โดยปกติคนเราเวลาชอบหรือคลั่งไคล้สิ่งใดสิ่งหนึ่งมากๆ ก็มักจะนำมาเป็นของสะสมของตนเองใช่ปะ! เช่น เด็กผู้หญิงชอบตุ๊กตาบาร์บี้ , เด็กผู้ชายชอบหุ่นยนต์ หรือแม้กระทั่งคนที่โตแล้วก็จะสะสมของที่เขาสนใจต่างๆนานา แต่วันนี้ทีนเอ็มไทยมีเรื่องแปลกมาฝากเพื่อนๆ กันอีกแล้วคะ เกี่ยวกับของสะสมเนี่ยแหละ แต่แปลกตรงที่เป็นชิ้นส่วน หรืออวัยวะ ของเหล่าคนดัง จะมีของใคร ชิ้นส่วนอะไร ตามมาดูกันเลย ..?7 ของสะสมชิ้นส่วนร่างกายคนดัง
7 ของสะสมชิ้นส่วนร่างกายคนดัง
1. หูดของเอลวิส เพรสลีย์
Joni Mabe ศิลปินชาวอเมริกันผู้หลงไหลในตัวเอลวิส เพรสลีย์ เป็นผู้ที่มีของสะสมเกี่ยวกับเอลวิสมากมาย เยอะขนาดเปิดเป็นงานนิทรรศการได้สบายๆ หนึ่งในของสะสมแปลกๆ ก็คือ?หูดของเอลวิส! เชื่อกันว่าหูดที่มือขวาของเอลวิสถูกตัดออกมาในปี ค.ศ.1957 ขณะที่เขาอยู่ในกองทัพ และก่อนที่จะมีชื่อเสียง หลักฐานก็คือรูปถ่ายที่หลังจากปีนั้นหูดที่มือของเขาก็หายไป หูดนั้นถูกเก็บไว้โดยนายแพทย์ซึ่งเป็นผู้ตัดออกให้นั่นเองซึ่งก็เป็นโชคดีของคุณหมอ ที่เอลวิสกลายเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกคนหนึ่ง ทำให้ก้อนหูดไร้ค่ากลายเป็นก้อนทองทันทีเมื่อ Joni Mabe ขอซื้อต่อในราคาที่ไม่ถูกเปิดเผย อย่างไรก็ตาม ไม่มีหลักฐาน หรือใบรับรอง ว่าหูดที่เธอซื้อมานั้นเป็นของเอลวิสจริงๆ แต่ตัวของ Joni Mabe และคนอีกจำนวนมากก็เชื่อว่า นี่เป็นของจริง
2. ฟันของไอแซก นิวตัน
ในปี ค.ศ.1816?ฟันของไอแซก นิวตัน ผู้ค้นพบแรงโน้มถ่วง?ถูกขายไปในราคา 3,600 เหรียญดอลล่าห์สหรัฐ เมื่อถึงปี ค.ศ.2001 ก็ตีค่าได้เป็นเงินถึง 35,000 เหรียญ จึงถูกบันทึกไว้ในสถิติโลกกินเนสบุ๊กในปี ค.ศ.2002 ว่า เป็นฟันที่ราคาแพงที่สุดในโลก ฟันของนิวตันที่ถูกซื้อไปนั้น ได้ถูกดัดแปลงเป็นหัวแหวน แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้ก็ผ่านมานานมากแล้วทำให้ตามหาตัวเจ้าของปัจจุบันไม่เจอ
3.?ลมหายใจสุดท้ายของโทมัส อัลวา เอดิสัน
อ่านชื่อแล้วอาจจะงงๆ ว่าลมหายใจเก็บกันไว้ได้ด้วยหรือ เรื่องมีอยู่ว่า ในตอนที่เอดิสันใกล้จะสิ้นลมนั้น เฮนรี่ ฟอร์ด ผู้ซึ่งเป็นวิศวกรของบริษัทเอดิสัน (จะต่อมาก็กลายเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทฟอร์ด ที่ผลิตรถยนต์) มีความเชื่อว่า วิญญาณของมนุษย์จะหลุดออกจากร่างมาพร้อมกับลมหายใจสุดท้าย เขาจึงได้โน้มน้าวให้ลูกชายของเอดิสัน?เก็บลมหายใจของเขาไว้ในหลอดทดลอง?(ถ้าเป็นจริงตามที่ฟอร์ดว่า ของชิ้นนี้น่าจะชื่อว่า ?วิญญาณของโทมัส อัลวา เอดิสัน? มากกว่า)ถึงทุกวันนี้ หลอดทดลองที่ว่าเก็บรักษาไว้ที่ Henry Ford Museum and Greenfield Village ซึ่งเปิดให้เข้าชมได้ในราคาคนละ 25 เหรียญ สำหรับคนที่อยากเข้าไปดูหลอดเปล่าๆ แล้วจินตนาการเอาเองว่าวิญญาณของเอดิสันที่อยู่ในนั้นจะเป็นอย่างไร
