ดราม่าหมอฟัน ถอนฟันเด็กผิดซี่ ที่ฉีดยาชาไม่ถอน-อุดฟันจนเกือบตาบอด

ดราม่าหมอฟัน ถอนฟันเด็กผิดซี่ ที่ฉีดยาชาไม่ถอน


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Weerapan Pulsombat, คุณ Ohozaa Clip สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

            ดราม่าหมอฟัน เมื่อคุณพ่อโวยถอนฟันลูกสาวผิดซี่ ซี่ที่ฉีดยาชาไม่ถอน ทำลูกร้องไห้จ้า แถมไม่ขอโทษและไม่รับผิดชอบ ส่วนอีกเคสอุดฟันจนลูกเกือบตาบอด

            เป็นประเด็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากเลยทีเดียว สำหรับคลิปที่คุณพ่อคนหนึ่งพาลูกสาวไปหาหมอฟัน แต่ปรากฏว่าลูกสาวต้องร้องไห้จ้าอย่างเจ็บปวด โดยคุณพ่อรายนี้อ้างว่า คุณพ่อฉีดยาชาข้างหนึ่ง แต่ถอนผิดซี่ กลับไปถอนอีกข้างที่ไม่ได้ฉีดยาชา

            ทั้งนี้คลิปดังกล่าว (7 มกราคม 2558) ได้บันทึกภาพของเด็กหญิงคนหนึ่งกำลังร้องไห้ตลอดเวลา ซึ่งคุณพ่อก็ได้พูดว่า คุณหมอทำงานผิดพลาด ซี่ที่ปวดไม่ถอน ซี่ที่ฉีดยาชาไม่ถอน แต่กลับมาถอนซี่ผิด ลูกสาวเลยต้องมานั่งร้องไห้แก้มบวมอยู่อย่างนี้

            นอกจากนี้ ในคลิปยังถ่ายให้เห็นช่องปากของน้อง โดยพบว่าฟันผุเกือบหมดทั้งปาก รวมถึงฟันหน้าก็เป็นซี่ดำ ๆ เต็มไปหมด

            อย่างไรก็ดี ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ ได้สอบถามไปยังผู้โพสต์คลิปดังกล่าว ทราบชื่อว่า นายทูน สนทนา อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นพ่อของเด็ก เปิดเผยว่า ในช่วงเช้าวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา ได้พาลูกสาวไปถอนฟันที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง โดยคุณหมอผู้ชายได้ฉีดยาชาไปที่ฟันซีที่จะถอนให้กับลูกสาวของตน พอระหว่างรอยาชาออกฤทธิ์ คุณหมอผู้ชายท่านนี้ได้ไปทำแฟ้มประวัติคนไข้ แต่พอยาชาเริ่มออกฤทธิ์กลับมีคุณหมอผู้หญิงอีกท่านเข้ามาถอนฟันแทน และเรียกตนให้ไปช่วยจับขาลูก ซึ่งตอนนั้นลูกสาวตนดิ้นรุนแรงเหมือนเจ็บปวดมากขณะถอนฟัน แต่เมื่อออกมาจากห้องถอนฟันก็พบว่า คุณหมอถอนฟันผิดซี่
  
            นายทูน กล่าวต่อว่า ทางโรงพยาบาลตอบกลับเพียงว่าให้ไปรับยาที่ห้องจ่ายยาและกลับบ้ายไปทานยา เดี๋ยวก็หายปวด และไม่มีคำขอโทษหรือแสดงความรับผิดชอบใด ๆ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าถอนฟันผิดซี่ ตนจึงพาลูกสาวกลับบ้าน ซึ่งขณะนี้อาการบวมที่แก้มก็ลดลงมากแล้ว แต่ซี่ที่ปวดนั้นยังไม่ได้ถอน

            สำหรับกรณีดังกล่าว เมื่อชาวเน็ตดูคลิปก็ได้ตั้งข้อสงสัยว่า คุณพ่อทราบได้อย่างไรว่าคุณหมอถอนฟันผิดซี่ ได้อยู่ดูตอนคุณหมอฉีดยาชาหรือไม่ ส่วนในคลิปจะเห็นได้ว่าเด็กฟันผุเต็มปาก และซี่ที่ต้องถอนก็ผุเป็นรูดำใหญ่มาก ไม่มีทางที่คุณหมอจะไม่เห็น หรือจะถอนผิด ส่วนข้างที่ถอนอาจจะผุมากกว่าอีกฝั่งก็เป็นได้ และหากดูตอนคุณหมอฉีดยาชาและพบว่าคุณหมอถอนผิดซี่ ก็น่าจะแย้งคุณหมอตั้งแต่ตอนนั้น อย่างไรก็ควรให้คุณหมอออกมาชี้แจง ไม่ควรฟังความข้างเดียว พร้อมแนะนำให้ผู้ปกครองดูแลรักษาช่องปากของลูกด้วย

