10 คดีฆาตกรรมสะเทือนขวัน ที่ยังเป็นปริศนาจนปัจจุบัน

เรียบเรียงโดย Clipmass.com




โดยในประวัติศาสตร์นั้นมีเรื่องราวคดีการฆาตกรรมสุดโหดอยู่หลายคดีด้วยกัน ที่ยังคงเป็นปริศนามาจนทุกวันนี้ ซึ่งแต่ละคดีนั้นเป็นการฆาตกรรมที่โหดเหี้ยมเป็นอย่างมาก โดยส่วนใหญ่นั้นจะไม่สามารถจับตัวฆาตกรได้ และฆาตกรส่วนใหญ่นั้นก็มักจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยด้วยกัน ซึ่งจะมีคดีใดบ้างนั้น ไปชมกันเลย




อันดับ 10 แจ็ค เดอะ ริปเปอร์ ฆาตกรจอมหั่นศพจากโลกันต์



 

 

แจ็ค เดอะ ริปเปอร์ เป็นชื่อของฆาตกรสุดโหด ซึ่งเรื่องราวของเขาผ่านมานานนับ 100 ปีจนกลายเป็นประวัติศาสตร์ที่เลื่องลือไปทั่วโลก โดยในปี 1888 เขาเริ่มลงมือฆ่าโสเภณีย่านสลัม ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และตามด้วยโสเภณีอีกจำนวนมาก ซึ่งวิธีการฆ่าเหยื่อของเขานั้นแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก ด้วยการผ่าท้อง ก่อนลากไส้เหยื่อออกมาแขวนไว้ตามจุดต่างๆ ก่อนชำระ และตกแต่งศพเหยื่อสาวอย่างสวยงาม โดยเขาได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย พร้อมทั้งทิ้งปริศนาไว้มากมาย จนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ได้ว่าเขาเป็นใคร 


         


อันดับ 9 ฆาตกรหั่นศพแห่งคลีฟแลนด์




 

สุดยอดฆาตกรโหด จากแม่น้ำคิงส์เบอรี รัน เกิดขึ้นในคลีฟแลนด์ สหรัฐฯ ในช่วงปี 1930-1940 โดยเหยื่อที่ถูกฆ่านั้นมีถึง 16-36 ราย โดยเหยื่อทุกรายจะถูกฆ่าตัดศรีษะ ตัดแขน ขา ก่อนถูกทำความสะอาด แล้วใช้สารเคมีใส่เข้าไปตามอวัยวะต่างๆ จนยากที่จะพิสูจน์ได้ ศพส่วนใหญ่มักลอยมากับแม่น้ำ แม้ว่าจะมีผู้ต้องสงสัยอยู่หลายราย แต่ก็ยังไม่มีการยืนยันจากทางการว่าใครคือฆาตกรตัวจริงก่อนที่จะคดีจะเงียบหายไป จนเป็นปริศนาถึงปัจจุบัน




อันดับ 8 เดอะ แบล็ค ดาห์เลีย ฆาตกรดอกรักเร่สีดำ

 


 

 

โดยคดีนี้มีชื่อคดีมาจากรสนิยมการแต่งตัวของเหยื่อผู้ตาย ซึ่งคดีฆาตกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 มกราคม 1947 เมื่อมีคนพบศพ อลิซาเบธ ชอร์ต หญิงสาววัย 22 ปี ที่เข้ามาตามฝันในฮอลลีวูด โดยศพของเธอถูกหั่นเป็นสองท่อน แต่ใบหน้าของเธอยังมีลักษณะยิ้มมุมปากเพียงเล็กน้อย เพิ่มความน่าสยดสยองเข้าไปอีก แถมในกระเพาะอาหารของเธอ ยังพบอุจจาระ เศษเนื้อ และเศษหญ้า ยัดตรงช่องทวารของเธอในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่


หลังจากนั้นคนร้ายก็ส่งพัสดุถึงเจ้าหน้าที่เป็นของใช้ของเหยื่อ และระบุข้อความว่า เขาเป็นฆาตกรโหดรายนั้น แต่ตำรวจก็ยังไม่สามารถหาตัวฆาตกรได้ ปัจจุบันคดีดังกล่าวยังอยู่ในแผนกฆาตกรรมของตำรวจแอลเอ.


 


อันดับ 7 The Boston Strangle นักฆ่ารัดคอแห่งบอสตัน



 

 

เป็นคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่เกิดขึ้นในช่วงยุค 1960 เมื่อฆาตกรโหดได้ก่อคดีฆ่ารัดคอหญิงสาวหลายรายในบอสตัน โดยเหยื่อเป็นหญิงสาวทุกช่วงอายุ และทุกผิวสี

 

ก่อนที่ตำรวจะทำการจับกุม อัลเบิร์ต เดอ ซัลโว ชายหนุ่มที่ถูกจับข้อหาที่ไม่รุนแรง แต่เขากลับสารภาพว่า เขาคือนักฆ่าแห่งบอสตัน แต่คำรับสารภาพของเขากลับไม่ตรงกับหลักฐานที่พบ โดยอัลเบิร์ตเล่าว่า เขาข่มขืนหญิงคนหนึ่งจนเสร็จกิจ แต่จากร่องรอยของศพไม่พบคราบอสุจิแต่อย่างใด จนอัลเบิร์ตถูกแทงตายในคุกอีก 4 ปีถัดมา พร้อมกับความลับที่ตายไปกับเขา




อันดับ 6 คดีฆาตกรรม มาริลีน เชฟพาร์ด 



 

 

