เรื่องจริงในอดีต เหตุเครื่องบินตกที่ไม่มีใครตาย!

เรื่องจริงในอดีต เหตุเครื่องบินตกที่ไม่มีใครตาย!

 

ในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมานี้หลายคนทั่วโลกต่างก็สังสรรค์ฉลองรับปีใหม่ 2015 กัน แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่ต้องเสียใจ เศร้าสลดกับข่าวการเสียชีวิตของ ผู้โดยสารและลูกเรือของสายการบินแอร์เอเชียอินโดฯ ที่เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินตก ทีนเอ็มไทยก็ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ .. นอกจากนี้เรามักจะได้ยินเรื่องราวของเหตุเครื่องบินตกกันมาบ่อยมากในช่วงนี้ ทีนเอ็มไทยเลยนำ เรื่องจริงในอดีต เหตุเครื่องบินตกที่ไม่มีใครตาย! มาฝากให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันคะ จะเรื่องอีกอย่างได้ว่า “ปาฏิหาริย์บนแม่น้ำฮัดสัน” เรื่องราวจะเป็นอย่างไรไปติดตามกันเลย

เรื่องจริงในอดีต เหตุเครื่องบินตกที่ไม่มีใครตาย! 

วันที่ 15 มกราคม ในปี 2009

สายการบิน US Airways เที่ยวบินที่ 1549  เครื่องรุ่น Airbus A320-214 ออกเดินทางจากสนามบิน Laguardia Airport จากนิวยอร์กมุ่งหน้าไปยังสนามบิน Seattle-Tacoma International Airport โดยระหว่างบินนั้น ได้เจอกับ Bird Strike* อย่างรุนแรง จึงทำให้เกิดปัญหากับเครื่องยนต์และตกกลางแม่น้ำฮัดสัน ด้วยประสบการณ์และความชำนาญของกัปตัน ทำให้ผู้โดยสารทั้ง 150 คนปลอดภัยทั้งหมด จึงทำให้สื่อต่างๆ เรียกเหตุการณ์นี้ว่า “Miracle on Hudson”

*Bird Strike เป็นคำที่ใช้เรียกเหตุการณ์ที่เกิดการชนกันอย่างรุนแรงระหว่างฝูงสัตว์ (นิยมกับใช้นกและค้างคาว) กับยานพาหนะที่มนุษย์สร้างขึ้นโดยเฉพาะเครื่องบิน ซึ่งมักให้นกตายทันที ส่วนยานพาหนะนั้นก็มักได้รับความเสียหายในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง*

ในเวลาประมาณบ่าย 3 โมงครึ่งตามเวลาท้องถิ่น เที่ยวบิน 1549 ของสายการบิน US Airways ได้บินขึ้นจากสนามบินในนิวยอร์ก พร้อมผู้โดยสาร 150 คน และลูกเรือทั้งหมดอีก 5 คน ได้แก่ นักบิน ผู้ช่วยนักบินที่หนึ่ง และพนักงานต้อนรับ 3 คน กัปตันของเที่ยวบินนี้คือ  Chesley B. Sully Sullenberger วัย 57 ปีในขณะนั้น และผู้ช่วยนักบินที่หนึ่งคือ Jeffrey B. Skiles วัย 49 ปี

แต่หลังจากบินขึ้นได้เพียง 2 นาที ผู้ช่วยนักบินที่หนึ่งคือคนแรกที่สังเกตเห็นฝูงนกจำนวนมากกำลังบินมาทางเครื่องบินในขณะที่เครื่องบินกำลังบินอยู่ที่ความสูง 2,700 ฟุต!! และหลังจากนั้นอีกเพียงไม่กี่วินาที ฝูงนกจำนวนมหาศาลก็ได้เข้าชนเครื่องบินอย่างจัง! รวมถึงผู้โดยสารที่นั่งอยู่บริเวณข้างหน้าก็รู้สึกได้ว่าเครื่องบินถูกบางสิ่งชนโครมเข้าอย่างรุนแรง

ในขณะนั้นเครื่องบินยังคงไต่ระดับเพดานความสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ความเร็วของเครื่องยนต์ลดลงและกำลังจะดับเนื่องจากเกิด Bird Strike นั่นเอง และเมื่อเครื่องบินไต่ไปถึงระดับสูงสุดที่ประมาณ 3,060 ฟุต เครื่องบินก็กลับลดระดับความสูงลงมาอย่างรวดเร็วจนเหลือที่ระดับ 1,650 ฟุตเท่านั้น! เริ่มมีเสียงดังจากตัวเครื่องยนต์หลายครั้ง สร้างความตกใจให้แก่ผู้โดยสาร นักบินตัดสินใจติดต่อไปยังศูนย์ควบคุมการบินที่นิวยอร์กและแจ้งว่า

