ชุดสืบสวนนครบาลโชว์ฝีมือ ลากตัว " เผือก คาเมล" จอมโจรมืออาชีพ ตระเวนลักทรัพย์ทั่ว กทม.นับไม่ถ้วน มูลค่ากว่า 100 ล้าน แถมล่าสุดอุกอาจยิงเจ้าของบ้านพร้อมลูกชายที่ตื่นมาเห็นจนสาหัสอีก
เมื่อวันที่ 9 พ.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก รรท.รอง ผบ.ตร.
พร้อมด้วย พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รรท.ผบช.น. พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา รรท.ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ธวัช วงศ์สง่า ผกก.สน.ธรรมศาลา และชุดสืบสวน แถลงข่าวจับกุม นายศิกศักดิ์ หรือเผือก พันธรังษี อายุ 45 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช ฉายา "เผือก คาเมล" ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลตลิ่งชันที่ 994/2557 ลงวันที่ 8 พ.ย.2557
พร้อมของกลาง รถยนต์เล็กซัส อาร์เอ็ก 270 ทะเบียนป้ายแดง ป 8788 กรุงเทพมหานคร
พระพุทธรูปโบราณ งาช้าง พวงกุญแจเครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก อาวุธปืน 2 กระบอกยี่ห้อซีแซดขนาด 6.35 มม.และยี่ห้อสมิธแอนด์เวสสันขนาด .38 อุปกรณ์ในการงัดแงะตู้เซฟ รวม 254 รายการ รวมมูลค่าของกลางทั้งหมดกว่า 100 ล้านบาท โดยจับกุมได้ที่บริเวณลานจอดรถเจ้าพระยารีสอร์ท ถนนเทพประสิทธิ์ซอย 8 เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
พ.ต.อ.สมบัติ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 02.00 น.
เกิดเหตุคนร้ายลักลอบบุกรุกเข้าไปงัดแงะตู้เซฟและลักทรัพย์ภายในบ้านเลขที่ 1/99 ถนนกาญจนาภิเษก แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา แต่เมื่อเจ้าของบ้านตื่นมาพบ คนร้ายได้เข้าทำร้ายและยิงเจ้าของบ้านบาดเจ็บสาหัส 2 รายคือนายอำพล กุลธรรมโยธิน และนายศิวเสกข์ กุลธรรมโยธิน ซึ่งเป็นพ่อลูก ก่อนโจรกรรมทรัพย์สินไปหลายรายการ จากนั้นพอตรวจกล้องวงจรปิดพบว่า คนร้ายมีลักษณะรูปร่างท้วม สูงประมาณ 170 ซม. ใช้รถยนต์เล็กซัสเป็นยานพาหนะ ก่อนสืบสวนจนจับกุมตัวได้
นอกจากนี้จากการตรวจประวัติพบว่า ผู้ต้องหามีหมายจับติดตัวอยู่ถึง 12 หมาย อาทิ เมื่อวันที่ 26 ก.ย.2556 ใช้รถเก๋งฮอนด้า แอคคอร์ด สีขาว
ไปลักทรัพย์ในพื้นที่ สน.โคกคราม เมื่อวันที่ 4 เม.ย.2556 ก่อเหตุลักรถยนต์เล็กซัส สีดำ ทะเบียน 2 คฉ 1608 กรุงเทพมหานคร พื้นที่ สภ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เพื่อมาใช้ตระเวนก่อเหตุในพื้นที่ สน.ทองหล่อ รวมทั้งยังมีหมายที่ สน.ลำผักชี สน.บางชัน สน.พระโขนง สน.สายไหม สน.ท่าข้าม สน.ธรรมศาลา เรียกว่าเป็นมืออาชีพในการลักทรัพย์เลยทีเดียว เชื่อว่าก่อเหตุแล้วไม่ต่ำกว่า 20 ครั้ง ส่วนพฤติการณ์คือมักจะสวมเสื้อยี่ห้อคาเมลและใช้เอกสารของผู้เสียหายที่ขโมยไปเป็นใบเบิกทางในการแลกบัตรผ่านเข้าหมู่บ้านเหยื่อ จากนั้นจะนำทรัพยืสินทั้งหมดไปจำหน่ายต่อให้กับ นายสงวนศักดิ์ (สงวนนามสกุล) ชาว จ.ฉะเชิงเทรา ไปขายต่ออีกทอด อยู่ระหว่างอนุมัติหมายจับจากศาลอยู่
จากสอบสวน นายศิกศักดิ์ รับสารภาพว่า เคยมีประวัติถูกจับคดีลักทรัพย์มาแล้ว 10 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2556 ที่ผ่านมา
พอเรื่องอยู่ชั้นศาลก็ขอประกันตัวแล้วหลบหนี ส่วนใหญ่ไปตระเวนตามหมู่บ้านต่างๆในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครโดยได้ร่วมก่อเหตุกับ นายบุญส่ง หรือหนึ่ง แซ่ฉั่ว อายุ 37 ปี ซึ่งขณะนี้ถูกจับกุมคดียาเสพติดไปแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา จนติดคุกอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ส่วนใหญ่จะเลือกหมู่บ้านที่มีราคาแพงและเชื่อว่าน่าจะมีทรัพย์สินมาก อีกทั้งที่ต้องใส่เสื้อคาเมลก่อเหตุ เพราะชื่นชอบยี่ห้อนี้มาก
เบื้องต้นแจ้งข้อหาพยายามฆ่า และบุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธ และใช้กำลังประทุษร้ายให้บาดเจ็บสาหัส ส่วนผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ราย มีอาการปลอดภัย ได้ออกจากห้องไอซียูมารักษาตัวที่ รพ.ต่อแล้ว.