นับตั้งแต่ปี 1969 มีสักกี่คนที่รู้ว่า จากไอเดียเล็กๆ ของ อดีตวิศวกรยานอวกาศ ผู้หนึ่งนามว่า แฟรงก์ รูดี้ ( Frank Rudy ) จะกลายเป็นต้นกำเนิดแห่งความคิดให้แก่แบรนด์กีฬาระดับโลกอย่าง ไนกี้ ได้นำเทคโนโลยีการอัดอากาศเข้าไปในพื้นรองเท้ามาทดลองใช้กับรองเท้ากีฬาธรรมดาๆ จนก่อให้เกิดรองเท้าวิ่งระดับตำนาน และกลายเป็นนวัตกรรมล้ำสมัยที่เข้ามาปฏิวัติวงการกีฬาวิ่งระดับโลกจนกระทั่งถึงทุกวันนี้
ในช่วงเวลานั้น แฟรงค์ ได้นำแนวคิดการวิ่งบนอวกาศมาแลกเปลี่ยนกับ ฟิล ไนท์ ( Phil Knight ) ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์กีฬาไนกี้?ว่า การอัดอากาศเข้าไปในตัวรองเท้าจะช่วยทำให้เท้ารู้สึกนุ่มสบายและลดแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี แน่นอนว่าฟิลได้สนใจแนวคิดดังกล่าว และลองใส่ถุงอัดอากาศเข้าไปในพื้นรองเท้าและให้นักกีฬาได้ทดลองใส่วิ่งซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนในที่สุดบังเกิดเป็นเทคโนโลยีแอร์ โซล ( Air Sole) ที่เป็นแผ่นพลาสติกใสขนาดความยาวเท่ากับตัวรองเท้า ภายในบรรจุไปด้วยอากาศ
ซึ่งฟิลและแฟรงค์ สองผู้บุกเบิกได้ทดลองนำแผ่นดังกล่าวไปใส่ไว้ใต้พื้นรองเท้า ไนกี้ เทลวินด์ ( Nike Tailwind ) เป็นรุ่นแรก และทำให้รองเท้ารุ่นนี้ได้กลายเป็นต้นแบบในการพัฒนารองเท้ากีฬารุ่นอื่นๆ ต่อมา
ต่อมาในช่วงปี 1987 ทิงค์เกอร์ แฮทฟิลด์ ( Tinker Hatfield ) ปรมาจารย์ด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ของไนกี้ และมาร์ก ปารค์เกอร์ (Mark Parker) ผู้บริหารคนสำคัญของไนกี้ ได้ทดลองนำแผ่นพลาสติกใส แอร์ โซล ดังกล่าว มาออกแบบร่วมกับรองเท้าวิ่งรุ่นใหม่ที่พวกเขากำลังคิดค้นขึ้น ด้วยไอเดียการนำแผ่น แอร์ โซล มาใส่ไว้ในรองเท้าเพื่อทำให้มองเห็นได้จากภายนอก ( Visible Air ) ซึ่งรองเท้ารุ่นนี้เป็นที่รู้จักต่อมาในชื่อ ไนกี้ แอร์ แม็กซ์ 1 ( Nike Air Max 1 ) หรือที่เรียกกันในอีกชื่อว่า ไนกี้ แอร์ แม็กซ์ 87 ( Nike Air Max 87 ) ซึ่งถือว่าเป็นปีที่รองเท้าไนกี้แอร์ แม็กซ์ ได้ถือกำเนิดขึ้นอย่างเป็นทางการครั้งแรก และกลายเป็นต้นแบบของรองเท้าแอร์ แม็กซ์ 2 ( Air Max 2 ) หรือ แอร์ แม็กซ์ ไลท์ ( Air Max Light ) ในเจเนอเรชȱ่น ีํสอ4
เลาท่༵บิวณต้ส้นเท้า เพื่อจะทำให้รอḇเ้าีค߸าrยืหย่สามารถรองรับน้ำหนักในแตละy่วขงเ้าyดเปࣇนอย่างดี พร้อมกับเสริมภาลวกษ:์รงท้లใหดแข็งแกร่งและแฝงด้วยความvล่sงแNลvววอง8ว >นทǸให้ แอร์ แม็กซ์ 90 กลายเป็นPอUเทาทo่ด้nับwว+มนิยมมากที่สุดรุ่นหนึ่ง