ชาวบ้านแตกตื่นไปดู‘เหล็กไหลเพชรดำ’ในตำหนักร่างทรงที่พะเยา เจ้าของบอกมี ‘พ่อปู่’ มาลง ให้ไปเอาจากในถ้ำขนลงมาทุกวันพระจนเป็นกองพะเนิน บอกคนที่บูชาจะแคล้วคลาดปลอดภัย แต่ก็เป็นความเชื่อส่วนตัว และอย่าไปลองกับลูกปืน…
เมื่อวันวันที่ 8 ก.พ.58 ผู้สื่อข่าวได้ร่วมขบวนไปกับชาวบ้านทั้งในและต่างจังหวัด ที่ทราบข่าวพากันเดินทางมาดูและกราบไหว้เหล็กไหลที่บ้านเลขที่ 169 บ้านสางใต้ ต.สาง อ.เมือง จ.พะเยา ซึ่งเป็นบ้านของนางศรีวรรณ เภตรา อายุ 46 ปี และนางจิตดาภา ธิมา อายุ 44 ปีเป็นบ้านปูนชั้นเดียว เปิดเป็นตำหนักร่างทรงพ่อปู่พญานาคราชธุมะสิกขี–พระแม่ทับทิม
ทั้งนี้ ทั้งสองคนได้อ้างเป็นผู้ที่พบเหล็กไหลย้อย หรือพญาเหล็ก หรือเหล็กไหลเพชรดำ ซึ่งจัดเป็นเครื่องรางของขลังที่มีอานุภาพสูงในถ้ำบนดอยหลวง ท้ายหมู่บ้าน แล้วนำมาเก็บรักษาไว้ให้ชาวบ้านได้กราบไหว้บูชาขอโชคลาภ
สำหรับ วัตถุหรือเหล็กไหลดังกล่าว ลักษณะสีดำมันวาวเงางามเนื้อแน่น โดยผู้ครอบครอง บอกว่า เมื่อนำมาปัดขัดล้างด้วยน้ำจะพบว่าเป็นสีเงิน สีปีกแมงทับและสีอื่นๆ สวยงามมาก มีคนที่ขอไปบูชาเกิดอุบัติเหตุรถชน แต่ปลอดภัยไม่ได้รับอันตราย อีกทั้งยังปกปักรักษาคุ้มครองผู้ที่นำไปบูชาติดตัว จนเป็นที่ร่ำลือไปทั่วในความศักดิ์สิทธิ์ ผู้คนหลั่งไหลมาขอดูกราบไหว้บูชากันทุกวัน
นายกรรณส จันทร์พานิชเจริญ หรือหรือ หนานเอ อายุ 39 ปี ผู้เชี่ยวชาญด้านเหล็กไหล เปิดเผยว่าได้ศึกษาเรื่องเหล็กไหลมามาก พบว่าในภาคเหนือตอนบน มีเหล็กไหลเพียง 2 ชนิด คือ จ.พะเยา จะพบเหล็กไหล เป็นเหล็กไหลย้อย คล้ายหยดน้ำ แต่การหยดของเหล็กไหลนั้นจะหยดขึ้นไปด้านบนไม่ลงด้านหลัง และมีเหล็กไหลอีกชนิดเรียกว่าเหล็กไหลเงินยวง พบใน จ.เชียงราย ซึ่งเหล็กไหลแต่ชนิดจะมีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเอง ส่วนในภาคอื่นก็จะมีเหล็กไหลอีกหลายอย่างหลายชนิด แล้วแต่จะเรียกกันในแต่ละท้องถิ่น
หนานเอ กล่าวด้วยว่า เหล็กไหลย้อย หรือพญาเหล็ก หรือเหล็กไหลเพชรดำ บางคนดูว่าเป็นหินมากกว่าโลหะ เมื่อนำมาทดสอบจะพบว่ามีความแตกแต่งกันหลายอย่าง อาทิ บางก้อนจะเป็นเนื้อเงินแต่ไม่ใช่แร่เงิน หรือเป็นแร่เหล็กแต่เมื่อนำแท่งแม่เหล็กไปติดจะไม่มีแรงดูด แต่เชื่อในอานุภาพและความศักดิ์สิทธิ์ของเหล็กไหล ทุกชนิดมีอานุภาพในตัวเอง
ด้านนางศรีวรรณ เภตรา เจ้าของตำหนักร่างทรง และเจ้าของเหล็กไหล กล่าวว่า ก่อนจะได้เหล็กไหลนี้มา ได้มีองค์พ่อปู่มาลง บอกให้ไปเอาเหล็กไหลที่น้ำตกผาเกร็ดนาค ในถ้ำบนดอยหลวง เมื่อไปถึงได้ทำพิธีขอและพบว่ามีเหล็กไหลอยู่ในถ้ำจริง จึงได้ช่วยกันกับเพื่อนขนลงมาทุกวันพระนานนับปี จนในบ้านมีเหล็กไหลพอสมควร
“การค้นพบเหล็กไหลดังกล่าว เป็นความเชื่อของแต่ละบุคคล ซึ่งเหล็กไหลที่ได้มานั้นเป็นเหล็กไหลชนิดย้อย เป็นก้อนๆ แต่ละก้อนมีน้ำหนัก เมื่อนำมาขัดถูจะเห็นเนื้อในสวยงามมาก หากดูผิวเผินก็จะเหมือนก้อนหินธรรมดา แต่เมื่อสัมผัสดูจะรู้ว่าเหล็กไหลนั้นมีความแปลกแตกต่างอย่างไร ต้องมาพิสูจน์ด้วยตัวเอง อีกทั้ง เป็นความเชื่อของแต่ละคน แต่ห้ามทดลองอมเหล็กไหลแล้วเอาปืนยิงเด็ดขาด” นางศรีวรรณ กล่าว.