อีกไม่กี่วันก็ถึงวันแห่งความสุขส่งท้ายปีอีกหนึ่งวัน “Merry Christmas” นะคะเพื่อนๆ ทุกคน และอย่างที่เรารู้กันว่า เมื่อถึงวันนี้ของปีทีไร เราก็จะออกมาสรรค์สร้าง แต่งตัวเป็นซานต้า แซนตี้ กัน .. และเนื่องจากในวันคริสต์มาสที่จะถึงนี้ ทีนเอ็มไทยก็มีเกร็ดความรู้เล็กน้อย เกี่ยวกับ เรื่องเล่าในตำนาน กำเนิดซานตาคลอส วันคริสต์มาส มาฝากเพื่อนๆ กันคะ รู้ไหมว่า ซานตาคลอส ที่เราเห็นกันมาตั้งแต่เด็กๆ นั้นเพิ่งมีกำเนิดขึ้นมาเมื่อประมาณ 200 ปีนี้เอง ถือเป็นตำนานสำคัญของชาวอเมริกันเชื้อสายดัตช์รุ่นบุกเบิกคะ เราไปรู้จัก ซานตาคลอสตัวจริง และเรื่องเล่าในตำนานของเขากันดีกว่า ^^
เรื่องเล่าในตำนาน กำเนิดซานตาคลอส วันคริสต์มาส
ซานตาคลอส (santa claus) เป็นบุคคลที่มีจุดกำเนิดทางตำนาน เทพปกรณัม ประวัติศาสตร์และตำนานพื้นบ้านตามวัฒนธรรมตะวันตกหลายประเทศ กล่าวกันว่าเขาเป็นผู้นำของขวัญไปยังบ้านของเด็กดีในช่วงเย็นและข้ามคืนวันคริสต์มาสอีฟ วันที่ 24 ธันวาคม
ต้นกำเนิดที่แท้จริงของ ซานต้า!
เรื่องของเรื่องมีว่ามีเด็กชายคนหนึ่งเกิดในหมู่บ้านไมรา ซึ่งสมัยก่อนโน้นตั้งอยู่ระหว่างเกาะโรดส์กับไซปรัส ใกล้ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ในตุรกี สมัยยุคศตวรรษที่ 4 ซึ่งปัจจุบันนักท่องเที่ยวนิยมล่องเรือสำราญชื่นชมบรรยากาศ เด็กชายคนนี้มีชื่อว่า “นิโคลัส” (เซนต์นิโคลัส แห่ง ไมรา ( Saint Nicholas of Myra ) )
ชีวิตของเขาอยู่บนกองเงินกองทองเพราะพ่อแม่อยู่ในขั้นคหบดี สงสัยจะทำบุญมาแต่ชาติปางก่อนแต่ทว่าในความโชคดี ก็ย่อมมีความโชคร้าย ไม่ช้าไม่นานพ่อแม่ก็ถึงแก่กรรม ทรัพย์สินจึงตกเป็นของเขาเพียงผู้เดียว แต่น่าแปลกที่นิโคลัสกลับมีใจโอบอ้อมอารีต่อคนยากคนจน ชอบแจกสมบัติช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก หรืออาจจะพบสัจธรรมที่ว่า แท้จริงแล้วเงินทองก็คือสิ่งสมมุติ ความสุขทางใจมีค่ามากกว่า เพราะมันประเมินมิได้
ครั้งนั้นมีครอบครัวของชายชราคนจนครอบครัวหนึ่ง กำลังมีปัญหาด้วยบุตรสาวทั้งสามต้องการแต่งงานแต่ไม่มีเงินจัดพิธีให้สมเกียรติ ครอบครัวนี้จึงตกอยู่ในความทุกข์อย่างหนักเมื่อนิโคลัสทราบข่าวจึงนำทองคำใส่ถุง 2ถุง แอบย่องเข้าไปวางไว้ในบ้านของชายยากจนยามดึกสงัด ทำให้ 2สาวได้จัดพิธีแต่งงานได้อย่างใหญ่โตสมความปรารถนา ต่อมาก็ถึงเวลาของบุตรสาวคนสุดท้องบ้าง นิโคลัสก็นำถุงทองแอบมาหย่อนลงทางปล่องไฟในยามค่ำคืนเหตุที่ต้องใช้ปล่องไฟเพราะคืนนั้นหน้าต่างปิดสนิทหมดทุกด้าน
