ประเทศไทยถือเป็นประเทศหนึ่งที่เต็มไปด้วยธรรมชาติและสถานที่ท่องเที่ยว ที่ต่างแฝงไปด้วยความเชื่อมากมาย บางเรื่องเล่าต่อๆกันมา แต่ก็เหมือนจะไม่มีใครรู้ถึงความจริงที่เกิดขึ้น
เรามาดูกันดีกว่า 7 เรื่องลึกลับในไทยกับตำนานที่อยู่ในใจคนไทยมาตลอด แต่ยังไม่มีใครไขปริศนาได้ มีเรื่องอะไรบ้างไปชมกันเลยค่ะ
1. แม่นาคพระโขนง
ตำนานสุดประทับใจ ที่เล่าต่อกันมาอย่างยาวนานตามที่รู้กันว่า แม่นาคตายขณะคลอดลูกแต่ก็ใช้ชีวิตอยู่กับพี่มากในขณะที่ตนเองเสียชีวิตไปแล้ว ทั้งนี้ได้มีการสะกดวิญญาณโดยเจาะกระดูกหน้าผากของแม่นาคเอาไว้ แต่จู่ๆกระดูกหน้าผากก็หายไป ซึ่งหลังจากนั้นก็มีข่าวว่ามีผู้ครอบครองกระดูกหน้าผากของแม่นาคหลายรายซึ่งก็ทำให้หลายคนเชื่อว่า เรื่องเล่าแม่นาคพระโขนงนั้นเป็นเรืองที่เกิดขึ้นจริง
2. นารีผล
นารีผล หรือ มักกะลีผล ถูกเล่าต่อๆกันมาว่า เป็นผลไม้วิเศษที่อยู่ในป่าหิมพานต์ ผลสดเป็นรูปหญิงสาวที่ศีรษะติดอยู่กับขั้ว ผมยาวสีทอง ตาโต ไม่มีกระดูก ส่งเสียงได้เหมือนมนุษย์ แต่เมื่ออายุครบ 7 วันก็จะเหี่ยวเฉาไป แม้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเล่า แต่เมื่อปี ค.ศ. 1996 ได้มีข่าวลงหน้าหนึ่งดังกระฉ่อนในประเทศไทยว่า พบซากคล้ายสัตว์แห้งๆ แต่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ โดยผู้ครอบครองอ้างว่าเป็นมักกะลีผล แต่หลายคนกลับบอกว่าอาจจะเป็นตัวอ่อนของทารกที่ไม่สมบูรณ์ และที่คนพูดถึงมากที่สุดเห็นจะเป็น มักกะลีผล แท้จริงเป็นแค่หัวมันที่แกะสลักขายที่ชายแดนประเทศลาวเพียงเท่านั้น
3. ช้างน้ำ
เป็นข่าวกระฉ่อนเมืองหลังข่าวมักกะลีผลได้ไม่นาน เมื่อมีคนพบซากช้างตัวจิ๋ว ที่เมื่อนำไปเอ็กซ์เรย์ก็พบว่าในร่างกายมีกระดูกอยู่จริง ซึ่งทำเอาหลายคนพูดว่า ช้างน้ำที่อาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์นั้นมีอยู่จริง เหมือนที่พระภิกษุรูปหนึ่งได้อ้างว่าเคยเห็นช้างน้ำตัวเป็นๆมากว่า 2 ครั้ง แต่แล้วก็มีคนพิสูจน์ซากดังกล่าวก็สังเกตได้ว่า อาจจะเป็นสัตว์ประเภทหนู บีเวอร์ มากกว่า เพราะฟันเป็นซี่ๆ แถมโครงกระดูกก็ต่างจากช้างโดยสิ้นเชิง ทั้งนี้คาดว่าน่าจะเป็นหนูแต่มีคนนำงาเสียบเข้าไปนั่นเอง
4. ซีอุย
