8 ข้อควรรู้! กิน “ถั่ว” อย่างไรให้ได้ประโยชน์

(ภาพประกอบจาก www.goodfoodgoodlife.in.th)

        เมื่อพูดถึง “ถั่ว” เชื่อได้ว่าคงเป็นหนึ่งในสิ่งที่ชื่นชอบของใครหลายคน เนื่องจากรสของถั่วนั้นมีความมัน ทำให้ยิ่งกินยิ่งเพลินจนหยุดไม่ได้
       
       พืชตระกูลถั่วนั้นเรียกได้ว่ามีหลากหลายชนิด และการกินถั่วไม่ถูกวิธีก็อาจทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อได้ เพราะถั่วเป็นอาหารที่ค่อนข้างที่จะย่อยยาก และถ้ากินไม่ถูกต้องก็อาจทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหารได้อีกด้วย
       
       “นิตยสารหมอชาวบ้าน” ได้แนะนำการกินถั่วให้ถูกวิธีและให้ได้ประโยชน์มา 8 ข้อด้วยกันดังนี้
       
       1.สำหรับผู้ที่พึ่งหัดกินถั่วใหม่ๆ หรือปกติไม่ได้กินถั่วเป็นประจำนั้น ให้เริ่มกินแต่น้อยๆ เช่น สัปดาห์ละ 2 ครั้ง จากนั้นจึงค่อยเพิ่มความถี่ให้มากขึ้น เพื่อให้ระบบย่อยอาหารของร่างกายปรับตัว
       2.ควรแช่เมล็ดถั่วในน้ำเปล่า เป็นเวลา 12 - 24 ชั่วโมง ก่อนนำไปปรุงอาหาร จะช่วยให้แป้งหรือ oligo-saccharide บางส่วนที่ย่อยยากนั้นสามารถย่อยได้มากขึ้น
       3.เลือกชนิดของถั่วที่จะนำมากิน ทั้งนี้ถั่วแต่ละชนิดนั้นทำให้เกิดแก๊สไม่เท่ากัน เช่น ถั่วขาวและถั่วเหลืองจะมีแก๊สมาก ส่วนถั่วดำ ถั่วแดงและถั่วเขียวจะมีแก๊สน้อยกว่า นอกจากนี้ “ถั่วเมล็ดแห้ง” ก็จะทำให้เกิดแก๊สในท้องมากกว่าถั่วสำเร็จรูปที่บรรจุกระป๋อง
       4.เวลากินถั่วควรเคี้ยวให้ละเอียดมากที่สุด เพราะเอนไซม์ในน้ำลายนั้นจะทำหน้าที่ช่วยย่อยแป้งได้ดี
       
       5.เนื่องจากในถั่วมีสารประเภทกรดไฟติก หรือไฟเทต ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์ยับยั้งการดูดซึมแร่ธาตุบางชนิด เช่น เหล็ก สังกะสี และแคลเซียม ดังนั้นจึงควรกินถั่วที่ปรุงสุกแล้ว ถั่วที่ผ่านการงอก หรือกระบวนการหมักมาแล้ว เพื่อลดปริมาณสารไฟเทต
       6.ปริมาณที่แนะนำในการกินถั่วคือ ครึ่งถ้วย หรือ 64 กรัม และใน 1 สัปดาห์ควรกินให้ได้ 3-4 ครั้ง/สัปดาห์
       7.การเลือกซื้อถั่ว ให้เลือกถั่วที่ผลิตใหม่ๆ เมล็ดสมบูรณ์ ไม่ลีบ ไม่ฝ่อ หรือการกัดแทะของแมลง โดยเฉพาะถั่วลิสงจะมีเชื้อรา “อะฟลาท็อกซิน” จะขึ้นได้ง่าย หากเมล็ดของถั่วมีการแตกหัก หรือมีความชื้นสูง ดังนั้นจึงไม่ควรซื้อถั่วเก็บไว้เป็นเวลานาน เพราะอาจทำให้เกิดเชื้อราหรือสร้างสารพิษอะฟลาท็อกซินได้
       8.สำหรับผู้ที่มีปัญหาท้องอืด อาหารไม่ย่อย หรืออาการไม่พึงประสงค์หลังกินถั่วเมล็ดแห้ง ถ้าปฏิบัติตามข้อ 1, 2 และ 3 แล้วอาการยังไม่ดีขึ้น อาจเลือกกินถั่วในรูปแบบที่ผ่านกระบวนการงอก หรือถั่วที่ผ่านกระบวนการหมักมาแล้ว จะทำให้อาการดีขึ้น
       
       และนี่ก็เป็น 8 ข้อควรรู้ในการกิน “ถั่ว” ให้ถูกวิธี ไม่ว่าอาหารชนิดใดหากกินในปริมาณที่มากเกินไป หรือกินไม่ถูกวิธีก็สามารถทำให้เกิดผลเสียกับร่างกายได้ ดังนั้นควรที่จะกินในปริมาณที่พอดีเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ รู้อย่างนี้แล้วต่อไปก็สามารถกินถั่วได้อย่างถูกต้องและได้ประโยชน์แล้วล่ะ!
       
       *หมายเหตุ ข้อมูลจาก นิตยสารหมอชาวบ้าน

Credit: http://www.manager.co.th/Food/ViewNews.aspx?NewsID=9580000010630
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...