4. หัวใจของเฟรเดริก โชแปง
โชแปง คือนักเปียโนและนักแต่งเพลงชาวโปแลนด์ที่มีชีวิตอยู่ระหว่างปี ค.ศ.1810 ? ค.ศ.1849 ได้รับการยกย่องว่าเป็นปรมาจารย์ด้่านเพลงโรแมนติค (เป็นสไตล์เพลงคลาสสิคแบบหนึ่ง) โชแปงมีความกลัวการถูกฝังทั้งเป็น (เป็นอาการ Phobia หรือความกลัวโดยไร้เหตุผลอย่างหนึ่ง) ดังนั้น ก่อนที่เขาจะตายลง เขาได้สั่งเสียให้เอาหัวใจออกมาจากร่างก่อนที่จะฝัง ครอบครัวของเขาก็ทำตามคำขอนั้นโดยย้ายหัวใจเขาออกไปเก็บแช่ไว้ในขวดแอลกอฮอล์ (สันนิษฐานกันว่า?แอลกอฮอล์ที่ว่านี้คือเหล้า) เพื่อรอการขนย้ายกลับไปยังเมืองวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ ที่ซึ่งหัวใจของโชแปงถูกเก็บไว้ในเสาหินของโบสถ์ Krakowskie Przedmiecie และทุกวันนี้มันก็ยังคงอยู่ที่เดิม
5.?นิ้วของกาลิเลโอ
กาลิเลโอ เป็นหนึ่งในบุคคลที่เรียกได้ว่าฉลาด ปราดเปรื่องที่สุดเท่าที่โลกเราเคยมีมา เขาเป็นทั้งนักฟิสิกส์ นักคณิตศาสตร์ นักดาราศาสตร์ และนักปรัชญา เขาคือผู้ที่ค้นพบว่าโลกหมุนรอบดวงอาทิตย์?ทำให้ศาสนจักรโกรธมาก และขังเขาไว้ในบ้านจนกระทั่งเสียชีวิตลง 9 ปี หลังจากนั้นหลังจากกาลิเลโอสิ้นชีวิตลงหลายปีแล้ว มีการเคลื่อนย้ายหลุมศพของเขาไปยังที่ใหม่ซึ่งตั้งใจจะทำเป็นอนุสาวรีย์ ในตอนนั้นเองที่?มีคนหักนิ้วของเขาเก็บเอาไว้?(คิดว่าอาจจะอยากได้เป็นของที่ระลึก) หลังจากนั้น นิ้วของกาลิเลโอก็ถูกนำไปไว้ตามพิพิธภัณฑ์ต่างๆ หลายแห่ง จนถึงปี ค.ศ.1927 มันก็ได้ที่อยู่ถาวรที่พิพิธภัณฑ์ Museo di Storia della Scienza ที่เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี โดยบรรจุไว้ในโหลแก้วสวยงาม ให้คนที่มาเยี่ยมชมได้เห็นกันอย่างใกล้ชิด
6. สมองของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ฉลาดจนน่าทึ่ง อีกทั้งเรื่องราวของเขาก็ยังน่าสนใจจนเราเคยเขียนบทความเกี่ยวกับเขาไว้ ไอน์สไตน์มีชื่อเสียงขึ้นจากการคิดค้นทฤษฎีสัมพัทธภาพและทรงผมอันเป็นเอกลักษณ์ ใครๆ ก็สงสัยว่าสมองของคนที่ฉลาดขนาดนี้ จะมีอะไรแตกต่างจากสมองคนปกติหรือไม่ นอกจากพวกเราแล้ว คุณหมอ Thomas Harvey ผู้ชันสูตรศพของไอน์สไตน์ ก็สงสัยเหมือนกัน แต่วิธีการของเขาไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไหร่ เพราะเขาได้?แอบผ่าสมองของไอน์สไตน์ออกมาเก็บเอาไว้?