โดยในปี 1954 นายแพทย์หนุ่มมือดี แซม เชพเพิร์ด ตกเป็นผู้ต้องหาสังหารภรรยาของตัวเอง แต่แซมปฏิเสธมาโดยตลอด โดยเขาบอกว่าขณะเกิดเหตุมีบุคคลอื่นอยู่ในบ้านก่อนเขาถูกทำร้ายจนหมดสติ เมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่าภรรยาของเขาเสียชีวิตแล้ว โดยแซมเสียชีวิตไปก่อนในปี 1970 ทั้งๆ ที่ยังมีตราบาปติดตัว


จนต่อมาในปี 2000 ลูกชายของแซมต้องการจะพิสูจน์ความจริง จึงรวบรวมหลักฐานบางอย่างที่วิทยาการสมัยนั้นยังไม่มี จนสามารภพิสูจน์ได้ว่าพ่อของเขาไม่ใช่ฆาตกรในวันนั้น แต่ก็ไม่มีใครทราบจนถึงปัจจุบันว่า ใครคือฆาตกรที่แท้จริงในวันเกิดเหตุ!

 



อันดับ 5 ยาพิษปริศนา



 

 

โดยคดีนี้เกิดขึ้นจริงในปี 1982 เมื่อมีผู้ใช้ยาหลายรายในหลายรัฐของอเมริกา เกิดกินยาที่มีการผสมเข้าไซยาไนต์ลงไปแล้วตาย ซึ่งเป็นการฆ่าแบบสุ่มสุดสยอง ที่ยังไม่สามารถจับมือคนวางยาพิษลงโทษได้


 

 

อันดับ 4 คดีฆาตกรรมฆ่านางงามเด็ก (Jonbenet Ramsey Murder)



 

 

เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 1996 เป็นวันคริสมาสต์ที่คนอเมริกันต่างก็เฉลิมฉลองกันอย่างมีความสุข แต่กลับเป็นวันที่ฆาตกรโหดพรากชีวิต Jonbenet Ramsey เด็กหญิงวัย 8 ขวบ ดีกรีนางงามเด็ก ซึ่งหลังจากที่มีการพบศพของเธอที่ใต้ถุนบ้าน สภาพศพถูกรัดคอและทุบกระโหลก แต่จากการสอบสวนก็ไม่พบว่า คนในบ้านเป็นฆาตกร และไม่มีหลักฐานหรือพยานที่จะสาวไปยังคนร้ายได้เลย


ถึงแม้ชายที่ชื่อ John Mark Karr จะสารภาพว่าได้ก่อเหตุดังกล่าวในปี 2006 แต่ผล DNA ปรากฏว่าไม่ตรงกับดีเอ็นเอจากศพ ศาลจึงสั่งไม่ฟ้องเขา ทำให้คดียังคงเป็นปริศนาถึงปัจจุบัน



 

อันดับ 3 The Phantom Killer นักฆ่าล่องหน



 

 

คดีฆาตกรรมนี้เกิดขึ้นในปี 1946 โดยฆาตกรมักจะเลือกฆ่าเหยื่อในคืนวันเพ็ญ ซึ่งมีเหยื่อหลายรายถูกสังหารด้วยมีดและปืน โดยการฆ่าของฆาตกรรายนี้นั้นแตกต่างจากฆาตกรรายอื่นๆ เพราะเขาไม่เลือกรูปแบบ แต่ขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาส และในที่สุดเขาก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยจนถึงปัจจุบัน



 

อันดับ 2 The Green River Killer ฆาตกรทะเลสาปสีเขียว



 

 

เป็นคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในช่วงปี 1982-1988 แถบซีแอตเติ้ล โดยมีผู้ตกเป็นเหยื่อจำนวนมากถึง 49-71 ราย หรือมากกว่านั้น โดยทางกองตำรวจต้องการตัวฆาตกรรายนี้มากที่สุดในยุคนั้น จนต้องขอความร่วมมือจาก เทด บันดี ฆาตกรโหดต่อเนื่องมาร่วมมือกับทางการ เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลทางจิตใจของเขา


ก่อนที่ฆาตกรจะถูกจับตัวได้ในปี 2001 เขาคือ แกรี่ ริดจ์เวย์ ช่างทาสีรถบรรทุก วัย 54 ปี ที่มีอาการผิดปกติและเกลียดโสเภณีที่เขาฆ่าอย่างรุนแรง แต่ฆาตกรรมก็ยังมีต่อมาเรื่อยๆ ในรูปแบบคล้ายกัน จนยังคงเป็นปริศนาอยู่ต่อไป


 

 

อันดับ 1 The Zodiac Killer ฆาตกรจักรราศี



 

 

Zodiac Killer เป็นฆาตกรสุดโหดในยุค 60-70 โดยเขามักจะเลือกเหยื่อเป็นคู่หนุ่มสาวที่มาพรอดรักกันในรถ จนเป็นที่มาของหนังฆาตกรรมในปัจจุบัน โดยมีเหยื่อจำนวน 5 ราย ที่ถูกยืนยันว่าเป็นฝีมือของเขา แต่คาดว่าจะมีมากกว่านั้น

 

และที่ร้ายไปกว่านั้นก็คือ Zodiac Killer มักส่งจดหมายให้กับตำรวจหรือสื่อมวลชนด้วยถ้อยคำที่ท้าทายและเป็นปริศนา เพื่อให้ตามจับเขาให้ได้ ด้วยสัญลักษณ์ต่างๆที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่ต้องถอดข้อความที่มันส่งมา ว่ากันว่า 17 อักษรสุดท้ายยังไม่มีใครสามารถถอดรูปแบบออก แต่จู่ๆ เขาก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยจนถึงปัจจุบัน





ข้อมูลและภาพประกอบจาก  

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...