หมูใน "ฟาร์มศิลปะมีชีวิต" ของศิลปินชาวเบลเยี่ยม ที่ชาวเน็ตจีนรุมประณามความทารุณโหดร้าย (ภาพซีซีทีวี)
เอเจนซี - รุมจวกยับศิลปินทารุณสัตว์ไร้ทางสู้ จับ “หมู” มาสักลวดลายบนแผ่นหลังก่อนส่งขายแลกเงินก้อนโต
สถานีโทรทัศน์กลางแห่งชาติจีน (CCTV) รายงาน (10 ธ.ค.) การสร้างผลงานศิลปะของนายวิม เดลโวเย (Wim Delvoye) ศิลปินสัญชาติเบลเยี่ยม ที่ปัจจุบันถูกชาวจีนบนโลกออนไลน์โจมตีความน่ารังเกียจ และโหมประณามการกระทำทารุณกรรมสัตว์
เดลโวเยเล่าว่าเขาก่อตั้ง “ฟาร์มศิลปะมีชีวิต” (Living Art Farm) ในบริเวณชานกรุงปักกิ่งเมื่อราวสิบปีก่อน โดยภายในฟาร์มเพาะเลี้ยงหมูไว้ประมาณ 100 ตัว ซึ่งจะถูกนำตัวมาสักลวดลายอันสลับซับซ้อนต่างๆ อาทิ ภาพวัตถุ สัตว์ และตัวละครตามตำนานโบราณ เป็นต้น
หมูแต่ละตัวที่ถูกนำมาขึ้นเตียงนั้น เดลโวเยอธิบายว่าเป็นหมูอายุ 2-3 เดือน ที่ผ่านขั้นตอนทำให้กล้ามเนื้อและผิวหนังด้านชาตามหลักการแพทย์แล้ว โดยทุกสัปดาห์จะใช้เวลาสักสองชั่วโมง
แผ่นหนังที่ได้รับการวาดลวดลายสามารถขายทำเงินได้สูงถึงหนึ่งล้านหยวน หรือราว 5 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติและนักสะสมผลงานศิลปะแปลกตา
ทั้งนี้ ประเทศจีนไม่มีการบังคับใช้กฎหมายข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับพฤติการณ์ข้างต้น จึงเป็นเหตุผลหลักสำคัญที่ว่าทำไมเดลโวเยเลือกมาสร้างสตูดิโอผลิตงานศิลปะอื้อฉาวนี้ที่นครหลวงแดนมังกร
ด้านชาวเน็ตจีนจำนวนมากต่างแสดงความวิตกกังวลอย่างดุเด็ดเผ็ดร้อน
“แบบนี้มันจิตป่วยมาก! ทำร้ายร่างกายสัตว์แล้วยังฉวยโอกาสหาเงินภายใต้ชื่อศิลปะอีก!”
“ยังจะมีอะไรที่โหดร้ายกว่าการฆ่าและกินพวกมันได้อีกหรอเนี่ย?”
“ศิลปินและคนรวยมักจะทำเรื่องที่ไปไกลเกินกว่าที่คนธรรมดาอย่างดราๆ จะเข้าใจได้อยู่เสมอสินะ”
ชิ้นส่วนแผ่นหนังหมูที่เต็มไปด้วยลวดลายต่างๆ (ภาพซีซีทีวี)
ศิลปินและผู้ช่วยกำลังลงมือสร้างผลงานบนแผ่นหลังหมูในฟาร์ม (ภาพซีซีทีวี)
(ภาพซีซีทีวี)
เหล่าหมูที่ถูกสักลวดลายจนเต็มหลัง (ภาพซีซีทีวี)
เด็กหญิงกับหมูตัวหนึ่งในฟาร์มศิลปะมีชีวิต (ภาพซีซีทีวี)
Credit:
ผุ้จัดการออนไลน์