1. เทศกาลกระโดดข้ามทารก (El Colacho) – ประเทศสเปน
เทศกาลนี้เป็นการขจัดบาปกำเนิดสิ่งชั่วร้าย และคุ้มครองเด็กแรกเกิด ให้พ้นจากทูตผีปีศาจ ซึ่งทำให้คริสต์นิกายคาทอลิกไม่เห็นด้วยเลยสักนิด และให้เหตุผลว่า ทางเดียวที่จะล้างบาปกำเนิดของเด็กๆ ได้ คือการเข้าพิธีล้างบาปเท่านั้น
2. เทศกาลเปลือยหมู่ – โอกายามา ประเทศญี่ปุ่น
นึกแล้วก็สยิวๆยังไงก็ไม่รู้ เมื่อชายกว่า 9,000 คน นุ่งน้อยห่มน้อยมารวมตัวกันที่โอกายามา ประเทศญี่ปุ่น โดยเชื่อว่าใครที่สามารถแย่งแท่นไม้จากนักบวชชินโตได้ ผู้นั้นจะประสบแต่ความสุขเลยล่ะ
3. เทศกาลสวมเขา – Rocca Canterano ประเทศอิตาลี
ใครที่โดนภรรยานอกใจมางานนี้เลย เพราะถ้าผู้ชายทั้งหลายในเมือง Rocca Canterano โดนสวมเขาล่ะก็ พวกเขาจะสวมเขาแล้วมารวมตัวกัน เพื่อปลอบใจชายที่โชคร้ายเหล่านั้น แปลกดีแฮะ!!
4. เทศกาลกินแมว – ประเทศเปรู
โอ้ย!! กินแมว กลัวเลยนะเนี่ย จริงๆแล้วเดิมทีเทศกาลนี้ที่มาจากการที่ชาวเมืองอดอยาก ขาดแคลนอาหารจึงต้องไล่ล่าจับแมวที่มีอยู่ทั่วเมืองมาประทังชีวิต แต่ในปัจจุบันชาวเมืองได้ยึดถือเป็นเทศกาล เพื่อย้อนรำลึกถึงช่วงเวลาในอดีตนั่นเอง
5. เทศกาลองคชาติ – เมืองคาวาซากิ ประเทศญี่ปุ่น
มีจริงหรอเนี่ย? คือเทศกาลบูชาปิกาจู้เพศชาย โดยเชื่อว่าจะช่วยขจัดปัดเป่าโรคร้ายที่สามารถติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ และจะช่วยเพิ่มอัตราการเกิดของประชากรในญี่ปุ่นให้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วยนะ
6. เทศกาลกลิ้งชีสลงเขา – Gloucestershire ประเทศอังกฤษ
นี่คือการแข่งกันแย่งชีสที่กลิ้งลงมาจากเขาด้วยความเร็ว 110 กม./ชั่วโมง แม้ว่าในทุกปีจะมีผู้เข้าแข่งขันได้รับบาดเจ็บหกถึงขั้นเลือดตกยางออก นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะยังมีผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมนี้ทุกปี
7. เทศกาลอัณฑะไก่งวง – เมืองไบรอน อิลลินอยส์
ว่ากันว่าเมืองไบรอนนี่แหละ ที่เป็นจุดเริ่มต้นของเทศกาลชื่อแปลกนี้ ต่อมาได้แพร่หลายไปตามเมืองต่างๆ ในสหราชอาณาจักร จุดเด่นก็คือ การกินอัณฑะไก่งวงทอดนั่งเอง แถมยังมีกิจกรรมอีกมากมายที่ผู้เข้าร่วมต้องมีอายุเกิน 21 ปีขึ้นไปด้วย
8. เทศกาลแข่งขันงัดนิ้วเท้า – World Toe Wrestling Championships สหราชอาณาจักร
ทำไมมีแต่อะไรแปลกๆนะเนี่ย เทศกาลนี้ในทุกๆ ปีจะมีรายได้จากการขายบัตรเข้าชมการแข่งขันงัดนิ้วเท้า ที่สหราชอาณาจักรนี้จะนำไปบุญโดยมอบให้กับองค์กรการกุศล “Make A Wish” นะจ๊ะ
