้แรงบัลดาลใจมาจากรูปร่างตรีศูล ของเทพเนปจูน เลยนะเมี๊ยว เจ๋งป่ะล่ะ!! ดังนั้นรูปร่างของตรีศูลที่มีลักษณะแบ่งเป็น 3 ง่ามนั้น สามารถสื่อความหมายได้ว่า USB คือเทคโนโลยีที่สามารถเชื่อมต่อได้กับหลายอุปกรณ์นั่นเองเมี๊ยว
สัญลักษณ์สันติภาพ
เพื่อนๆ รู้ไหมว่าสัญลักษณ์สันติภาพนี้ จุดเริ่มต้นของมันมาจากการต่อต้านนิวเคลียร์ใน Britain ยังไงล่ะ แต่หากใครที่อยากรู้ว่าสัญลักษณ์นี้ ไม่เห็นด้วยกับการใช้นิวเคลียร์อย่างไร
ก็ลองนำนำอักษร N กับ D ซ้อนทับเข้าด้วยกันดูสิ…
ซึ่งตัว N แทนคำว่า Nuclear และ D แทนคำว่า Disagree รวมกันก็จะได้คำว่า Nuclear Disagreement ยังไงล่ะเมี๊ยว
หากใครยังสงสัยหรืองงๆ อยู่ ก็สามารถคลิกเข้าไปดูในนี้ได้เลย
ไม่น่าเชื่อเลยว่าสัญลักษณ์ที่เราใช้กันแทบจะทุกวัน และเห็นกันอยู่บ่อยๆ นี้ จะมีที่มาที่ไปที่สุดซับซ้อน ถ้าชอบกดไลค์ ใช่กดแชร์ด้วยนิฮะเมี๊ยว