เรื่องราวของเด็กสาว อชานติ เอลเลียท สมิธ (Ashanti Elliot Smith) เด็กหญิงวัย 11 ขวบ ต้องเจ็บปวดอย่างมากเมื่อเธอถูกครูบังคับถอดวิกผมออก ในระหว่างเรียนซะอย่างนั้น จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ จึงทำให้อชานติไม่ยอมไปโรงเรียน แต่จะด้วยสาเหตุอะไรนั้น เราไปติดตามพร้อมๆ กันเลยค่ะ…ใจร้ายไปไหม เด็กหญิงป่วยโรคชรา ถูกครูบังคับถอดวิกผม
ใจร้ายไปไหม เด็กหญิงป่วยโรคชรา ถูกครูบังคับถอดวิกผมเชื่อว่าหลายคนก็ต้องรู้สึกแย่ หากตัวเองต้องถูกตอกย้ำความผิดปกติที่เกิดจากอาการป่วย ซึ่งเธอก็เช่นกัน อชานติ เอลเลียท สมิธ (Ashanti Elliot Smith) เด็กหญิงวัย 11 ขวบ ที่ต้องป่วยเป็น “โรคชราในเด็ก” หรือที่รู้จักในชื่อโรคโปรเจเรีย (Progeria) เป็นโรคทางพันธุ์กรรมที่พบได้ยาก ซึ่งเด็กที่จะเป็นโรคนี้เกิดขึ้นได้เพียง 1 ใน 8 ล้าน
โดยผู้ป่วยจะมีลักษณะร่างกายแคระแกรน ผิวหนังหย่อนคล้อย ผมหลุดร่วงใบหน้าเหมือนกับคนแก่ และผู้ป่วยโรคนี้ส่วนใหญ่จะเสียชีวิตด้วยวัยประมาณ 13-15 ปี จากความผิดปกติของหัวใจ Y^Y และด้วยสาเหตุเหล่านี้เอง ที่ทำให้เธออย่างสวย น่ารัก และมีผมยาวเหมือนเด็กคนอื่นๆ ในวัยเดียวกัน เธอจึงเลือกการใส่วิกผม แต่เธอก็ถูกคุณครูขอให้ถอดวิกออก เนื่องจากมันทำให้เพื่อนคนอื่นๆ อยาก ย้อมสีผมตามเธอ
ฟิบี้ สมิธแม่ของอชานติ กล่าวว่า ลูกสาวของเธอนั้นต้องเสียความรู้สึกอย่างมาก เมื่อคุณครูพูดเช่นนั้น มันเหมือนกับหัวใจเล็กๆต้องแตกสลายลง ซึ่งตนคิดว่าเป็นเรื่องที่แย่มาก
“ครอบครัวเราไม่สามารถซื้อวิกผมที่ทำจากเส้นผมของมนุษย์จริงๆ ได้ ซึ่งวิกสีม่วงอันนั้น ก็เป็นวิกที่ครอบครัวของเพื่อนให้มาอีกทีหนึ่ง และอชานติก็ภูมิใจใน เส้นผมของเธอมาก ซึ่งการทำแบบนี้มันทำให้เธอแย่ลง…แน่นอนว่าเวลาที่เธอใส่วิกสีชมพูนั้นมันทำให้เพื่อนๆ ของเธอไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่และอาจจะอยากเลียนแบบบ้างแต่ฉันก็อยากให้เวลาในชีวิตอยู่ของอซานติ ซึ่งก็คงเหลืออีกเพียงไม่กี่ปี…”
ทำให้หลังจากเหตุการณ์วันนั้น อซานติก็ไม่ยอมไปโรงเรียนเพราะจิตใจของเธอนั้นย่ำแย่เป็นอย่างมาก….
นอกจากนี้ทางด้านครูใหญ่ คอลลิน เทย์เลอร์ ก็ได้ออกมาปฎิเสธว่า ทางโรงเรียนไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายจิตใจแต่อย่างใด เพราะปัญหาที่เกิดนั้นไม่ได้มาจากการสวมใส่วิกผม แต่เป็นเพราะสีผมที่ดูสดใสไม่เป็นธรรมชาติ และขนาดที่ใหญ่เกินไปมากกว่า และทางโรงเรียนก็เข้าใจว่าเธอป่วย จึงอยากให้ อชานติ เอลเลียท สมิธ เลือกสวมใส่หมวกหรือวิกที่ดูเป็นสีธรรมชาติแทน
cr. parentdish