แอลจีเรีย : เจมิลา

ในปี 1982, หมู่บ้านเจมิลาของแอลจีเรีย ได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกของยูเนสโก เนื่องจากสถานที่แห่งนี้ เป็นแหล่งสถาปัตยกรรมแบบโรมัน ท่ามกลางสภาพแวดล้อมแห่งขุนเขา

อาร์เมเนีย : การ์นี

โบราณสถานแบบกรีก-โรมันแห่งเดียว ในกลุ่มประเทศอดีตสหภาพโซเวียด วิหารการ์นีของอาร์เนีย ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 1 และเชื่อว่าเงินที่ใช้ในการก่อสร้างนั้น เป็นของกษัตริย์อาร์เมเนีย ที่ได้รับจากจักรพรรดิเนโน เพื่อแลกกับการสนับสนุนทางทหาร

บัลแกเรีย : พลอฟดิฟ

พลอฟดิฟเป็นเมืองเก่าแก่ที่สุดของยุโรปเลยนะเหมียว สร้างขึ้นในยุคนีโอลิธิค จนค.ศ. 46เมืองนี้ได้ถูกยึดครองโดยจักรพรรดิคลอดิอุส และกลายเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิโรมันนั่นเอง

โครเอเชีย : พูลา

เทศกาล “วันแห่งโบราณกาล” เป็นเทศกาลประจำปีของเมืองพูลา มีทั้งการแสดงดนตรี งานออกร้านอาหาร และการแสดงละครเวที ตามสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ในเมือง รวมถึงการต่อสู้ของเหล่ากลาดิเอเตอร์ในสนามกีฬาแบบโรมันอีกด้วย

ไซปรัส : คูเรียน

เป็นโรงละครที่แสนอลังการสุดๆในคูเรียน สามารถรับผู้ชมได้ถึง 2,000 คน ที่มาเฝ้าชมการต่อสู้ของเหล่ากลาดิเอเตอร์

อังกฤษ : บาธ

เป็นโบราณสถานโรมันที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ แม้ว่ากำแพงฮาเดรียนที่ยาวถึง 117 กม. แต่โรงอาบน้ำในเมืองบาธ อาจเป็นที่ๆผ่อนคลายกว่าในการซึมซับวัฒนธรรมแบบโรมันก็ได้เมี๊ยว

ฝรั่งเศส : อาร์เลส

กีฬาเปื้อนเลือดหลายชนิด มีขึ้นในสนามประลองของอาร์เลส ทางภาคใต้ของฝรั่งเศส เทศกาลเฟเรีย หรือเทศกาลสู้วัวกระทิงแบบฝรั่งเศส จะดึงดูดนักท่องเที่ยวหลายแสนคน ให้หลั่งไหลเข้าสู่เมืองนี้เลยหล่ะ

เยอรมนี : ทรัยเออร์

ปอร์ตา นิกรา เป็นเมืองโรมันที่ใหญ่ที่สุด ในพื้นที่ประตูสู่เทือกเขาแอลป์ทางภาคเหนือเชียวนะ

อิสราเอล : ซีซาเรีย

เฮร็อดมหาราช สร้างนครซีซาเรีย ในราว 25-13 ปีก่อนคริสตกาล โดยตั้งชื่อเมืองเพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงซีซาร์ ออกุสตุส

อิตาลี : ปอมเปอี

แน่นอนว่า ในอิตาลีเต็มไปด้วยอนุสรณ์สถานของจักรวรรดิโรมัน แต่ที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุด คือ นครปอมเปอี ซึ่งถูกฝังในราวค.ศ. 79 ด้วยลาวาจากภูเขาไฟวีซูวิอุส (ที่เห็นด้านหลัง) เมืองที่ถูกหินหลอมเหลวท่วมทับถม และคงรักษาสภาพเดิมไว้ ถูกค้นพบในปี 1599 ก่อนจะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในปัจจุบัน

จอร์แดน : เจราช

เป็นเมืองโบราณ เจราช หรือ เกราซา ตอนที่อยู่ภายใต้จักรวรรดิโรมัน ประตูโค้งที่เห็นถูกสร้างขึ้นเพื่อฉลองการเสด็จเยือนของจักรพรรดิเฮเดรียน ในปีค.ศ. 129

เลบานอน : บาลเบค

ทุก ๆ เดือนก.ค.- ส.ค. องค์กรโรมัน อะโครโปลิส จะเป็นเจ้าภาพจัดเทศกาลบาลเบคระหว่างประเทศ ซึ่งมีทั้งการแสดงดนตรีคลาสสิค การเต้นรำ การแสดงละครเวที โอเปร่าและดนตรีแจ๊ซ

ลิเบีย : เลปติส แมกนา

เป็นหนึ่งในโบราณสถานโรมัน ที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ และน่าตื่นตาตื่นใจที่สุด ในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเลยก็ว่าได้ เพราะสถาปัตยกรรมในเมืองเลปติส แมกนา ทำให้เมืองนี้ควรคู่กับฉายา นครที่เป็นคู่แข่งของกรุงโรม

มอลตา : ราบัต

ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 มีการขุดค้นพบเมืองโรมันโบราณสมัยศตวรรษที่ 1 “โดมุส โรมาน่า” นอกเมืองราบัต และในปัจจุบัน มีการตั้งพิพิธิภัณฑ์รวมรวมโบราณวัตถุในพื้นที่ดังกล่าวด้วยเหมียว

โมร็อกโก : โวลูบิลิส

โวลูบิลิส เป็นเมืองโรมันที่สร้างขึ้นในพื้นที่เกษตรกรรมของโมร็อกโก วิหารแบบโรมันของที่นี่ นับเป็นวิหารแบบโรมันที่งดงามที่สุดในแอฟริกา ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการขุดค้น

โปรตุเกส : โคนิมบริกา

โคนิมบริกา เป็นเมืองที่อนุรักษ์ไว้ในสภาพดีที่สุด ถึงจะไม่ใช่เมืองโรมันที่ใหญ่ที่สุดในโปรตุเกส แต่สิ่งที่น่าสนใจของเมืองนี้ คือ กระเบื้องโมเสก โรงอาบน้ำสาธารณะ ซากปรักหักพังของบ้านเรือน และสถานที่ราชการ

สเปน : เมริดา

เมริดา เป็นเมืองหลวงของมลฑลลูซิทาเนีย ในจักรวรรดิโรมัน ในภาพที่เห็น คือ โรงละครแบบโรมัน อายุเก่าแก่ 15 ปี ก่อนคริสตกาลเมี๊ยว

ซีเรีย : พัลมีรา

พัลมีรา กลายเป็นอาณานิคมของโรมัน ในปีค.ศ. 183 ส่วนที่เห็นในภาพ คือ วิหารแห่งเบล เป็นส่วนผสมของอารยธรรมตะวันออกไกลโบราณ กับสถาปัตยกรรมกรีก-โรมัน

ตูนิเซีย : เอล เจม

เอล เจม มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก เพราะโรงมหรสพธีสดรัส ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 3

ตุรกี : แอสเพนดอส

โรงมหรสพแห่งนี้ นอกจากจะโด่งดังในเรื่องระบบเสียงที่ดีเยี่ยมแล้ว ยังขึ้นชื่อในเรื่องความงดงามและความสำคัญทางประวัติศาสตร์อีกด้วย

อีกทั้งยังเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลโอเปร่าและบัลเลต์ระหว่างประเทศแอสเพนดอสอีกด้วย

Credit: ดีเจ ซูกัส