ลงเอยด้วยดี อดีตภรรยา "ยิ่งยง ยอดบัวงาม" ยินยอมมอบหลาน 3 คน ให้ทางนักร้องดังไปเลี้ยงดูแล้ว หลังพ้อออกสื่อ อยากให้นักร้องดังมารับหลานไปเลี้ยงดู ขณะที่น้ำฝน หรือ พิมพ์นารา ลูกสาวนักร้องดัง เผยคุณพ่อดีใจที่จะได้หลานไปเลี้ยงดู
จากกรณีที่ น.ส.ยศยา ภูนาแร่ อายุ 45 ปี อดีตภรรยาของยิ่งยง ยอดบัวงาม นักร้องดัง ได้ออกมาวอนสื่อเรียกร้องให้นักร้องดัง มารับหลานสาวและหลานชายไปเลี้ยงดูแล ซึ่งเด็กทั้ง 3 คนเป็นบุตรของ น.ส.พิมพ์นารา บัวงาม หรือน้ำฝน ลูกสาว ที่ขณะนี้นักร้องดังได้รับตัวไปอยู่ด้วยแล้ว และเมื่อทราบข่าวน้ำฝนได้ออกตามหาลูกตามจุดต่างๆ ใน จ.กาฬสินธุ์ จนกระทั่งพบว่าลูกอยู่ที่บ้านห้วยม่วง ต.คำใหญ่ อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ จึงเดินทางไปรับ แต่ฝ่ายญาติของอดีตภรรยาปฏิเสธที่จะให้หลานไปกับแม่แท้ ๆ และขอให้มีการพูดคุยกันก่อนตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (18 ธ.ค.) เวลา 11.00 น. ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอห้วยเม็ก นายวัลลภ ประวัติวงค์ นายอำเภอห้วยเม็ก ได้มอบหมายให้นายสัญญพงษ์ ศิริเรืองวัฒนา ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายทะเบียน พร้อมด้วย พ.ต.ท.ปรีชา เหล่าการ พนักงานสอบสวน ชำนาญการพิเศษ หัวหน้างานสอบสวน สภ.ห้วยเม็กและกำชับให้ดำเนินการตามคำร้องขอ โดยให้เกิดความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
ในการเจรจาครั้งนี้ มีน.ส.ยศยา ภูนาแร่ ในฐานะผู้ปกครอง และบรรดาญาติ ที่เป็นผู้เลี้ยงดูลูกๆ ของน้ำฝนมาตั้งแต่แบเบาะเดินทางมารับฟัง และให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ด้วย ขณะที่ น.ส.พิมพ์นารา ในฐานะผู้เป็นแม่เดินทางมาพร้อมผู้ติดตามอีก 4 คน
แต่เมื่อเริ่มต้นการเจรจาฝ่ายญาติ น.ส.ยศยา ที่อ้างว่าเป็นผู้เลี้ยงดูมีท่าทีคัดค้านไม่ให้เด็กทั้ง 3 คนแก่ น.ส.พิมพ์นารา ซึ่งเป็นแม่แท้ๆ รับเด็กไปเลี้ยงดู โดยอ้างไม่ไว้ใจและเกรงว่าจะเลี้ยงดูได้ไม่ดี จากนั้นสถานการณ์ก็เริ่มแย่ลง ทางเจ้าหน้าที่จึงขอเชิญผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องออกจากห้องประชุม และพูดคุยทีละฝ่าย ซึ่งใช้เวลานานเกือบ 1 ชั่วโมง โดยฝ่ายของ น.ส.ยศยา จึงได้ตั้งเงื่อนไขไว้ 3 ข้อ ประกอบด้วย
1. ต้องการให้ผู้ใหญ่ซึ่งหมายถึงนักร้องดังได้รับรู้ถึงการรับเด็ก ๆ ไปเลี้ยงดูครั้งนี้
2. ฝ่ายพ่อของเด็กที่ขอเลี้ยงดูบุตรสาวคือ ด.ญ.โอลิเวียร์ โดยอ้างว่านายเดริค เบทแมน ชาวอังกฤษผู้เป็นพ่อได้มีการพูดคุยกับ น.ส.ยศยา ไว้ก่อนหน้านี้ และ
3. ฝ่ายญาติขอค่าเลี้ยงดูที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม จากการเจรจาไกล่เกลี่ยจึงได้ข้อสรุป โดยฝ่ายของน.ส.พิมพ์นารา จะนำเด็กๆ ไปเลี้ยงดูเองที่กรุงเทพฯ โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งมีการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.ห้วยเม็ก อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ด้วย
ทั้งนี้ น.ส.ยศยา กล่าวว่า เมื่อเรื่องจบเช่นนี้ก็โล่งใจ ที่อย่างน้อย ๆ อนาคตของหลาน ๆ ก็คงจะดีขึ้น เพราะฝ่ายทางแม่และตามีฐานะดีกว่าตน แต่ก็ยังอดห่วงไม่ได้ ถึงอย่างไรก็ตาม ก็คงจะขอไปเยี่ยมหลานบ้างในบางครั้ง เพราะมีความผูกพันกันเนื่องจากเลี้ยงดูมาตั้งแต่แบเบาะ ส่วนที่ร้องสื่อและเกิดเป็นเรื่องราวใหญ่โตขึ้นมานั้น ก็เป็นเพราะตนเองไม่สามารถติดต่อลูกสาวได้ ตนเองไม่ต้องการเอาหลานมาเรียกร้องเอาเงินกับอีกฝ่าย แต่อยากให้มีความรับผิดชอบกันบ้างเท่านั้น
ด้าน น.ส.พิมพ์นารา กล่าวว่า พอเสร็จเรื่อง ก็โทรคุยกับพ่อทันทีและเมื่อพ่อรู้ข่าวก็ดีใจมากที่ได้หลานไปเลี้ยง ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้พยายามติดต่อขอเลี้ยงดูลูก ๆ มาโดยตลอด ไม่เคยคิดจะทอดทิ้งแต่อย่างใด ยิ่งมีเรื่องเกิดขึ้นพ่อเองก็ไม่สบายใจและให้เดินทางมารับลูกกลับในทันที พ่อเองก็เตรียมโรงเรียนไว้ให้หลานเรียบร้อยแล้ว แต่ตอนนี้ก็จะต้องไปที่ จ.ศรีสะเกษ เนื่องจากแม่ได้เอาลูกคนโตไปฝากไว้กับเพื่อนที่ อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ
"ดีใจมากที่ได้ลูกมาเลี้ยงดูเอง หลังพยายามมาหลายครั้งแต่ไม่เป็นผล ถือเป็นความสำเร็จที่เราได้ลูกกลับคืนมาแผนอนาคตได้คุยกันในครอบครัวไว้แล้ว ซึ่งต่อจากนี้ก็จะทำหน้าที่แม่ให้ดีที่สุด ส่วนการเลี้ยงดูเบื้องต้นพ่อคงจะหาคนมาช่วยเลี้ยง เพราะร่างกายยังไม่ปกติเท่าไหร่ หลังถูกอดีตสามีซ้อมจนพิการ แต่คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาในการเลี้ยงดูลูกๆ" น.ส.พิมพ์นารา กล่าว