สิงห์บลูส์ยิงสลุต 8-0 ผงาดแชมป์! ดร็อกแฮตทริกดาวซัลโว
สุดยอดแห่งบรรยากาศการเฉลิมฉลองเมื่อ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 4 มาครองได้สำเร็จ หลังถล่มแหลกวีแกนถึง 8-0 และ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา คว้ารางวัลดาวซัลโว หลังยิงแฮตทริกนัดสุดท้าย
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก นัดสุดท้าย (9 พ.ค.53)
เชลซี 8-0 วีแกน
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์
ประตู :
1-0 อเนลก้า 5
2-0 แลมพาร์ด 32 (จุดโทษ)
3-0 กาลู 54
4-0 อเนลก้า 56
5-0 ดร็อกบา 62
6-0 ดร็อกบา 68 (จุดโทษ)
7-0 ดร็อกบา 80
8-0 โคล 90
"สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ลงสนามโดยหากสามารถเอาชนะ วีแกน ได้ในเกมนี้ก็จะคว้าแชมป์ไปครองได้ทันทีโดยไม่ต้องสนใจผลการแข่งของแมนฯ ยูไนเต็ด ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด
งานนี้ คาร์โล อันเชล็อตติ ส่งทีมชุดใหญ่ลงสนามแบบเต็มสูบทันที และสั่งให้ลูกทีมเปิดฉากเดินหน้าลุยตั้งแต่ต้นเกม และก็มาได้ประตูแรกที่ต้องการอย่างรวดเร็วแค่นาทีที 5 เท่านั้น
โดยเป็นจังหวะที่ได้ฟรีคิกนอกเขตโทษ ดร็อกบา พยายามยิงไปบอลไปติดกำแพง แลมพาร์ด พยายามจะโขกต่อบอลไปเข้าทางมาลูด้า ก่อนจะพักอกให้ อเนลก้า ได้ซัดจ่อๆหน้าปากประตูเข้าไปอย่างเด็ดขาด ให้ เชลซี นำ 1-0
แต่วีแกน ก็ไม่ได้เป็นรองสุดกู่อะไร สามารถตั้งเกมสู้กับ เชลซี ได้อย่างสนุกทีเดียว และเล่นเอาเจ้าบ้านมีอาการเหวอเหมือนกัน แต่ว่ามาถึงนาทีที่ 31 ก็มาพลาดเสียจุดโทษ และยังเสีย คัลด์เวลล์ ที่โดนใบแดงไปด้วยจากจังหวะที่ไปทำฟาวล์ใส่ดึงแลมพาร์ดที่หลุดเข้าไปยิงได้แล้วในเขตโทษ
แลมพาร์ด ลุกขึ้นมาทำประตูเองโดยไม่ยอมให้ ดร็อกบา ที่ลุ้นดาวซัลโวอยู่ยิง และสังหารไม่พลาด ทำให้ เชลซีนำ 2-0 และได้เปรียบเรื่องตัวผู้เล่นอีกด้วย ก่อนที่จะรักษาสกอร์นี้เอาไว้ได้จนหมดครึ่งแรก
จากนั้นในครึ่งหลัง เชลซี มาได้ประตูหนีเป็น 3-0 จากจังหวะที่ แลมพาร์ด เปิดให้ ซาโลมง กาลู จบสกอร์เข้าไปในนาทีที่ 54 ทำให้ถึงตรงนี้โอกาสเป็นแชมป์นั้นชัดเจนแจ่มแจ้งแล้วสำหรับทีมจากลอนดอน
แต่เชลซี ยังไม่หยุดแค่นั้นยังยิงเพิ่มเรื่อยๆ โดยมาได้ประตู 4-0 จากการวอลเล่ย์ที่สุดยอดของ อเนลก้า ในนาทีที่ 56 ก่อนที่ ดร็อกบา จะมาโขกพังประตูในนาทีที่ 62 จากการเปิดของแลมพาร์ด ซึ่งทำให้ได้ขึ้นนำดาวซัลโวคนเดียว และเป็นประตูที่ 100 ของเชลซี ในฤดูกาลนี้ด้วย
จากนั้นเชลซี มาได้จุดโทษอีกในนาทีที่ 67 และเป็น ดร็อกบา ที่ขออาสายิงเข้าไปเองเพื่อการันตีตำแหน่งดาวซัลโวของตัวเองด้วย ก่อนจะมาทำแฮตทริกได้ในนาทีที่ 80 เมื่อตามซ้ำโล่งๆ จากลูกยิงของโจ โคล เข้าไป ทำให้ทีมนำห่าง 7-0
ก่อนหมดเวลา แอชลี่ย์ โคล ยังมายิงปิดท้ายเป็น 8-0 อีกจากการเปิดแบบทุลักทุเลของ โจ โคล ทำให้จบเกม เชลซี ถล่มแหลกคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 4 มาครองได้สำเร็จ ส่วน ดร็อกบา ก็ได้ดาวซัลโวด้วย และยังมีโอกาสคว้าดับเบิ้ลแชมป์หากได้แชมป์เอฟเอ คัพในสัปดาห์หน้า
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช (โจ โคล 58) , อเล็กซ์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล, แฟรงค์ แลมพาร์ด, มิชาเอล บัลลัค (เนมันย่า มาติช 70) ฟลอร็องต์ มาลูด้า, ซาโลมง กาลู (เบลเล็ตติ 58) , ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา, นิโกล่าส์ อเนลก้า
วีแกน : ไมค์ พอลลิตต์, มาริโอ เมลช็อต, สตีฟ โกอูรี, แกรี่ คัลด์เวลล์, มายเนอร์ ฟิเกรัว, เอมเมอร์สัน บอยซ์, เจมส์ แม็คคาร์ทธี่ย์, เบน วัตสัน (เฮนดรี้ โธมัส 61) , โมฮัมเหม็ด ดิยาเม่ (พอล ชาร์เนอร์ 72) , ชาร์ลส เอ็นซอกบเย, ฮูโก้ โรดาเญก้า (วิคเตอร์ โมเซส 82)
ผู้ตัดสิน : มาร์ติน แอตกินสัน
ในเมื่อผมชอบเชลซีเลี่ยงเนื้อย่างอร่อยมากๆเลย