สาวๆ รู้กันหรือไม่ว่า พวกคุณกำลังติดนิสัยทำร้ายเส้นผมกันโดยไม่รู้ตัว ซึ่งเป็นที่มาของผมขาด หลุดร่วง และมีสุขภาพแย่ลง จะมีนิสัยอะไรบ้างนั้น ลองมาเช็คกันด่วน
สระผมบ่อยไป
หลายๆ คนรักความสะอาดมากเสียจนคิดว่า การสระผมทุกวันจะทำให้ผมสะอาดมีสุขภาพดี ผมไม่มันและหอมสดชื่น คุณทราบไหมว่านี่คือความคิดที่ผิด เพราะการสระผมบ่อยเกินไปนั้นจะทำให้น้ำมันตามธรรมชาติของเส้นผมถูกล้างออกไป เส้นผมจึงต้องผลิตน้ำมันขึ้นมาใหม่ เมื่อเป็นเช่นนี้เรื่อยๆ ทำให้การผลิตน้ำมันนั้นหมดไปก่อนเวลาอันควร ผลที่เกิดขึ้นคือผมหงอกก่อนวัยนั่นเอง ซึ่งวิธีที่เหมาะสมนั้นคือ สระอย่างมากวันเว้นวัน แล้วใช้เวลาในการล้างผมให้สะอาดหมดจด หลังจากนั้นอย่าลืมเช็ดผมให้แห้งก่อนทำกิจวัตรถัดไปด้วยทุกครั้ง
ใช้ความร้อนกับผม
การไดร์ผม ม้วนผม หนีบผม บ่อยครั้ง แน่นอนเลยว่าทำให้เส้นผมเสียได้อย่างไม่ต้องสงสัย ลองนึกถึงผิวเราเวลาโดนอะไรร้อนๆ ยังระคายเคืองได้ แล้วเส้นผมที่โดนลมร้อนหรือโลหะร้อนๆ นานๆ จะไม่แห้งเสียได้อย่างไร ฉะนั้นควรลดความบ่อยในการทำกิจกรรมเหล่านี้กับเส้นผม หรือถ้าต้องทำจริงๆ ควรใช้สเปรย์กันความร้อนฉีดให้ทั่วก่อนทุกครั้ง และหมั่นทำทรีตเมนต์และหมักผมเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นอยู่เสมอ
ใช้แปรงผมผิดขนาด
ขนาดของแปรงม้วนผมมีส่วนสำคัญต่อสุขภาพผม เวลาไดร์ผมทุกครั้งคุณอาจจะไม่ทราบว่า แปรงขนาดไหนที่เหมาะกับผมของคุณ ให้ใช้ความยาวผมของคุณเป็นเกณฑ์วัด หากคุณผมสั้น ให้ใช้แปรงม้วนขนาดเล็กประมาณ 1 นิ้ว แต่ถ้าผมคุณยาก ให้ใช้แปรงม้วนขนาด 2 นิ้วขึ้นไป เพื่อให้เหมาะสมกับการหวี และไม่ทำให้เส้นผมขาด
ละเลยการเล็มผม
ความถี่ที่เหมาะสมในการเล็มปลายผม นั่นคือ 6 – 8 สัปดาห์ต่อครั้ง ไม่ควรละเลยปล่อยให้เนิ่นนานกว่านั้น เพราะการเล็มปลายผมจะช่วยทำให้เส้นผมมีสุขภาพดีอยู่เสมอ และยังดูเข้ารูปเข้าทรง อีกทั้งยังเป็นเวลาที่ให้ผู้เชี่ยวชาญอย่างช่างผมได้ช่วยเช็คสุขภาพผมของเราให้ด้วย
ใช้ผลิตภัณฑ์แต่งผมเกินพอดี
การใช้เจล แวกซ์ มูส หรือสเปรย์จัดแต่งผมบ่อยๆ และมากเกินไป จะทำให้เส้นผมมีสุขภาพแย่ลงได้ง่าย ยิ่งถ้าหากไม่ได้รับการทำความสะอาดหมดจดแล้วด้วย จะเป็นการหมักผมสิ่งสกปรกบนหนังศีรษะ ทำให้เกิดสิวบนหนังศีรษะได้ ดังนั้นควรลดปริมาณการจัดแต่งผมให้น้อยลง เพื่อให้เส้นผมได้หายใจบ้าง
แสกผมหรือรวบผมตึงไป
การทำผมแบบรวมตึงมากๆ หรือแสกผมตึงไปทางใดทางหนึ่งบ่อยครั้ง จะส่งผลทำให้โคนผมบริเวณนั้นถูกดึงรั้งเกินพอดี เมื่อปล่อยไว้นานย่อมทำให้เสี่ยงต่ออาการหัวเถิกหัวล้านได้ ดังนั้นควรรวบแต่พอดี และสลับสับเปลี่ยนวิธีการทำทรงผมให้ต่างไปเรื่อยๆ จะเป็นการดีต่อเส้นผมมากกว่า