9. เทศกาลอุ้มเมียชิงแชมป์โลก (Wife Carrying World Championships) ประเทศฟินแลนด์
สมัยก่อนจะมีการลักอุ้มสาวงามที่เป็นที่หมายปองของชายผู้นั้น แต่ในปัจจุบันได้กลายมาเป็นเทศกาลสนุกๆเท่านั้น ใครที่สามารถอุ้มภรรยาวิ่งผ่านสิ่งกีดขวางได้เร็วที่สุด จะได้เบียร์มาเป็นรางวัล โดยเบียร์จะหนักเท่ากับน้ำหนักตัวของภรรยาเลยล่ะ
10. เทศกาลปามะเขือเทศ – La Tomatina ประเทศสเปน
ดูแล้วก็น่ากลัวเหมือนกันนะ มีแต่คนชุ่มไปด้วยสีแดงของมะเขือเทศ แต่เทศกาลนี้เขาดังไปทั่วโลกเลยนะ แถมยังมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาร่วมสนุกเยอะมากๆเลยล่ะ
11. เทศกาลส้ม – ประเทศอิตาลี
เทศกาลนี้มีที่มาจากการที่ประชาชนเขวี้ยงหินใส่ทหารผู้ชั่วร้าย แต่ต่อมาชาวอิตาลีอยากที่จะกำจัดส้มที่มีปริมาณมาก ก็เลยเล่นจากเปลี่ยนปาหิน เป็นปาส้มใส่ตัสตลกแทนทหารยังไงล่ะ
12. เทศกาล Burning Man – ทะเลทรายแบล็ค ร็อค รัฐเนวาด้า สหรัฐอเมริกา
เป็นการรวมตัวของเหล่าผู้กล้า เพื่อโชว์ความสามารถและศิลปะที่ตัวเองหลงใหล โดยศิลปินจะช่วยกันสร้างรูปปั้นขนาดใหญ่ที่สูงมากกว่าร้อยฟุต พอถึงกลางคืนขณะที่ดนตรีบรรเลง ก็จะเริ่มจุดไฟเผารูปปั้นนั้น ในแต่ละปีจะมีผู้ร่วมงานถึง 5 หมื่นกว่าคนเลยนะ
13. เทศกาลสีสัน – Holi (Festival of Colors) ชาวฮินดู ประเทศอินเดีย
เป็นเทศกาบที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เป็นประจำทุกปีที่ประเทศอินเดีย เพื่อฉลองการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ในวรรณะใดก็ตาม ท่าทางสนุกนะเนี่ย
14. วินเทอร์ ไลท์ เฟสติวัล, คุนาวะ – Winter Light Festival เมืองคุนาวะ จังหวัดมิเอะ ประเทศญี่ปุ่น
การประดับสวนพฤกษาศาสตร์ Nabana no Sato ให้สว่างไสวด้วยหลอดไฟพลังงาน LED ที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์กว่า 7 ล้านดวง ถือเป็นไฮไลท์ของงานนี้เลยล่ะ
15. เทศกาลภาพยนตร์ – Cannes Film Festivalเมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส
ใครที่ชอบดูภาพยนตร์ห้ามพลาดงานนี้เด็ดขาด เพราะว่าภายในงานได้รวบรวมภาพยนตร์ ระดับโลกมาฉายที่นี่ที่เดียว แถมยังเป็นการรวมตัวของผู้กำกับ และนักแสดงมากฝีมือชั้นแนวหน้าที่เยอะที่สุดอีกด้วยนะ
16. เทศกาลบอลลูนนานาชาติอัลบูเกอเก — Albuquerque, รัฐนิวเม็กซิโก
นักบอลลูนทั่วโลกจะมารวมตัวกันเพื่อจัดแสดง และร่วมกันปล่อยบอลลูนที่มีลวดลายสวยงามหลากสร้างสีสัน ซึ่งได้สร้างความประทับใจ ความงดงามตระการตาให้กับผู้เข้าร่วมชมงานในทุกๆ ปีอีกด้วย
17. เทศกาลช้าง – Elephant Festival เมืองชัยปุระ ประเทศอินเดีย