เรื่องราวสุดสยองขวัญ ที่ทำเอาหลายคนขวัญกระเจิง ชื่อของ ซีอุย ฆาตรกรต่อเนื่องที่เล่าต่อๆกันมาว่า ซีอุยฆ่าเด็กแล้วกินเครื่องใน ทั้งนี้ความจริงของซีอุยไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะเมื่อสอบถามกับชาวบ้านที่เคยอาศัยอยู่ที่เดียวกับซีอุย พบว่า ซีอุยไมไ่ด้ฆ่าเด็กทุกคน มีเพียงเด็กคนสุดท้ายที่เป็นหลักฐานมัดตัว อีกทั้งเครื่องในของเด็กก็ไม่ได้หายอย่างที่เล่าต่อๆกันมา แต่ที่ซีอุยต้องสารภาพก็เพราะ เจ้าหน้าที่ได้บอกกับซีอุยว่าถ้ารับสารภาพจะได้กลับเมืองจีน ซีอุยจึงยอมรับสารภาพและถูกประหารชีวิตในที่สุด
5. ขุมทรัพย์ทหารญี่ปุ่น
ก่อนที่ญี่ปุ่นจะแพ้สงคราม เชื่อว่าคนญี่ปุ่นได้นำสมบัติจำนวนมากมาฝังเอาไว้หลายประเทศแถบเอเชีย หนึ่งในสถานที่ที่คนเชื่อว่ามีขุมทรัพย์ของทหารญี่ปุ่นซ่อนอยู่ก็คือ รถไฟสายมรณะ บางคนเชื่อว่าอยู่ใน ถ้ำลิเจีย จ.กาญจนบุรี โดยเชื่อว่าทหารญี่ปุ่นได้ซ่อนสมบัติเอาไว้ในถ้ำที่เอากลับประเทศไม่ได้และไม่อยากให้ใครพบเจอ โดยเรื่องราวของถ้ำลิเจียก็ดังขึ้นมาเป็นระลอก ทั้งตอนที่ประเทศไทยต้องกู้เงินจากไอเอ็มเอฟ ทำให้มีคำสั่งให้ค้นถ้ำลิเจียแต่ก็ไม่มีคนให้ความสนใจมากนั้น และถ้ำลิเจียดังขึ้นมาอีกครั้งตอนที่มีคนพบพันธบัตรสหรัฐแต่ต่อมาก็พบว่าเป็นแบงค์ปลอม จนทำให้ตอนนี้ก็ยังไม่มีใครสามารถพิสูจน์ได้ว่า ขุมทรัพย์ของทหารญี่ปุ่นในถ้ำลิเจียมีจริงหรือไม่
6. พญานาค
ประเทศไทยเองเชื่อว่า ในแม่น้ำโขงมีงูขนาดใหญ่ที่มีหงอนอาศัยอยู่ เห็นได้จากปรากฎการณ์ที่เชื่อว่าเกิดจากพญานาคทั้ง บั้งไฟพญานาค คลื่นน้ำ ร่องรอยของงูขนาดใหญ่ในวันออกพรรษา เรื่องของพญานาคตอนนี้ก็ยังคงเป็นปริศนาที่มีไว้พร้อมกับคำพูดที่ว่า ไม่เชื่อหย่าลบหลู่ โดยบางคนก็บอกว่า บั้งไฟพญานาคบางทีเป็นฝีมือมนุษย์ด้วยกันเอง ส่วนคลื่นน้ำที่เหมือนพญานาคว่ายผ่าน ก็คงเป็นแค่คลื่นน้ำที่ไปกระทบวัตถุ รอยต่างๆก็เชื่อว่าบางทีมนุษย์อาจสร้างขึ้นเองหรือเป็นแค่เรื่องบังเอิญ
7. เพชรซาอุ
ตำนานนี้เริ่มต้นจากที่ภารโรงคนไทยได้เข้าไปขโมยเครื่องเพชรของเจ้าชายไฟซาล โดยสิ่งที่ติดมาด้วยก็คือ บลูไดม่อน หรือ ที่เรียกกันว่า เพชรซาอุ ซึ่งครั้งนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว แต่สิ่งที่น่าผิดหวังก็คือ คนร้ายได้นำเพชรบางส่วนไปขายสู่ตลาดมืดซึ่งมีบลูไดม่อนรวมอยู่ด้วย และก็เป็นจุดเริ่มต้นของคำสาปเพชรซาอุ ที่ใครเข้าไปเกี่ยวข้องต้องได้รับหายนะและมีอันเป็นไป ซึ่งทุกวันนี้การหาเพชรซาอุก็ยังมืดแปดด้าน จนทำให้หลายคนเชื่อว่าหรือบางทีเพชรอาจถูกทุบจนแตกแล้วไปเจียรไนเป็นเพชรใหม่ หรืออาจจะอยู่ที่ใครสักคนที่ยังไมไ่ด้รับการเปิดเผย