    “Hit birds. We’ve lost thrust on both engines. We’re turning back towards LaGuardia.”
  (เราชนกับนก เราสูญเสียแรงขับของเครื่องยนต์ทั้งสอง เรากำลังจะกลับไปยังสนามบิน Laguardia)

ผู้โดยสารเริ่มมองเห็นประกายควันไฟสีแดงและเสียงดังจากเครื่องยนต์ตามมา จากนั้นเริ่มได้กลิ่นเชื้อเพลิงที่ยังไม่ถูกเผาไหม้ในห้องโดยสาร ส่วนศูนย์ควบคุมการบินที่นิวยอร์กได้แจ้งต่อไปยังสนามบิน Laguardia ว่า ให้ระงับการบินขึ้นของสายการบินอื่นๆ ชั่วคราว เพราะจะให้สายการบิน US Airways เที่ยวบินที่ 1549 นี้บินกลับมาลงจอดฉุกเฉินก่อน

แต่นักบินพิจารณาแล้วว่า ไม่น่าจะบินไปถึงสนามบิน Laguardia ได้ทันเพราะเมื่อเครื่องยนต์มีปัญหา ทำให้เครื่องบินลดความเร็วลงอย่างกะทันหันจนอาจบินไม่ถึงปลายทางก่อนก็เป็นได้…..และมีแววว่า อาจจะตกกลางนิวยอร์กซึ่งมีผู้คนอาศัยอยู่อย่างแออัด!!

นักบินได้ตัดสินใจเปลี่ยนไปขอลงจอดฉุกเฉินที่สนามบิน Teterboro Airport ในเมืองนิวเจอร์ซีส์ ซึ่งก็ได้รับการอนุญาตให้ลงจอดได้ แต่สุดท้ายกัปตันก็มองเห็นอีกว่า ไม่น่าจะบินไปถึงได้ทันอีกเช่นกันเพราะสนามบินอยู่ห่างออกไปถึงเกือบ 10 กิโลเมตร ในนาทีนั้น เครื่องยนต์ดับสนิท เครื่องบินกำลังจะตกในอีก 2 นาที และไม่สามารถบินไปจอดฉุกเฉินทั้ง 2 สนามบินที่ใกล้ที่สุดได้!! นักบินมองไปข้างหน้า เขาพบทางเลือกสุดท้ายที่อาจทำให้ทุกคนรอด..


“We can’t do it”, we’re gonna be in the Hudson”

(ฮัดสัน คือชื่อแม่น้ำที่อยู่ระหว่างนิวยอร์กและเขตวีฮอว์เคน ซึ่งอยู่ในรัฐนิวเจอร์ซีย์)

 ในขณะนั้น เนื่องจากเครื่องบินบินลงต่ำ ทำให้โทรศัพท์มือถือมีสัญญาณ ผู้โดยสารหลายคนเริ่มส่งข้อความไปบอกคนทางบ้าน (บางคนก็พิมพ์บอกลาเลยทีเดียว) เพราะส่วนมากก็คิดว่าไม่น่ารอดแน่ๆ

 เครื่องบินได้บินผ่านเหนือสะพาน George Washington Bridge ซึ่งอยู่เหนือแม่น้ำฮัดสันด้วยความสูงฉิวเฉียดมาก เพราะเฉียดสะพานไปแค่ 100 กว่าฟุต!! (ไม่งั้นชนสะพานแน่นอน) ขณะนั้นนักบินได้ประกาศแก่ผู้โดยสารว่า “Brace for impact” หรือ “เตรียมพร้อมรับการกระแทก” ส่วนพนักงานต้อนรับก็ตะโกนสั่งผู้โดยสารว่าให้ก้มตัวเอาไว้

