(3 ธ.ค.) กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ในหมู่ชาวบ้าน อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม หลังมีเหตุคนหยุดหายใจเสียชีวิตไปแล้ว กลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้อีกครั้งอย่างปาฏิหาริย์ ระหว่างที่ญาติพี่น้องกำลังเตรียมจัดงานศพที่ภูมิลำเนา
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบ บ้านเลขที่ 6 หมู่ 13 ต.นาคำ อ.ศรีสงคราม พบว่ากำลังจัดเตรียมงานศพให้กับนายกันหา จันใด อายุ 56 ปี ภายในบ้านพบ นายกันหา กำลังนอนหลับและลูกหลานช่วยบีบนวดคลายเส้นให้ ญาติพี่น้องและชาวบ้านต่างจับกลุ่มพูดคุยกัน โดยระบุว่า นายกันหา เสียชีวิตแล้วแต่ฟื้นคืนชีพได้อีกครั้ง
จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่า ก่อนหน้าที่ นายกันหา มีอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง ช่วงกลางดึกของวันที่ 1 ธันวาคม ภรรยาจึงได้พาส่งรักษาที่โรงพยาบาลศรีสงคราม แต่ปรากฏว่าไม่มีเครื่องมือทางการแพทย์เพียงพอ จึงได้นำตัวส่งรักษาที่ห้องไอซียู โรงพยาบาลนครพนม
กระทั่งช่วงเที่ยงของวันที่ 2 ธันวาคม แพทย์แจ้งว่า นายกันหา อาการไม่สู้ดีนัก ชีพจรเริ่มอ่อนลงเรื่อยๆ ทางญาติจึงตัดสินใจไม่ยื้อชีวิต เซ็นอนุมัติถอดเครื่องออกซิเจนออก แต่ภรรยาของ นายกันหา ไม่ยินยอมให้ฉีดฟอร์มาลีนแก่ร่างสามีเป็นอันขาด ก่อนที่ญาติจะนำร่างขึ้นรถเจ้าหน้าที่ เพื่อนำร่างไปส่งทำพิธีบำเพ็ญกุศลทางศาสนาที่บ้านเกิด
ขณะที่รถเดินทางมาถึง อ.ท่าอุเทน ร่างของ นายกันหา ยังคงนอนแน่นิ่งหมดสติ ลูกหลานจึงได้โทรศัพท์แจ้งญาติพี่น้องว่า นายกันหา ใกล้จะถึงบ้านแล้ว แต่เมื่อรถจอดอยู่ที่หน้าบ้าน น้องชายและลูกชายของนายกันหา ที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ ได้เข้าไปร้องไห้กอดร่างของนายกันหา ปรากฏว่า นายกันหา กลับมามีลมหายใจอีกครั้ง ท่ามกลางความตกตะลึงของญาติพี่น้องและชาวบ้านที่มาร่วมรับศพ
หลังเกิดเหตุน่าอัศจรรย์ดังกล่าว ภรรยาของนายกันหา เกิดอาการดีใจถึงขีดสุด เป็นเหตุทำให้เป็นลมช็อกหมดสติกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล ขณะที่ ลูกสาวของนายกันหา เปิดเผยว่า นายกันหา หยุดหายใจไปประมาณ 5 ชั่วโมง หลังแพทย์ถอดเครื่องช่วยหายใจ
ก่อนหน้านี้ เมื่อกว่า 20 ปีก่อน นายกันหา มีประวัติเข้ารับการผ่าตัดสมอง จากอาการเส้นเลือดอุดตันเพราะดื่มสุรา ก่อนจะเลิกขาดไปหลายปี และเพิ่งกลับมาดื่มสุราอีกครั้ง เมื่อ 3-4 ปีก่อน จนกระทั่งเกิดการปวดศีรษะอย่างรุนแรง แพทย์ระบุว่า นายกันหา มีเลือดออกที่ก้านสมอง ทำให้ไม่รู้สึกรับรู้ใดๆ
อย่างไรก็ตาม นายกันหา ยังคงหายใจตามปกติ แต่ยังไม่มีสติหรือรู้สึกตัวใดๆ ทางญาติจึงได้พยายามทำใจเอาไว้แล้ว เชื่อว่าอาจจะเป็นเพียงแค่ยื้อเวลาเท่านั้น
ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก ข่าวสดออนไลน์