ในวงการนางแบบไทยจะมีนางแบบสักกี่คนที่เรียกได้ว่า โกอินเตอร์ ชนิดดังไกลระดับโลก จนนานาชาติต้องซูฮก หรือถูกเอเยนซี่ใหญ่ ๆ รุมแย่งตัวกันไปร่วมงาน... นางแบบไทยที่ได้รับการยอมรับมากมาย เนื้อหอมขนาดนั้น ดังระดับนั้น มีด้วยหรือ ? ...คำตอบคือ "เคยมี" และพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า ณ วันนี้ ยังไม่มีนางแบบไทยคนไหนวัดรอยเท้าเธอได้เลย ทว่าวันนี้ชื่อเสียงของเธอได้กลายเป็นอดีตไปแล้วก็เท ่านั้น
ยุ้ย รจนา เพชรกัณหา คือบุคคลที่เรากล่าวถึง เธอคือเพชรเม็ดงามจากเอเชีย เป็นนางแบบสาวไทยเพียงคนเดียวที่เคยเจิดจรัสบนเวทีนา งแบบโลก...
ย้อน กลับไปเมื่อราว 10 กว่าปีที่แล้ว วงการแฟชั่นระดับโลกไม่มีใครไม่รู้จัก เด็กสาวผิวสองสี ผมยาวตรง รูปร่างผอมบางจาก จ.อุบลราชธานี ที่ชื่อ รจนา เพชรกัณหา นางแบบสาววัย 18 ปี จากเวทีสุดยอดนางแบบปี พ.ศ.2537 เธอคว้าตำแหน่งอันดับ 2 ของปีนั้น ซึ่งหลังจากการประกวดเพียงไม่กี่วัน เธอก็ถูกจับเซ็นสัญญากับเอเยนซี่ในต่างประเทศทันที
และการได้ขึ้นปกนิตยสาร vogue ของสิงคโปร์ ก็เป็นประตูเปิดทางสู่วงการแฟชั่นระดับโลกของ รจนา เพชรกัณหา ก่อนที่ชื่อเธอจะเบียดขึ้นมาเป็นนางแบบแถวหน้าด้วยกา รเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับ น้ำหอมดังอย่าง "ชาแนล"
แต่ ชีวิตในวัย 35 ปีของ รจนา เพชรกัณหา กลับพลิกผันจากความหรูหราฟู่ฟ่า มาเป็นสาววัยกลางคนธรรมดาคนหนึ่งที่แทบไม่มีใครสนใจ หรือรู้จัก ปัจจุบันเธอใช้ชีวิตอยู่ในห้องเช่าเล็ก ๆ ย่านชานเมืองของกรุงเทพมหานคร โดยมีเงินใช้ต่อวันไม่เกิน 100 บาท หรืออาจจะมากน้อยกว่านั้นตามจังหวะขึ้นลงของรายได้
...เกิดอะไรขึ้นกับชีวิตที่เคยมีแต่ของแบรนด์เนมตั้ง แต่หัวจรดเท้า และปากท้องที่เคยลิ้มรสแต่อาหารหรู ๆ ทำไมเธอต้องกลับเมืองไทยด้วยเงินติดตัวเพียง 500 บาท เพราอะไรกัน ????