ทั้งๆ ที่ไม่ได้รับอนุญาต หลังจากนั้นเขาก็โดนไล่ออกจากโรงพยาบาลเพราะไม่ยอมคืนสมองของไอน์สไตน์ให้หลังจากนั้นกว่า 40 ปี Harvey ยังคงเก็บสมองของไอน์สไตน์ไว้ และพาติดตัวเดินทางไปด้วยรอบประเทศ (หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ กว่า 200 ชิ้น และเก็บไว้ในขวดโหล 2 ขวด) ถึงแม้เขาจะไม่ยอมคืนสมองให้ แต่ก็ยังยอมส่งชิ้นส่วนบางชิ้นให้กับพวกนักวิจัยเพื่อทำการศึกษา จนกระทั่งปี ค.ศ.1998 เขาถึงจะยอมคืนสมองของไอน์สไตน์ทั้งหมดให้กับโรงพยาบาลพรินซ์ตัน
7. กล่องดวงใจของรัสปูติน
เรื่องราวชีวิตของรัสปูตินค่อนข้างน่าสนใจทีเดียว เขาเป็นนักบวชซึ่งมีบทบาทมากในราชวงศ์โรมานอฟของรัสเซีย เชื่อกันว่าเขาเป็นผู้มีพลังจิต และอำนาจวิเศษ แต่ขณะเดียวกันก็เป็นคนชั่วร้ายมาก ถึงกับว่ากันว่า ที่ราชวงศ์โรมานอฟต้องล่มสลายก็เพราะฝีมือของรัสปูตินนี่เอง แต่ถึงจะมีชื่อเสียงไม่ค่อยดี? รัสปูตินก็เนื้อหอมมากในเหล่าสาวๆ ทั้งที่ยังโสด และแต่งงานแล้ว ว่ากันว่า เป็นเพราะว่าเขามี?น้องชายขนาดใหญ่ผิดธรรมดา?นั่นเอง ที่มาของของชิ้นนี้มีหลายกระแสมาก บ้างก็ว่า เหล่าสามีที่ภรรยาเป็นชู้กับรัสปูตินโกรธแค้นมาก เลยตัดกล่องดวงใจของเขาออกเสีย จะได้ใช้การไม่ได้อีก (อันนี้ไม่น่าเป็นจริง) อีกเรื่องที่ค่อนข้างน่าเชื่อถือกว่าเล่าไว้ว่า กล่องดวงใจของรัสปูตินโดนตัดออกมาหลังจากเขาโดนสังหารโดยเจ้าชายแห่งราชวงศ์โรมานอฟ และเก็บไว้โดยแม่บ้านที่ไปพบเข้าหลังจากนั้น การเดินทางอันมีสีสันของชิ้นส่วนร่างกายนี้ก็เริ่มต้นขึ้น ว่ากันว่า ในตอนแรก ชิ้นส่วนนี้ตกไปอยู่ในการครอบครองของกลุ่มผู้หญิงชาวรัสเซียที่อพยพไปอยู่ในฝรั่งเศส ซึ่งบูชาของชิ้นนี้เหมือนกับเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หลังจากนั้น ก็ไปอยู่ในการครอบครองของ Marie ผู้เป็นลูกสาวของรัสปูตินเอง ซึ่งเก็บเอาไว้จนกระทั่งเธอเสียชีวิตในปี ค.ศ.1977? หลังจากนั้นอีกหลายปี Michael Augustine ก็ไปพบเข้าพร้อมกับโน๊ตบันทึกของ?Marie จึงได้รู้ว่า นี่คือชิ้นส่วนของรัสปูติน จึงนำไปขายต่อให้โรงประมูล ใีนปีค.ศ.1994 ซึ่งที่โรงประมูลแห่งนี้เอง มีการค้นพบว่า ชิ้นส่วนนี้ไม่ใช่น้องชายของรัสปูตินแต่อย่างใด แต่เป็นปลิงทะเล (ซึ่งก็ยังเป็นที่สงสัยกันอยู่ ว่าเป็นปลิงทะเลจริงตามที่กล่าวอ้างหรือไม่) อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วมันก็ได้มาจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ Museum of Erotica St. Petersburg ซึ่งซื้อมาต่อจากใครสักคนที่ไม่ประสงค์จะเผยนามในราคา 8,000 เหรียญดอลล่าห์ โดยผู้อำนวยการของพิพิธภัณฑ์มั่นใจมากว่านี่คือของจริง และภาคภูมิใจกับของสะสมชิ้นนี้เป็นอันมาก
ที่มา ?The List Cafe?,?The Telegraph?,?Chicago Tribune News?,?Museum of Hoaxes