สะพาน George Washington Bridge

30 เมตรสุดท้ายก่อนจะแตะพื้นน้ำ

ในที่สุดเครื่องบินก็ร่อนลงกลางแม่น้ำ โชคดีที่ไม่เกิดระเบิดขึ้นแต่หางของเครื่องบินฉีกขาด (หลายคนอาจคิดว่าจอดกระแทกน้ำคงไม่เป็นไร เพราะไม่ใช่พื้นดินแข็งๆ แต่ความจริงแล้ว หากลงไม่ถูกท่าหรือไม่ได้มุมที่เหมาะสม ก็มีโอกาสเกิดระเบิดพอๆ กันเลยค่ะ เพราะในประวัติศาสตร์การบินเมื่อปี 1996 เครื่องบินของสายการเอธิโอเปียแอร์ไลน์ก็เคยเกิดเหตุการณ์ตกกระแทกมหาสมุทรอินเดียแล้วเครื่องบินระเบิด ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่าครึ่งลำตามภาพด้านล่างนี้)

เหตุการณ์ของสายการบินเอธิโอเปีย แอร์ไลน์ ที่ตกกลางมหาสมุทรอินเดีย

น้ำอันเย็นยะเยือกในแม่น้ำเริ่มทะลักเข้ามาในเครื่องบิน ในขณะนั้นเป็นเดือนมกราคมซึ่งเป็นหน้าหนาว ผู้โดยสารหลายคนที่รอดชีวิตกล่าวว่า หากไม่ตายเพราะเครื่องบินตก ก็คงมาตายเพราะจมน้ำแน่ๆ

ผู้โดยสารต่างรีบออกมาทางปีกของเครื่องบินและกระโดดลงในน้ำ เรือต่างๆ บริเวณนั้นและทีมดำน้ำถูกส่งมาช่วยเหลือด้วยความรวดเร็ว ทำให้ผู้โดยสารทุกคนรอดชีวิตและปลอดภัย มีเพียงผู้บาดเจ็บไม่ถึง 10 คนเท่านั้น

หลังสิ้นสุดเหตุการณ์นี้ หน่วยงานเพื่อความปลอดภัยของการขนส่งแห่งชาติ ได้ออกมาแถลงการณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า “เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์การนำเครื่องบินจอดกลางน้ำที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์การบิน กัปตันและลูกเรือทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองได้เป็่นอย่างดี ทำให้ไม่มีใครเสียชีวิต” และต่อมาทั้งกัปตันและลูกเรือทุกคนได้รับรางวัลจาก The Guild of Air Pilots and Air Navigators ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ให้คำแนะนำแก่รัฐบาลในเรื่องความปลอดภัยทางการบินอีกด้วย

นักบินได้รับคำชื่นชมมาก เพราะถึงแม้จะเลือกลงกลางแม่น้ำ แต่ก็สามารถลงได้อย่างปลอดภัย และที่สำคัญกว่านั้น นักบินได้ให้สัมภาษณ์ว่า เขาได้เลือกลงกลางแม่น้ำ ณ จุดๆ นั้นเพราะเห็นว่ามีเรือลำใหญ่และท่าเรือใหญ่ถึง 3 ท่าอยู่ใกล้บริเวณนั้น ซึ่งนั่นหมายถึงจะทำให้มีการเข้ามาช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วและมีโอกาสรอดได้มากขึ้น (มีสติดีมากก)

สำหรับตัวเครื่องบินที่เสียหายได้ถูกกู้ขึ้นมาและนำไปจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์การบิน Carolinas ในเวลาต่อมา โดยผู้โดยสารในเที่ยวบินนั้นต่างก็ถูกเชิญเพื่อไปร่วมงานในวันจัดแสดงวันแรกด้วย

เหตุการณ์นี้เป็นที่พูดถึงมากในเรื่องความสามารถของนักบินรวมถึงการรอดตายอย่างปาฏิหาิริย์โดยไม่มีการสูญเสีย จึงทำให้สื่อต่างๆ และคนส่วนมากจำเหตุการณ์นี้ได้ในชื่อว่า ‘MIRACLE ON HUDSON’
 
ขอบคุณที่มา : พี่เป้ http://www.dek-d.com/studyabroad/32905/
 

‘MIRACLE ON HUDSON’

เรื่องจริงในอดีต เหตุเครื่องบินตกที่ไม่มีใครตาย!

เรื่องจริงในอดีต เหตุเครื่องบินตกที่ไม่มีใครตาย!

ผู้โดยสาร

นำไปจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์การบิน Carolinas

นำไปจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์การบิน Carolinas

 

 

 

 


Credit: เอ็มไทยวาไรตี้
#เครื่องบิน
THEPOco
ผู้กำกับภาพ
สมาชิก VIP
5 ม.ค. 58 เวลา 09:21 2,895
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...