"ฉันติดยาเสพติด" นี่เป็นคำสารภาพจากปากของ รจนา เพชรกัณหา เธอยอมรับโดยดีว่า เพราะความอยากรู้อยากลอง ทำให้ชีวิตต้องตกเป็นทาสของยานรก...จริงอยู่มันทำให้ เธอรู้สึกกระปรี้ กระเปร่าและสนุกสุด ๆ เมื่อได้เสพ แต่ขณะเดียวกัน มันก็เป็นตัวพรากทุกสิ่งทุกอย่างไปจากชีวิตของเธอในร ะยะเวลาไม่นานหลังจาก นั้น
"ตอนที่ยุ้ยยังเป็นนางแบบดัง กระเป๋าใบละแสนสองแสน รองเท้าคู่ละหมื่น ยุ้ยก็เคยมีใช้นะคะ บนตัวนี่มีแต่ของแบรนด์เนมทั้งนั้น และตอนที่เริ่มเสพยายุ้ยก็ยังมีงานนะ ตอนนั้นมีเงินซื้อยาเยอะ เราก็เสพเยอะ จนบางครั้งเบลอไปเลย และเหมือนมันเป็นแฟชั่นด้วย เรามีรายได้เยอะก็ซื้อเผื่อคนอื่นด้วย ให้เขาสนุกกับเรา คือใช้เงินไปกับการเสพยา และการใช้ชีวิตหรู ๆ จนหมดตัวเลยค่ะ" รจนา เพชรกัณหา เล่าถึงจุดหักเหของชีวิต
แม้ว่าจะผ่านไปกว่า 10 ปีแล้ว แต่ฤทธิ์จากยาเสพติดในวันวานยังคงส่งผลต่อชีวิตของเธ อ ปัจจุบัน รจนา เพชรกัณหา ยังต้องไปหาหมอเพื่อรับยาบำบัดอาการจากยาเสพติดอย่าง สม่ำเสมอ เพราะอาการหลอน ๆ เบลอ ๆ ยังแวะเวียนมาทักทายเธอบ้างในบางเวลา นอกจากนี้ เธอยังมีอาการลิ้นแข็ง พูดไม่ค่อยชัด ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าเป็นผลมาจากยาเสพติดด้วยหรือไม่
อย่างไรก็ดี ด้วยประสบการณ์ที่ได้จากเวทีนางแบบระดับโลก ทำให้ รจนา เพชรกัณหา ยังมีโอกาสสร้างรายได้เลี้ยงชีพ จากการเป็นเทรนเนอร์สอนเดินแบบให้กับโมเดลลิ่งเล็ก ๆ แถวราชเทวี ซึ่งเธอยอมรับว่าทุกครั้งที่มาสอนหรือตามไปดูลูกศิษย ์เดินแบบตามงานต่าง ๆ นั้น ทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นดีใจทุกครั้ง และคงไม่แปลกอะไร หากนั่นจะทำให้เธอคิดถึงอดีตของตัวเองอย่างจับใจ
"ยุ้ย ยังอยากกลับไปทำงานในวงการแฟชั่นนะคะ เพราะยุ้ยอยู่กับมันมาตั้งแต่อายุ 18 ปี เป็นงานเดียวที่ยุ้ยทำได้และทำได้ดี แต่เราก็ไม่ได้หวังหรอก มันเป็นเรื่องของเบื้องบนที่จะประทานให้ ยุ้ยคิดอย่างนั้น แต่พอนึกถึงวันที่ยุ้ยรุ่งโรจน์ ยุ้ยก็เสียดายหลาย ๆ อย่าง ทุกอย่างมันพังเพราะตัวเราเอง ยุ้ยโทษใครไม่ได้ค่ะ แต่ยอมรับเลยว่าเวลามาดูลูกศิษย์ ก็มีคิดแว้บ ๆ ว่าอยากเดินบนเวทีเหมือนกัน"
...ใช่ว่าโอกาสจะไม่เคยเปิดให้กับคนที่เคยผิดพลาดในช ีวิตเสมอไป ล่าสุด รจนา เพชรกัณหา ได้กลับมาถ่ายแฟชั่นอีกครั้งจากการเชื้อเชิญของ หยินมี่ สาวน้อยที่เป็นที่รู้จักจากรายการเรียลลิตี้ “บิ๊ก บราเธอร์ส” เจ้าของโครงการหนังสือภาพแฟชั่น โดย หยินมี่ บอกว่า ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่เชิญอดีตนางแบบระดับโลกมาร่ว มงาน ขณะเดียวกันทีมงานยังคงชื่มชมการทำงานของ รจนา เพชรกัณหา อย่างไม่ขาดปาก และแน่นอนว่านี่เป็นเรื่องที่สร้างความตื้นตันให้กับ อดีตนางแบบดังคนนี้ อย่างมาก เพราะนานกว่า 8 ปีแล้วที่เธอต้องร้างมือจากวงการไป
จาก เรื่องราวของ รจนา เพชรกัณหา จะเห็นได้ว่าชีวิตที่สูงสุดจนติดเพดาน แม้จะตกสู่ที่มืดจนหาทางสว่างแทบไม่เจอ แต่หากเราเรียนรู้ที่จะเข้าใจชีวิตและหันมาสู่ทางที่ ควรจะเป็น โอกาสดี ๆ ก็ยังมีให้เห็นเสมอ (จริงไหม)
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Pantip.com