เป็นการนำช้างมาแต่งองค์ทรงเครื่องให้สวยงาม เพื่อร่วมฉลองในขบวนช้างอย่างยิ่งใหญ่ นอกจากนี้เมืองชัยปุระ ยังมีการแสดงพลุไฟ การแสดงพื้นบ้านและพิธีกรรมทางศาสนาอีกด้วยจ้า
18. เทศกาล Up Helly Aa Fire – เชตแลนด์, ประเทศสกอตแลนด์
เมื่อคริสมาสต์สิ้นสุดลง เขาก็จะจัดฉลองงานหลังคริสมาสต์แบบยิ่งใหญ่เลยล่ะ โดยช่วงกลางวันจะมีการเดินขบวน ส่วนกลางคืนจะจุดไฟเผาเรือไวกิ้งจำลอง เพื่อเป็นการย้อนรำลึกถึงความเป็นมาของชาติในสมัยก่อนยังไงล่ะ
19. เทศกาลบูชาพระอาทิตย์ “อินตีย์ไรย์มี” – เมืองกุสโก ประเทศเปรู
เนื่องจากพระอาทิตย์เป็นจุดกำเนิดทุกสิ่งบนโลก ชาวอินคาจึงยึดถือเอาวันที่พรอาทิตย์ โคจรมาใกล้โลกมากที่สุด เพื่อเป็นจัดพิธีบวงสรวงบูชาพระอาทิตย์
20. วันแห่งความตาย – Day of the Dead – Mexico ประเทศเม็กซิโก
ฟังดูน่ากลัวชะมัด แต่เทศกาลนี้เป็นการระลึกถึงผู้มีพระคุณหรือคนรัก ญาติ เพื่อนที่ล่วงลับไปแล้ว โดยเขาจะร่วมใจกันสวดภาวนา ในช่วงกลางคืนจะมีงานเลี้ยงฉลอง ผู้คนส่วนมากจะใส่หน้ากากผีมาร่วมสนุกกันภายในงานอีกด้วย
21. เทศกาลการ์มา – Garma Festival – Australia ประเทศออสเตรเลีย
ถือเป็นเทศกาลที่สืบสานอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวเผ่า Yolngo ได้ดีทีเดียว โดยเป็นการจัดให้มีการแสดงและศิลปะแบบดั้งเดิม
22. เทศกาลหิมะที่ซัปโปะโระ – The Sapporo Snow Festival ประเทศญี่ปุ่น
23. ไวท์ ไนท์ เฟสติวัล เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก – White Nights Festival Saint Petersburg ประเทศรัสเซีย
เป็นเทศกาลเฉลิมฉลองเมื่อสงครามโลกครั้งที่สองและระบบคอมมิวนิสต์ได้สิ้นสุดลง
24. เทศกาลอิเล็คทริค ฟอเรสต์ มิวสิค เฟสติวัล มิชิแกน (Electric Forest Music Festival, Rothbury, Michigan)
เทศกาลนี้เป็นเทศกาลดนตรีท่ามกลางขุนเขา ผสมผสานกับการประดับด้วยแสงไฟหลากสีได้อย่างลงตั๊วลงตัว นอกจากบรรยากาศสุดโรแมนติก แล้วยังจะได้ฟังเพลงเพาะๆ ตลอดทั้งคืนอีกด้วยนะเนี่ย
25. เทศกาลสงกรานต์ – ประเทศไทย
เย้ๆ มาถึงบ้านเรากันแล้ว โดยเทศกาลสงกรานต์ถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ของไทย จะมีกิจกรรมทำบุญ รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ และผู้คน รวมถึงชาวต่างชาติจะออกมาเล่นสาดน้ำกัน สนุกสุดๆไปเลย
เรียกได้ว่ามีทั้งเทศกาลที่แปลกๆ เทศกาลที่สืบทอดวัฒนธรรมและอีกมากมาย แต่ละเทศกาลย่อมมีที่มาที่ไปแตกต่างกัน
มิน่าล่ะถึงมีผู้คนมากมายต้องเดินทางไปร่วมงาน ใครมีโอกาสไปเที่ยวที่แห่งนี้ก็อย่าลืมเข้าไปรวมสักครั้งนะ