เรียบเรียงโดย Clipmass.com
ชีวิตคนเราเกิดมามีสภาพสิ่งแวดล้อม และต้นทุนชีวิตที่แตกต่างกัน ไม่มีใครเลือกเกิดได้ บางคนเกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวยมีสภาพแวดล้อมที่ดี มีทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต แต่บางคนกลับเกิดมาในครอบครัวที่ยากจน ไม่มีแม้กระทั่งที่อยู่อาศัย ดังนั้นจึงส่งผลให้สภาพชีวิตความเป็นอยู่ และการดำรงชีวิตแตกต่างกันออกไป
ดังนั้นวันนี้เราจะพามาชมภาพของสลัมจากทั่วประเทศทุกมุมโลก โดยสลัมเป็นชุมชนแออัดที่เป็นที่อยู่อาศัยของผู้คนชนชั้นรากหญ้า ที่มีฐานะยากจน ซึ่งเป็นสถานที่คับแคบแออัดไปด้วยผู้คนจำนวนมาก ที่มีสภาพชีวิตหาเช้ากินค่ำ แถมบางที่ยังเป็นแหล่งของยาเสพติด หรือแหล่งมั่วสุมอีกด้วย ซึ่งภาพสลัมจากทั่วทุกมุมโลกนี้ะสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นอยู่ที่ลำบาก และน่าสงสารเป็นอย่างมาก ของคนอีกกลุ่มหนึ่งในสังคม ซึ่งเมื่อชมแล้วคุณอาจจะเกิดคำถามขึ้นมากมายเกี่ยวกับสังคม โดยสลัมในแต่ละประเทศจะเป็นอย่างไรแตกต่างกันมากแค่ไหนนั้น ไปชมกันเลย
ประเทศญี่ปุ่น
สลัมกะมะงะซากิ (Kamagasaki) ตั้งอยู่ในเมืองโอซาก้า มีมาตั้งแต่ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ช่วงปี 1970 เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว คนเริ่มเดินทางเข้ามาทำงานเป็นแรงงานในเมืองใหญ่กันเป็นจำนวนมาก จนย่านนี้ก็กลายเป็นตลาดแรงงานที่สำคัญ แต่พอถึงปี 1991 สภาพเศรษฐกิจของญี่ปุ่นเกิดยุคฟองสบู่แตกขึ้น ส่งผลให้ผู้คนตกงาน และไร้บ้านกันเป็นจำนวนมาก จึงกลายเป็นสลัมกะมะงะซากิขึ้น
แต่หลังจากนั้นทางการเมืองโอซาก้าไม่อนุญาตให้ชื่อ Kamagasaki ปรากฏในแผนที่ของเมือง และยังไม่สนับสนุนให้ใช้คำนี้ในสื่ออีกด้วย จนสลัมแห่งนี้กลายเป็นแดนลับแล (nation's dark secret) ของญี่ปุ่นไป แต่ทางการโอซาก้าโปรโมทชื่ออื่นขึ้นมาแทนคือ Airin-chiku เพื่อสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้แก่ย่านนี้ แต่คนทั่วไปก็ยังคงเรียกชื่อเดิมอยู่
ประเทศจีน
สลัมฮ่องกง เนื่องจากเกาะฮ่องกงมีพื้นที่เพียง 1,104 ตารางกิโลเมตร แต่กลับมีประชากรมากถึง 7 ล้านกว่าคน จึงทำให้ฮ่องกงเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นมากที่สุดในโลก ส่งผลให้ค่าเช่าบ้านที่นี่สูงถึง 90 เหรียญฮ่องกงหรือราว 360 บาทต่อตารางฟุตต่อเดือน
เนื่องจากการรอบ้านสงเคราะห์จากรัฐบาลกินเวลานาน จึงทำให้ประชาชนจำนวนไม่น้อยต้องอาศัยอยู่ในห้องที่เล็ก และคับแคบอย่างไม่น่าเชื่อ
ประเทศฟิลิปปินส์
สลัมบนหลุมศพ โดยเป็นสลัมที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ของสุสานที่มีพื้นที่กว่า 54 เอเคอร์ มีประชากรอาศัยอยู่ 6,000 กว่าคน ด้วยความกลัวที่จะไม่มีที่อาศัย ผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นี่จึงลืมความน่ากลัวของสถานที่ไปหมดสิ้น โดยปูน และหินอ่อนที่ใช้เป็นหลุมศพนั้นถูกดัดแปลงให้กลายเป็นเตียงนอน หรือพื้นรองรับกระท่อมซอมซ่อจำนวนมาก อีกทั้งไฟฟ้าก็ต่อจากแถวถนนเพื่อใช้ ที่สำคัญน้ำที่ใช้อุปโภคบริโภคนั้นก็มาจากบ่อน้ำในสุสาน
นอกจากนี้แถวนั้นยังมีลานบาสเกตบอล ร้านสะดวกซื้อ ร้านคาราโอเกะ ร้านอาหาร และอินเตอร์เนตคาเฟ่ให้บริการอีกด้วย ส่วนชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่นั่นส่วนมากจะรับจ้างขนศพ เก็บขยะขาย รับจ้างทำความสะอาดหลุมศพ หรือแม้แต่เป็นยามเฝ้าสุสานเพื่อป้องกันพวกมิจฉาชีพที่คอยมาขุดศพขโมยของมีค่านั่นเอง
ประเทศเวเนซูเอล่า
สลัมที่สูงที่สุดในโลก โดยตั้งอยู่บนตึกสูง 45 ชั้น ที่กรุงการารัส ซึ่งมักเรียกกันว่า "ทาวเวอร์ ออฟ เดวิด" (Tower of David) ซึ่งแต่เดิมนั้นเป็นตึกที่ถูกสร้างขึ้นในย่านธุรกิจของกรุงการารัส แต่สร้างไม่เสร็จ จึงถูกปล่อยทิ้งร้างตั้งแต่ปี 2537 และในปี 2550 ก็เริ่มมีคนไร้บ้านเข้าไปอยู่อาศัย จนกลายเป็นบ้านของคนไร้บ้านกว่า 3,000 คน
โดยผู้ที่อาศัยอยู่บนตึกนั้นต่างก็ช่วยกันออกเงินคนละ 32 ดอลล่าร์ต่อเดือน เพื่อจ้างคนคอยดูแลความปลอดภัยในอาคาร รวมทั้งพวกเขายังต้องต่อน้ำ และไฟฟ้าใช้กันเองอีกด้วย
ประเทศเคนย่า
ประเทศโรมาเนีย
ประเทศอินเดีย
ซึ่งส่วนใหญ่นั้นสลัมแต่ละประเทศจะมีสภาพไม่แตกต่างกันมากเท่าไร แม้ว่าพวกเขาจะมีสภาพชีวิต และที่อยู่อาศัยแตกต่างจากคนชนชั้นอื่นในสังคม แต่ก็ไม่ได้แปลว่าพวกเขาเป็นคนไม่ดี เพราะสภาพชีวิต และที่อยู่อาศัยนั้นไม่ได้เป็นสิ่งที่ตัดสินความดีของคนในสังคม โดยพวกเขาเป็นแค่กลุ่มคนที่มีโอกาสน้อยกว่าคนทั่วไปในสังคมก็เท่านั้นเอง ซึ่งก็เป็นผลมาจากสภาพเศรษฐกิจ และสังคมของแต่ละประเทศนั่นเอง
ข้อมูลและภาพประกอบจาก hot.ohozaa