ปั่นชิล..ชิล ชมวิวริมฝั่งโขงที่ “นครพนม”

พระธาตุนคร ที่วัดมหาธาตุ         “แม่น้ำโขง” เป็นแม่น้ำสายสำคัญสายหนึ่งของประเทศในประชาคมอาเซียน ด้วยความที่แม่น้ำสายนี้ไหลผ่านหลายประเทศ และถือเป็นจุดเชื่อมต่อและเป็นเขตแดนระหว่างกัน อย่างที่ประเทศไทยนั้นก็เป็นเส้นเขตแดนที่แบ่งระหว่างไทย-ลาว
       
       บนสองฝั่งแม่น้ำโขงนั้น มีทัศนียภาพที่สวยงาม กับความเป็นธรรมชาติอันสมบูรณ์ของพื้นที่ หากว่าได้ลองมีโอกาสมาปั่นจักรยานชิลๆ เลียบริมแม่น้ำโขง ชมทิวทัศน์สวยๆ รับลมเย็นๆ ให้สบายใจ “ตะลอนเที่ยว” คิดว่า คงจะเป็นการท่องเที่ยวที่น่าประทับใจแน่ๆ
       
       ในทริปนี้ เราก็มีโอกาสมาปั่นจักรยานเลียบริมแม่น้ำโขงกันที่ อ.เมือง จ.นครพนม ร่วมกับโครงการ “Tour of Happiness ปั่นชิล ชิล ชมวิวสองฝั่งโขง สุขที่สุดที่นครพนม”ที่ทางสายการบินนกแอร์ ร่วมมือกับ ททท.นครพนม ชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพ จ.นครพนม และไบค์ ไฟน์เดอร์ 
  ปั่นชมวิวริมฝั่งโขง         ทริปปั่นจักรยานสบายๆ ของเราเริ่มต้นในช่วงบ่ายแก่ๆ บริเวณสวนเทิดพระเกียรติ (ท้ายเมือง) ในตัวเมืองนครพนม เมื่อเลือกจักรยานคันที่ถูกใจได้แล้ว ก็เริ่มออกปั่นไปตามถนนเลียบริมแม่น้ำโขง หรือที่เรียกว่า “ถนนสุนทรวิจิตร” ซึ่งเส้นทางที่จะปั่นในวันนี้มีระยะทางประมาณ 4-5 กิโลเมตร
       
       เริ่มออกกำลังขาปั่นจักรยานไปสักครู่ ก็ถึงจุดหมายแรกที่ “วัดมหาธาตุ” ซึ่งวัดแห่งนี้สร้างขึ้นมาพร้อมๆ กับการสร้างเมืองนครพนม และยังเป็นสถานที่ประดิษฐาน “พระธาตุนคร”พระธาตุประจำวันของผู้ที่เกิดวันเสาร์
       
       พระธาตุนคร เป็นพระธาตุทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างด้านละ 4.85 เมตร สูงประมาณ 24 เมตร มีลักษณะตามแบบพระธาตุพนมองค์เดิม มีการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่แล้วเสร็จเมื่อปี 2465 ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระธาตุพระสีวลี พระพุทธรูปทองคำ และของมีค่าต่างๆ เป็นที่เคารพสักการะของคนนครพนม 
  พระติ้ว พระเทียม         สักการะองค์พระธาตุเพื่อความเป็นสิริมงคลกันแล้ว ก็ออกเดินทางเลาะเลียบริมโขง ปั่นจักรยานเลียบตัวเมืองนครพนมไปเรื่อยๆ ซ้ายมือจะเป็นอาคารบ้านเรือน มี “ตลาดอินโดจีน” ซึ่งเป็นแหล่งชอปปิ้งสินค้าจากไทย จีน ลาว และเวียดนาม ที่มีทั้งกระเป๋า รองเท้า เครื่องใช้ไฟฟ้า
       
       ส่วนทางขวามือระหว่างเส้นทางปั่นจักรยาน ก็จะเป็นวิวทิวทัศน์แม่น้ำโขง ที่หากมองไปอีกฝั่งหนึ่งก็จะเป็นประเทศเพื่อนบ้านของเรา
       
