วันนี้ จะเล่าเรื่องเกี่ยวกับ
หน่วยรบทำลายใต้น้ำจู่โจม หรือ Navy Seal ของไทยเรานี่แหละ
ที่จริงหลายๆคนคงรู้จักอยู่แล้วแต่วันนี้ ผมอารมณ์ขึ้นอย่างมากหลังจากได้เจอพวกเค้าและ
ได้ฟังเรื่องของพวกเค้า ที่รู้สึกน้อยใจเล็กๆว่าทำไมคนอย่างพวกเค้า "ไม่เคยได้รับอะไรจากประเทศ ชาติเลย"
พวกเค้าเหนื่อยแทบตาบ เสี่ยงชีวิตแทบตาย ยศก็น้อยนิด เงินเดือนก็แค่พอประทังชีวิต
ทำงานเพื่อนชาติ แต่ไม่เคยได้รับอะไรเลยทั้งๆที่พวกเค้ามีความสามารถมากขนาดนั้น
ผมเชื่อ ว่าถ้ามีคนแบบพวกเค้าสัก100คนทำสิ่งที่รุนแรงขึ้นมาก็สามารถทำให้ประเทศเรา
เกิ ลการโกลาหลได้ในทันที เพราะพวกเค้าไม่ธรรมดาอย่างมาก
ผมชอบประโยค ที่พวกเค้าพูดกันบ่อยๆ ดังนี้
"พวกกูป้องกันประเทศเพื่อให้พวก อยู่อย่างสงบสุขไม้ใช่ให้พวกได้ทะเลาะกันอย่างสงบ"
"พวกกูมีหน้าที่ ป้องกันประเทศไม่ใช่มีหน้าที่ไว้ปฏิวัติยึดอำนาจจากประชาชน"
"พวกกูถูก ฝึกมาเพื่อรบไม่ใช่มีหน้าที่ไปดูแลคุณหนู คุณนาย ของพวกผู้ที่มีเครดิตทางสังคม"
"พวกกุฝึกกันแทบตายแต่กลับมาใช้กุเป็น แค่คนขับรถของพวกคนยศสูงๆแค่นี้เหรอ"
และอีกมากมายที่ผมไม่สามารถ พิมพ์ลงไปได้เพราะอาจมีปัญหาตามมาเพราะมีการพาดพิง
ถึงบุคคลชั้นสูง มากๆ(คงจะรู้นะ)
เอาหล่ะมาถึงจุดนี้คงจะอยากรู้แล้วสินะว่าพวก เค้าจะแน่สักแค่ไหน ลองไปดูการฝึกของพวกเค้ากัน
ฝึกด้วยการ แช่น้ำเย็นจัด-10องศาเซลเซียต
แช่น้ำตอนกลางคืนตื่นเช้ามาก็วิ่งแบกเรือยางอีก4ไมล์ เรือยางนั้นหนัก100กว่าโลนะ
แบกเรือไม่พอต้องแบกไม้พายอีก
ฝึกเช้ายันเย็นกันเลยทีเดียวไม่มีหยุด
ตกดึกก็ยังฝึกอยู่แต่เปลี่ยนมาเป็นแบบซุงท่อนใหญ่ๆ
หากใครที่ไม่ไหว ใจไม่สู้ สามารถมาสั่นระฆังลาออกได้สามารถมาสั่นได้ตลอด24ช.ม.
ต่อไปเป็นการว่ายน้ำรอบเกาะโดยไม่ใช้มือ (ทำได้ไง)
หลังจากมัดเสร็จก็จะมีเครื่องส่งตัวลงน้ำโดยระบบอัตโนมัติ
มีการดูแลแบบคนต่อคนเพื่อป้องกันการเสียชีวิต (แต่ในการฝึกไม่ใช่ว่าไม่มีคนตายนะ มีครับ!!!)
เรือยางนี่คือชีวิตของนักจู่โจมใต้น้ำ ไปไหนต้องเอาไปด้วย
ต่อไปเป็นการวิ่งเพื่อชีวิต เพราะขืนไม่วิ่งมีเนื้อกระจุย (ที่เห็นส่งให้กันคือระเบิดC4)
ก็อย่างที่เห็นถ้าไม่วิ่งมีกระจุย (คนเหล่านี้สามารถวิ่ง1ไมล์ได้ภายใน3นาที)
แม้แต่ช่างภาพก็ยังต้องเสี่ยงตายกับเขาด้วย
สรุปคือรอดหมด
สภาพแต่ละคนก็อย่างที่เห็น
อย่าคิดว่าแข็งแกร่งแค่ร่างกายจะรอด จิตใจก็ด้วยนะ ต่อไปเป็นการทดสอบจิตใจ
ที่เห็นคือศพจริงๆครับ คือเค้าจะเอาจดหมายซ่อนไว้ในศพแล้วให้แต่ละคนเข้าป่าช้าไปคนเดียว
แล้ว ก็อ่านข้อความนั้น จากนั้นวิ่งกลับมาอ่านข้อความข้างในให้ครูฝึกกัน
อันนี้เป็นการฝึกเดินในโคลนดูด
โคลนมันคงจะดูดจริงๆนั้นแหละ
หน้าแต่ละคนประมาณว่า....
ต่อไปเป็นการฝึกต่อการ ทรมาน ในกรณีที่ถูกจับเป็น เชลย
รอยสักแบบนี้คงไม่น่าดูสักเท่าไหร่
อันนี้คือให้เพื่อนทรมานกันเอง
ที่เห็นคือกัดหัวงูเป็นๆครับ เป็นการฝึกการดำรงชีพในป่า
รูปข้างล่างเรียกว่าท่า โหม่งโลก เป็นการฝึกความแข็งแรงของกะโหลก
*เกร็ดความรู้ ส่วนที่แข็งที่สุดของหัวคือหน้าผาก ส่วนที่อ่อนที่สุดของหัวคือกระโหลก
ส่วน สาเหตุที่ทุบท้ายทอยแล้วสลบเพราะบริเวณนั้นมีส่วนของเส้นประสาทที่เชื่อต่อ จากสมอง
ไปสู่กระดูกสันหลัง จำให้ดีนะครับส่วนที่อ่อนที่สุดของหัวคือกระโหลกไม่ใช่ท้ายท้อย*
ใครอยากลองก็ได้นะ แต่ให้ทำบนพื้นนะไม่ใช่บนเตียง
ท่านี้เรียกว่าท่า ไถนา
ท่านี้คงไม่ต้องอธิบาย
แต่ถึงกระนั้น ก็ยังยิ้มได้
นี่ถือเป็นการทรมานอย่างนึงนะ
น้ำที่เห็นในถังนั้นเป็น ถังขี้ ครับ ขี้ของพวกเขาเองนี่แหละ
การฝึกอันนี้เหมือนจะเท่ครับ
เท่จริงๆ แต่ร้อนมั้ย? (ไม่น่าถามเนาะ)
สุดท้าย60กว่าคน เหลือคนที่เป็นยอดมนุษย์จริงอยู่แค่นี้(ในแต่ละปีมีคนจบหลักสูตรนี้ไม่เยอะ หรอกคับ)
ขอขอบคุณเวบ www.atcloud.com สำหรับรูปภาพ