จากพฤติกรรมของนิโคลัสเป็นต้นเหตุให้พ่อแม่เด็ก ๆ ในสมัยต่อมาแอบนำของขวัญวางไว้ที่เตียงนอนของลูก ๆ ในตอนกลางคืน แล้วบอกว่าซานตาคลอสนำของขวัญมามอบให้ กลายเป็นพฤติกรรมเลียนแบบที่ยกย่องซานตาคลอสให้ฝังอยู่ในจิตสำนึกของเด็กๆ สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน
“ซินเตอร์คลาส”
คำว่า Santa Claus นั้นมาจากภาษาดัชต์ว่า Sinterklass นั่นก็คือชื่อ เซนต์นิโคลัส นั่นเอง ที่เด็กๆ อ่านเพี้ยนมาเป็นภาษาอังกฤษว่า ซานตาคลอส ในที่สุด และเรื่องของ เซนต์นิโคลัส ก็ได้ถูกเล่าขานต่อกันมา จนถึงทวีปอเมริกา ซึ่งการแต่งกายของซานตาในยุคนั้น จะมีโทนสีเขียวแก่ ไปถึงม่วง
นักบุญนิโคลัส ท่านเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางทั่วฮอลแลนด์ในชื่อ “ซินเตอร์คลาส” ราวค.ศ.1870 ชาวอเมริกันเรียกชื่อเพี้ยนไปเป็น”ซานตาคลอส” ตั้งแต่แรกจนถึง ค.ศ. 1890 ภาพของซานตาคลอสเป็นชายร่างผอมสูงสวมชุดสีเขียว หรือน้ำตาลสลับแดง
เจนนี ไนสตรอม ศิลปินชาวสวีเดน เป็นผู้คิดค้นรูปลักษณ์ของซานตาครอสอย่างที่เห็นกันในปัจจุบัน โดยวาดภาพลงในบัตรอวยพรคริสต์มาส ภาพเหล่านี้ได้รับความนิยมไปทั่วโลก เมื่อชาวสวีเดนอีกคนชื่อ แฮดดอน ซันด์บลอม นำภาพวาดของไนสตรอมสวมชุดขาวแดง อันเป็นสีเดียวกับเครื่องหมายการต้าของโคคา-โคล่า ซันด์บลอมยังเปลี่ยนโฉมซานตาคลอสให้ทรวดทรงอ้วนท้วน และมีกวางเรนเดียร์เป็นพาหนะประจำตัว
ความเชื่อเรื่องตำนานลุงซานต้า ..
ตามความเชื่อซึ่งสามารถสืบย้อนไปได้ถึงคริสต์ทศวรรษ 1820 ซานตาคลอสอาศัยที่ขั้วโลกเหนือ พร้อมกับเอลฟ์มีเวทมนตร์จำนวนมากและกวางเรนเดียร์เหาะเก้าตัว (แต่เดิมมีแปด) ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 20
ในแนวคิดซึ่งทำให้ได้รับความนิยมโดยเพลง “santa claus is coming to town” ใน ค.ศ. 1934 เชื่อกันว่าซานตาคลอสทำรายชื่อเด็กทั่วโลก และแบ่งประเภทพวกเขาตามพฤติกรรม (“ดื้อ” หรือ “น่ารัก”) และมอบของขวัญ รวมทั้งของเล่นและลูกกวาดสำหรับเด็กประพฤติดีในโลก และบางครั้งส่งถ่านหินไปให้เด็กดื้อ ภายในคืนวันคริสต์มาสอีฟคืนเดียว เขาสำเร็จได้ด้วยความช่วยเหลือของเอลฟ์ผู้ทำของเล่นในโรงงาน และกวางเรนเดียร์ที่ลากเลื่อนหิมะของเขา
คนที่ทำให้ ซานตาคลอส เป็นที่นิยมในสหรัญอเมริกา
