เห็นภาพสมองจะๆ ของจริงแบบนี้ ไม่ขนลุกให้มันรู้ไป และยิ่งเป็นสมองของผู้ป่วยในโรงพยาบาลประสาทด้วยแล้ว จะต้องมีความผิดปกติแปลกๆ กว่าคนทั่วไปแน่นอน แถมที่น่าช็อก!! กว่านั้นก็คือ สมองบางส่วนได้หายไปอย่างลึกลับ งั้นอย่ารอช้าเราไปชมภาพและเคสประวัติของสมองต่างๆ ที่ถูกดองลืมไว้หลายปีเหล่านี้กันค่ะ (ขอเตือนว่าถ้าใจไม่ดี อย่าดู!! O^O)…ขนลุก สมองดองลืมกว่า 100 ในโรงพยาบาลประสาท
ขนลุก สมองดองลืมกว่า 100 ในโรงพยาบาลประสาท
ตัวอย่างสมองที่เก็บรวบรวมไว้ที่มหาวิทยาลัยเท็กซัสในเมืองออสตินของสหรัฐมาอย่างยาวนาน กว่า 200 ก้อน ได้หายไปจากห้องปฏิบัติการราว 100 ก้อน หรือราวครึ่งหนึ่งของตัวอย่างสมองทั้งหมดที่ถูกเก็บรักษาไว้โดยใช้สารฟอร์มาลดีไฮด์ดองในเหยือก
โดยโรงพยาบาลในเมืองออสตินได้ส่งตัวอย่างสมองให้กับมหาวิทยาลัยเท็กซัสมาเป็นเวลาราว 28 ปี แต่ห้องปฏิบัติการด้านจิตวิทยามีที่ว่างสำหรับเก็บตัวอย่างสมองเพียง 100 ก้อนเท่านั้น ทำให้ต้องนำตัวอย่างสมองที่เหลือไปเก็บในห้องใต้ดินของศูนย์ทรัพยากรสัตว์ของมหาวิทยาลัยเท็กซัส สถานที่ที่หนึ่งที่หลายคนลืมนึกถึงมาอย่างช้านาน แต่ล่าสุดเจ้าหน้าที่พบว่าตัวอย่างสมองหายไปราว 100 ก้อน ขณะที่ผู้ดูแลเชื่อว่า ในหมู่นักศึกษาปริญญาตรีและประชาชนเริ่มมาขโมยตัวอย่างสมองไปประดับห้องนั่งเล่นหรือเล่นสนุกในเทศกาลฮัลโลวีน
นอกจากนี้คาดว่าสมองก้อนหนึ่งที่หายไปเป็นของ นายชาร์ลส วิทแมน อดีตนาวิกโยธินสหรัฐที่ก่อเหตุลอบยิงประชาชนจากบนหอนาฬิกาที่มหาวิทยาลัยเท็กซัสในปี 2509 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 16 คนและบาดเจ็บ 32 คน
และสำหรับผลงานการถ่ายภาพสมองเหล่านี้เป็นของ ช่างภาพ Adam Voorhes ที่ได้พบสมองที่เหลือเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นความผิดปกติ หรือการเกิดความเสียหายของเซลล์สมอง และถูกดองอยู่ในสารฟอร์มาลดีไฮด์กว่า 100 โหล เขาจึงใช้เวลาทุ่มเทกับการดูเอกสารประวัติต่างๆ ประกอบกับสมอง ทำให้เขาพบว่า รูปแบบต่างๆ ของสมอง พื้นผิวบนสมอง นั้นมีความแตกต่างและสวยงามอย่างน่าเหลือเชื่อ ทำให้เขาตัดสินใจใส่เครื่องช่วยหายใจ ถุงมือยางป้องกันสารเคมี และเริ่มถ่ายภาพผลงานรวมคอลเล็คชั้นของสมองเหล่านี้ เพื่อรวบรวมภาพสมองในประวัติศาสตร์ที่หายาก
โดยช่างภาพ Adam Voorhes ได้เชื่อมโยงภาพสมอง ที่มีขนาด อายุ และความหลากหลาย กลับไปเมื่อปี 1950 ในโรงพยาบาลรัฐออสติน หรือโรงพยาบาลประสาท ก่อนที่จะมาอยู่ที่มหาวิทยาลัยเท็กซัส เพื่อเป็นเครื่องมือในการเรียนการสอนและดูเเลโดยแผนกจิตวิทยาต่อไป
เรียบเรียงโดย teen.mthai.com
ข้อมูล สำนักข่าวไทย, powerhousearena, slate