ในดินแดนแห่งอียิปต์ ไม่มีใครที่จะไม่เคยได้ยินชื่ออันเกรียงไกรของ ‘คลีโอพัตรา’
แต่น้อยคนเหลือเกินที่จะรู้ว่าในเงาประวัติศาสตร์นั้นยังมี ‘ฟาโรห์หญิง’ อีกคนอยู่ ที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน
แต่กลับถูกคนบางกลุ่มพยายามขจัดออกจากหน้าประวัติศาสตร์!!!
นับตั้งแต่เธอตายได้ประมาณ 20 ปี รูปปั้นของเธอ,หรือหลักฐานการมีอยู่ของสตรีคนนี้ล้วนถูกทำลายสิ้น
จนแทบไม่หลงเหลือถึงปัจจุบัน…คำถามคือทำไมจึงต้องทำเช่นนั้น? และเธอคือใคร?
ซึ่งนี่คือสมมติฐานที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น
ย้อนกลับไปในยุคของ ฟาโรห์ทุตโมสที่ 2 (Thutmose II) เขาคือฟาโรห์ชายชาตรีที่ล้มตายลงในช่วงที่รัชทายาท ฟาโรห์ทุตโมสที่ 3 (Thutmose III)ยังทรงเยาว์วัยเป็นอย่างยิ่ง และนั่นทำให้ ‘พระนางฮัตเซปซุต’ (Hatshepsut) ผู้เป็นภรรยาได้ขึ้นถืออำนาจการปกครองแทนลูก
แต่ด้วยความที่ ฟาโรห์ทุตโมสที่ 3 ยังอ่อนแอมาก และยิ่งเวลาผ่านไปเท่าไหร่หญิงสาวผู้ทะเยอทะยานคนนี้ก็มีอำนาจสูงขึ้นเทียมฟ้าเรื่อยๆ
จนในที่สุดเธอก็ได้สถาปนาตนเองเป็น ‘ฟาโรห์หญิงองค์แรกแห่งอียิปต์’
ซึ่งแน่ล่ะว่ามีคนจำนวนมากไม่เห็นด้วย เนื่องจากในอดีตคนที่มีสิทธิ์เป็นฟาโรห์ได้ต้องเป็นชายเท่านั้น แต่ด้วยอำนาจอันเกรียงไกรของเธอ
จึงทำให้คนที่คิดต่อต้านล้วนต้องสยบไม่อาจเหิมเกริม
อย่างไรก็ตาม พระนางฮัตเซปซุตก็พยายามอยากให้ขุนนางทั้งหลายยอมรับเช่นกัน ฉะนั้นเธอจึงเสริมความเป็นชายให้กับตนเอง
ด้วยการนำ ‘สิ่งที่คล้ายหนวดจำลอง’ มาติดตรงคางเพื่อเสริมออร่า
ทว่าคนจำนวนมากก็ยังไม่ชอบเธออยู่ดี ฉะนั้นสุดท้ายเมื่อเธอสิ้นใจ ประวัติศาสตร์ของเธอจึงถูกคนหลายกลุ่มช่วยกันเข้ามาลบเลือนให้สิ้นซาก
เพื่อไม่ให้โลกรับรู้ว่าประเทศแห่งนี้เคยมีฟาโรห์หญิง
แต่สุดท้ายความลับก็ไม่มีในโลก เพราะหลักฐานชิ้นสำคัญของการมีตัวตนอยู่ของพระนางฮัตเซปซุตก็ยังเล็ดลอดออกมาได้
และมันถูกสลักไว้ในงานภาพ ที่บอกเล่าเรื่องราวว่าตอนนั้นพระนางมีอำนาจสูงส่ง และปกครองประชาชนได้ดีเยี่ยม สงบสุข
ส่วนวิหารของพระนางฮัตเซปซุตก็ยังคงยืนหยัดตราบจนปัจจุบัน และนั่นคืออนุสรณ์สำคัญที่ทำให้ชื่อของเธอยังจารึกอยู่บนโลกใบนี้ ไม่ว่าจะถูก ‘คนบางกลุ่ม’ พยายามลบเลือนเท่าไหร่ก็ตาม
ที่มา: Upworthy