คือศาสนาจารย์ ชาวนิวยอร์คชื่อ Dr. Clement C. Moore เมื่อเขาเขียนนิทานสนุกๆ เรื่อง A Visit from St. Nicholas ในปี 1822 เพื่อลูกๆ ของเขา ส่วนภาพของ ซานตาคลอส ที่เป็นชายแก่ที่คุ้นหน้า ผู้มีใบหน้าสีแดงกร่ำเหมือนผลเชอรี่ จมูกแดง หนวดเคราสีขาว นัยน์ตาสดใสเป็นประกายร่าเริง ใส่ชุดแดงที่เย็บชายเสื้อด้วยขนสัตว์สีขาว และสวมหมวกสี่แดงท่าทางใจดี สะพายถุงย่ามที่เต็มด้วยของขวัญ เดินทางด้วยเลื่อนที่ลากด้วยกวาง
แอบเอาของขวัญมาให้ทางปล่องไฟ โดยใส่ไว้ในถุงเท้ายาว เป็นจินตนาการของนักวาดการ์ตูนชาวอเมริกันชื่อ โธมัส แนส ที่ตีพิมพ์เผยแพร่ในปี ค.ศ. 1866 เป็นครั้งแรก จนเป็นที่ยอมรับและนิยมไปทั่วโลก และกลายเป็นสัญลักษณ์ทางธุรกิจการค้าและความบันเทิงจนกลบบดบังรัศมีของซานตาคลอสตัวจริงอย่างนิโคลัสไปจนหมดสิ้น
ลุงซานต้า ที่รักของเด็กๆ
นักบุญนิโคลัส ท่านได้กลายเป็นนักบุญอุปถัมถ์ประจำชีวิตเด็ก โดยเด็กในประเทศอังกฤษ จะเรียกคุณตาใจดีว่า “คุณพ่อแห่งวันคริสต์มาส” ( Father Christmas ), เด็กเยอรมันนีเรียกว่า “ญาติแห่งพระคริสต์ ” ( Christ Child ), เด็กชาวดัชท์เรียกว่า “ซาน นิโคลาส” หรือ “Sankt Klous” และในที่สุดกลายเป็น “ซานตาคลอส” ติดปากเด็กๆทั่วโลก
คนแรกที่วาดภาพของ ซานตาคลอส
ในปี ค.ศ. 1866 นักวาดการ์ตูนชาวอเมริกัน ชื่อ โธมัส แนส เป็นคนแรกที่วาดภาพของ ซานตาคลอส ขึ้นมาลักษณะเหมือนที่เรา เห็นทุกวันนี้ ลงพิมพ์ในหนังสือ
“Horpers Weekly”เป็นครั้งแรกใบหน้าของซานตาคลอส เป็นสีแดงอมชมพูเหมือนกลีบกุหลาบ จมูกแดงเหมือนผลเชอรี่สุก นัยน์ตาสุกใสเป็นประกาย หนวดเคราสีขาวท่าทางใจดี ถึงแม้ซานตาคลอสจะเป็นเพียง ตำนานที่เกิดขึ้นมาเพื่อเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสก็ตาม แต่ก็เป็นสัญลักษณ์ ที่รวมเอาวิญญาณและความหมายของคริสต์มาสไว้อย่างมากมาย คือความปิติยินดีชื่นชม ความโอบอ้อมอารี ความรัก และความเป็นกันเอง
Abraham Lincoln ประธานาธิบดีคนแรกของอเมริกา แต่งกลอนเรื่อง A Night Before Christmas
ในปี1823 Clement Clarke Moore ได้แต่งกลอนเรื่อง A Night Before Christmas และได้มีการพูดถึง ที่มาของซานตาครั้งแรกว่า มาจาก ขั้วโลกเหนือ และสีเสื้อผ้าของซานตา ถูกเปลี่ยนมาเป็นสีขาว – แดง โดย Abraham Lincoln ประธานาธิบดีคนแรกของอเมริกา
เรียบเรียง teen.mthai.com
ขอบคุณข้อมูล www.thaindc.org,picpost.postjung.com,http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%8B%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%AA