       ใกล้ๆ กับตลาดอินโดจีน เป็นอีกหนึ่งจุดแวะพัก คือ “วัดโอกาส (ศรีบัวบาน)” ที่นี่ก็เป็นวัดเก่าแก่เช่นเดียวกัน โดยเป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองนครพนม “พระติ้ว พระเทียม” ซึ่งประดิษฐานอยู่ภายในหอพระ บริเวณกลางวัด
       
       พระติ้ว พระเทียม ประดิษฐานอยู่ด้านข้างกัน โดยพระติ้วประทับอยู่ด้านขวา พระเทียมอยู่ด้านซ้าย พระติ้วเป็นพระพุทธรูปปางเพชรมารวิชัย ทำด้วยไม้ติ้วบุทองคำ ส่วนพระเทียมมีลักษณะเดียวกับพระติ้ว แต่ไม่ได้บุทองคำ 
  พิพิธภัณฑ์จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม (หลังเก่า)         นอกจากจะปั่นจักรยานมาไหว้พระทำบุญกันแล้ว บนถนนสุทรวิจิตรสายนี้ ก็ยังมีบ้านเรือนเก่าๆ สวยๆ ให้ได้ชมกันด้วย อย่างสถานที่ที่เราปั่นมาพักเหนื่อยกันที่ “พิพิธภัณฑ์จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม (หลังเก่า)” ซึ่งเป็นจวนผู้ว่าเก่า แต่ปัจจุบันจัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์ ตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก ได้รับอิทธิพลจากฝรั่งเศสในช่วงสมัยสงครามอินโดจีน มีอายุเกือบร้อยปีแล้วแต่ยังคงรักษาสภาพและความสวยงามของตัวอาคารไว้ได้เป็นอย่างดี ในอดีตจวนผู้ว่าฯ แห่งนี้ได้ผ่านภารกิจอันยิ่งใหญ่ คือการเป็นที่ประทับแรมของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เมื่อครั้งทั้งสองพระองค์เสด็จพระราชดำเนินมาเยี่ยมเยียนราษฎรในจังหวัดนครพนมในระหว่างวันที่ 12-13 พฤศจิกายน 2498 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความซาบซึ้งใจแก่ชาวนครพนมเป็นที่ยิ่ง 
  โต๊ะอดีตผู้ว่าราชการจังหวัด         ภายในพิพิธภัณฑ์แบ่งเป็น 5 โซน ได้แก่ โซนที่ 1 จะเป็นการเล่าเรื่องอาคารแห่งความทรงจำผ่านภาพ เป็นการเล่าที่มาของบุคคลที่เคยอาศัยอยู่ และประวัติของผู้ว่าราชการจังหวัดที่สร้างอาคารแห่งนี้ โซนที่ 2 จะเป็นภาพเล่าเรื่องเกี่ยวกับย่านเก่านครพนม ที่ผู้ชมจะได้เห็นบรรยากาศเก่าๆ ของชุมชนริมโขง และบางส่วนที่เป็น UNSEEN จ.นครพนม ส่วนโซนที่ 3 คือ ม่วนซื่นนครพนม ที่โซนนี้จะมีภาพที่เล่าเรื่องราวความหลากหลายของศิลปวัฒนธรรม รวมถึงวิถีการใช้ชีวิตร่วมกันระหว่างคนไทย ลาว และเวียดนาม โซนที่ 4 เป็นนิทรรศการเล่าเรื่องด้วยภาพ และเสียงระหว่างที่ในหลวงและพระราชินีเสด็จมาประทับแรม และโซนที่ 5 จะเป็นการจัดแสดงห้องบรรทมใหญ่ที่ทั้ง 2 พระองค์ทรงประทับแรม 
  จัดแสดงห้องบรรทมใหญ่ที่ในหลวงและพระราชินีเคยเสด็จประทับ         พักผ่อน และเดินชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่สวยงามกันแล้ว ก็ออกตัวปั่นจักรยานกันไปต่อยัง “วัดนักบุญอันนา หนองแสง” วัดในศาสนาคริสต์ที่สร้างขึ้นในปี 2469 โดยคุณพ่อเอทัวร์ นำลาภ อดีตอธิการโบสถ์ ลักษณะอาคารมีหอคอยคู่ยอดแหลม โดยโบสถ์หลังนี้เป็นศูนย์กลางของคริสต์ศาสนิกชนท้องถิ่น ในช่วงสงครามเวียดนามโบสถ์นักบุญอันนาได้รับความเสียหายจากระเบิด และได้รับการบูรณะซ่อมแซมในภายหลัง โดยในช่วงวันคริสต์มาส ชาวคริสต์แต่ละชุมชนจะประดิษฐ์ดาวขนาดใหญ่รูปแบบต่างๆ แล้วแห่มารวมกันไว้ที่นี่ 
  วัดนักบุญอันนา หนองแสง         ปั่นจักรยานเที่ยวกันมาจนเย็นย่ำ ก็แวะพักขา นั่งชมพระอาทิตย์ค่อยๆ ลับขอบฟ้า ทิ้งแสงสีส้มสวยๆ ไว้ให้เราได้ชม พอฟ้าเริ่มมืด ก็เคลื่อนตัวกลับไปในทิศทางเดิม บนถนนสุนทรวิจิตร มุ่งหน้าไปแถวๆ “หอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์” ซึ่งเป็นหอนาฬิกาที่ชาวเวียดนามได้สร้างไว้เป็นอนุสรณ์แก่ชาวนครพนมเมื่อคราวย้ายกลับประเทศ สร้างไว้เมื่อปี 2503 และในละแวกหอนาฬิกานี้เองที่มีเรือนไม้เก่าสวยๆ อยู่หลายหลัง
       