            ขณะเดียวกัน โลกออนไลน์ยังได้แชร์เคสของคุณพ่ออีกรายหนึ่งได้พาลูกสาวไปอุดฟัน เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2558 เช่นเดียวกัน พร้อมโพสต์รูปภาพของลูกสาวที่ตาและแก้มข้างขวาบวมตุ่ย พร้อมระบุข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Weerapan Pulsombat ว่า..
     
            "ลูกสาวผมไปอุดฟันมาที่คลินิคประมาน 1 พัน แต่ต้องไปนอนโรงพยาบาลหมดเป็นหมื่น หมอไม่ได้ช่วยไรเลย ลูกผมตาจะบอดเอา"

            "คือฟันน้องเขาเป็นรู เลยพาไปอุดฟัน เราก็ถามหมออย่างดีว่าอุดได้ไหม เขาบอกได้ พออุดกับมาลูกมีอาการปวดมากที่อุด ประมาน 3-4 ชม. ก็บวมมาก พอพาไปที่คลีนิค เขาบอกต้องรักษารากฟัน เราก็งงไม่บอกแต่แรก เราก็ถามก่อนแล้วอุดได้ไหม แล้วให้ยาแก้ปวดยาแก้อักเสบ (เขาบอกเดียวก็ยุบ) มาเห็นลูกทนไม่ไหวจึงพาไปโรงบาล นอนโรงบาลหลายวัน โดนฉีดยา เปลียนน้ำเกลือ 4-5 วัน ถึงกลับบ้านได้"



 "มีโอกาสตาบอดคับ ผมเองต้องออกตัวก่อนนะคับ ที่ไปอุดคลินิคแถวบ้าน แต่ที่ไปถอนนะ ต้องไปนอนโรงพยาบาล ให้ยา 5 วัน นอนให้ยาให้น้ำเกลือ กว่าจะยุบ ถึงทำการถอนได้ ที่ไปอุดไปถามมาแล้ว ว่าถอดหรืออุดดี หมอบอกกับปากเองถ้าถอนจะมีปัญหากับฟันแท้ ซึ่งถ้าถอนค่าใช้จ่ายถูกว่าครึ่งหนึ่ง แต่ที่อุดเพราะกลัวมีปัญหาและเราเชื่อในตัวเขา ว่าอุดได้ (เรื่องนี่นานและครับ 3-4 เดือน) อยากให้ทุกท่านที่เข้ามาอวยพร ผมขอให้พรย้อนไปแก่ท่านทุกคน อย่าเจ็บอย่าจนนะคับ (และขอให้เรื่องนี่ไปเกิดกับใครเลยคับหัวใจจะสลาย) นี่ผมยังพอมีถ้าเกิดกับคนที่ไม่มีจริง ๆ คงลำบาก"

            สำหรับกรณีนี้ ชาวเน็ตหลายคนก็แสดงความคิดเห็นมากมาย โดยระบุว่า สงสารน้องที่จะต้องเจ็บปวดกับอาการบวม แต่กรณีนี้น่าจะเกิดจากฟันที่ผุทะลุโพรงประสาทไปแล้ว ไม่สามารถอุดได้ พออุดก็เหมือนปิดเชื้อโรคและหนองไม่มีทางระบายออกจากฟันที่ผุ จึงกระจายไปทางปลายรากฟัน ออกมาที่กระดูก ผ่านช่องว่างระหว่างกระดูกกับ เหงือก แก้ม และลามไปใต้ตาแทน ซึ่งเคสนี้คุณหมอควรอธิบายให้ผู้ปกครองเข้าใจ 



คลิป แชร์สนั่น พาลูกไปถอดฟัน แต่หมอฉีดยาชาให้ผิดข้าง โพสต์โดย คุณ Ohozaa Clip สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

Credit: http://hilight.kapook.com/view/114121
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...