แนะนำ 7 วิธีเด็ด พิชิตปัญหา 'ก้นดำ'

 

 

แน่นอนว่าเรื่องผิวพรรณ ไม่ว่าจะเป็นผิวหน้า ผิวกาย เป็นสิ่งที่สาวๆ แทบจะทุกคนบนโลกนี้ให้ความสำคัญ ในการดูแล บำรุง และรักษาความสะอาด  ให้ขาวเนียนใสอยู่เสมอ

แต่ความลับไม่มีในโลกหรอกนะ เพราะเรารู้ว่าปัญหาผิวที่คาใจสำหรับสาวๆ ส่วนใหญ่ก็คือ ‘ก้นดำ’ ซึ่งต่อให้อยู่ในร่มผ้าไม่ถูกแดดยังไง ก็ยังดำกว่าส่วนอื่นอยู่ดี T-T

 

 

เรามาทำความเข้าใจปัญหานี้กันก่อน กับข้อมูลจาก ‘พญ. ทวีรัตนา บุตรสุนทร’ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนัง โรงพยาบาลกรุงเทพ เกี่ยวกับเรื่องผิวก้นและขาหนีบกันดีกว่า

ผิวหนังบริเวณที่ว่า มีเม็ดสีเยอะว่าผิวหนังส่วนอื่นอยู่แล้ว เมื่อเกิดการเสียดสี จะยิ่งดำกว่าส่วนอื่นๆ และหนาขึ้นได้อีก ถ้าการเสียดสียังคงไม่หยุดยั้ง

 

 

และถ้าเมื่อไหร่ที่มีการเสียดสีมากๆ เช่น ใส่กางเกงรัด โดยเฉพาะกางเกงยีนส์ ที่มีเนื้อผ้าหนา การสวมกางเกงในฟิต และความอ้วน ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เสียดสีมากกว่าคนน้ำหนักปกติ

แต่บางคนผอมมาก ก็ดำได้เช่นกัน ด้วยเนื้อตรงผิวหนังช่วงที่เป็นกระดูกตรงก้นมีปริมาณน้อย ทำให้เสียดสีมาก จนดำเป็นวงๆเหมือนกระดูกก้นเลยหละ

 

 

ส่วนถ้าใครปล่อยให้นานไป ผิวด้านในที่เสียดสี จะมีเซลล์ผิวหนังที่จับตัวกันเป็นผื่นแข็ง จากการอักเสบใต้ผิว ซึ่งอาจะต้องใช้ยากลุ่มสเตียรอยด์ที่แพทย์จ่ายให้ เพื่อลดการอักเสบก็เป็นได้

 

แต่สำหรับคนที่ยังไม่เป็นหนักขั้นเป็นผื่นแข็ง แค่ทำตามวิธี 7 ข้อนี้ ก็ช่วยลดปัญหาได้แล้วหละเมี้ยวว!!

 

1. ทาครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของ AHA และ Whitening เพื่อลดรอยด่างดำ

 

2. ไม่สวมกางเกงในนอน หรือถ้าจำเป็นจริงๆ ก็เลือกแบบไม่มีตะเข็บ ไม่รัดติ้วนะ

 

3. กินอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่ วิตามินซีและอี เพราะช่วยบำรุงผิวให้แข็งแรง และลดการอักเสบ

 

4. ได้ฤกษ์ลดความอ้วน โดยเน้นท่าออกกำลังกายกระชับต้นขา 

 

5. หาเบาะนุ่มๆ มารองนั่ง เพื่อป้องกันการกระแทกบริเวณที่เสียดสี

 

6. ไม่แกะ เกา หากรู้สึกคันเมื่อก้นอับชื้น เกิดตุ้ม ผด หรือสิว เพราะมันจะยิ่งทิ้งรอยกระดำกระด่างไว้นะ

 

7. ถ้าคล้ำเกินจะเยียวยาแล้ว ก็คงต้องพึ่งเลเซอร์ลบรอยดำจำพวก IPL จากขุ่นหมอ เพื่อยับยั้งการสร้างเม็ดสี โดยคนผิวขาวจะเห็นผลได้ดีกว่า

 

ได้รู้กันแล้วก็คงเลิกคาใจกันซะทีนะจ๊ะสาวๆ แต่ถ้าต้องการจะเลเซอร์หรือใช้ยาต่างๆ ต้องปรึกษาแพทย์เท่านั้นนะ อย่าหายา หรือรับบริการเถื่อนเป็นอันขาดเชียว!!


ที่มา postjung

Credit: http://www.catdumb.com/
6 พ.ย. 57 เวลา 15:10 8,572 1 20
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...