       หากใครมาเที่ยวในช่วงคืนวันศุกร์-เสาร์ บริเวณหอนาฬิกา ก็จะมีการจัด “ถนนคนเดินนครพนม” ที่จะเปิดถนนแล้วเปิดให้ร้านค้าเข้ามาวางขายสินค้า ซึ่งก็มีทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ ของใช้ และยังมีอาหารการกินมากหน้าหลายตา ที่ล้วนแต่น่าลองชิมทั้งนั้น 
  หอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์         ถึงจะเป็นเส้นทางปั่นจักรยานสั้นๆ เพียงแค่ 5 กิโลเมตร แต่จุดที่ได้แวะพักระหว่างทางนั้นถือว่าเป็นไฮไลต์สำคัญของตัวเมืองนครพนมเลยทีเดียว ได้แวะเข้าไปไหว้พระ สักการะพระธาตุ แวะชมความสวยงามของโบสถ์ และจวนผู้ว่าฯ หลังเก่า ที่ยังคงสถาปัตยกรรมสวยงามไว้ให้ได้ดู นอกจากนี้ ระหว่างทางก็ยังได้รับน้ำใจน่ารักๆ ที่ชักชวนให้แวะพักกินน้ำให้เย็นใจก่อนจะปั่นต่อไป ที่สำคัญ ยังเพลิดเพลินกับวิวสองฝั่งโขงที่ถือว่าสวยที่สุดอีกแห่งหนึ่งเลยทีเดียว
       
       การมาปั่นจักรยานเที่ยวครั้งนี้ เรียกว่าเต็มอิ่ม ครบรส และอิ่มเอมใจมากๆ เลยทีเดียว 
  เดินเล่นถนนคนเดินนครพนม         * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
       
       

       
       

       
       สอบถามรายละเอียดการเดินทางและการท่องเที่ยวใน จ.นครพนม ได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครพนม โทร. 0-4251-3490-1
       
       สำหรับการเดินทางสู่ จ.นครพนม มีสายการบินนกแอร์ ให้บริการเที่ยวบิน กรุงเทพฯ (ดอนเมือง) - นครพนม ทุกวัน วันละ 1 เที่ยวบิน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่www.nokair.com หรือโทร. 1318
Credit: http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9580000013484
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...