13 คนดังที่เคยตกอับ สร้างตัวเองจากศูนย์

13 คนดังที่เคยตกอับ สร้างตัวเองจากศูนย์

 

ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่าจะได้มามันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพื่อนๆ จะเห็นกันอยู่บ่อยๆ ว่าคนดังระดับโลกในหลากหลายอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นนักแสดง นักธุรกิจ นักกีฬา เป็นต้น บางคนต้องล้มลุกคลุกคลาน ฝ่าฝันอุปสรรคมามากมายเหลือเกินเพื่อที่จะก้าวไปให้ถึงฝัน หรือเป้าหมายที่เขาตั้งใจ และวันนี้ทีนเอ็มไทยมี 13 คนดังที่เคยตกอับ สร้างตัวเองจากศูนย์ มาฝากเพือนๆ คะ อาจจะทำให้เรามีแรงบันดาลใจ ความอดทน มานะ ^^

13 คนดังที่เคยตกอับ สร้างตัวเองจากศูนย์ 

เฮนรี ฟอร์ด (Henry Ford) เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทฟอร์ดมอเตอร์

ก่อนหน้านี้ทีนเอ็มไทยเคยนำเสนอ 10 คนดังระดับโลก ถึงเรียนไม่จบก็ประสบความสำเร็จได้ ให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็น  ไมเคิล เดลล์ (Michael Dell) : ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Dell, บิล เกตส์ (Bill Gates) : ผู้ก่อตั้ง Microsoft, สตีฟ จ็อปส์ (Steve Jobs) : ผู้ก่อตั้งและสร้างความยิ่งใหญ่ ให้แบรนด์ Apple, มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) : ผู้ก่อตั้ง Facebook เป็นต้น และนี่ก็เป็นอีก 10 บุคคลที่มีชื่อเสียง ที่เป็นตัวอย่างที่ดี จากคนเคยตกอับ เริ่มสร้างตัวเองจากศูนย์ จนได้กลายมาเป็นคนแถวหน้า ..

1. Henry Ford

เฮนรี ฟอร์ด (Henry Ford) เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทฟอร์ดมอเตอร์ และได้ชื่อว่าเป็นผู้หนึ่งที่มีส่วนก่อให้เกิด “ชนชั้นกลาง” ขึ้นมาในสังคมอเมริกัน ฟอร์ดเป็นผู้แรกที่ประยุกต์ระบบสายพานการผลิตเข้ากับการผลิตยานยนต์ในจำนวนมากๆ ความสำเร็จนี้ไม่เพียงแต่ปฏิวัติการผลิตเชิงอุตสาหกรรมเท่านั้น แต่ยังมีอิทธิพลอย่างมากกับวัฒนธรรมสมัยใหม่ โดยนักทฤษฎีสังคมหลายคนถึงกับเรียกช่วงประวัติศาสตร์เศรษฐกิจและสังคมช่วงนี้ว่า “แบบฟอร์ด” (Fordism)

กว่าจะมาเป็นยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมรถยนต์นั้น Ford ไม่ได้เริ่มต้นจากเงินเขาซักบาทเดียว เขาเริ่มต้นจากการยืมเงินเพื่อน การเจรจาขอซื้อวัตถุดิบต่างๆ โดยใช้เครดิต หลังจากนั้นก็เร่งขายรถที่ผลิตเองเพื่อใช้หนี้ และพอได้กำไรเล็กๆ น้อยๆ ก็ลงทุนต่อ เขาเก็บเล็กผสมน้อยแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนเขาสามารถสร้างอาณาจักร Ford ที่ยิ่งใหญ่มาจนถึงวันนี้ได้ Henry Ford มีทรัพย์สินคิดเป็นมูลค่าในปัจจุบันราว 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

อห์น ดี. ร็อกเกอะเฟลเลอร์ : นักธุรกิจชาวอเมริกันเจ้าของกิจการน้ำมันสแตนดาร์ดออยล์ (Standard Oil )

2. John D. Rockefeller

จอห์น ดี. ร็อกเกอะเฟลเลอร์ (John D. Rockefeller) เป็นนักธุรกิจชาวอเมริกันเจ้าของกิจการน้ำมันสแตนดาร์ดออยล์ (Standard Oil ) อาชีพก่อนทำธุรกิจสแตนดาร์ด ออยล์, ร็อกเกอะเฟลเลอร์ ในวัยเพียง 16 ปี ขาได้ทำงานแรกด้วยการเป็นผู้ช่วยพนักงานบัญชีโดยทำงานให้กับบริษัทนายหน้าขนาดเล็กชื่อเฮวิตต์แอนด์ทัตเทิล

เขาเริ่มต้นจากการอดออมทุกอย่าง ประหยัดสุดๆ เพื่อหาเงินมาซื้อโรงกลั่นน้ำมันในปี 1862 เขาก้าวสู่ความยิ่งใหญ่ โดยเริ่มต้นจากการเสนอส่วนลดให้บริษัทรถไฟที่ยอมขนส่งน้ำมันของเขาไปทั่วประเทศ และขายน้ำมันในราคาถูกให้กับลูกค้าที่ไม่เคยได้ยินชื่อเขามาก่อน และนี่เป็นการสร้างชื่อเขาทีละเล็กทีละน้อยจนเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายทั่วโลกในวันนี้

ต่อมาได้บริจาคทุนทรัพย์ 500 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐเพื่อก่อตั้งมูลนิธิร็อกเกอะเฟลเลอร์ขึ้นสำหรับช่วยเหลือด้านการศึกษาและการสาธารณสุข เช่น ก่อตั้ง มหาวิทยาลัยชิคาโก และมหาวิทยาลัยร็อกเกอะเฟลเลอร์, ออกทุนสนับสนุนในการก่อตั้งมหาวิทยาลัยฟิลิปปินส์กลาง, ก่อตั้งคณะกรรมการการศึกษาทั่วไป John D. Rockfeller มีทรัพย์สินคิดเป็นมูลค่าในปัจจุบันราว 340,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

Andrew Carnegie “ราชาแห่งเหล็ก”

3. Andrew Carnegie

หรือที่รู้จักกันในนาม “ราชาแห่งเหล็ก” สิ่งที่เขาทำกับเหล็ก คือสิ่งเดียวที่ John Rockefeller ทำกับน้ำมัน แต่ก่อนหน้าที่เขาจะกลายเป็นคนที่รวยที่สุดเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์นั้น เขาเป็นเพียงพนักงานโทรเลขมาก่อน ในช่วงปี 1850s จนกระทั่ง เขาสามารถเก็บหอมรอมริบ และสร้างโรงงานเหล็กขึ้นมาจากเล็กๆ จนยิ่งใหญ่ ซึ่งในวันที่เขาขายอุตสาหกรรมเหล็กของเขาในปี 1901 ให้กับ J.P. Morgan นั้น จำนวนเงินที่เขาได้ มันทำให้เขาเกษียณอายุได้อย่างสบาย แถมทำบุญได้มหาศาลอีกด้วยล่ะ Andrew Carnegies มีทรัพย์สินคิดเป็นมูลค่าในปัจจุบันราว 310,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

Thomas Edison

4. Thomas Edison

ก่อนที่ Thomas Edison จะโด่งดังจากการผลิตหลอดไฟในปี 1878 นั้น เขาคือหนึ่งในคนที่คิดค้นวงจรไฟฟ้ามาก่อน ซึ่งอีกคนหนึ่งที่เป็นบิดาเช่นกันคือ Nikola Tesla ซึ่งการคิดค้นนี้ของเขา มันคือความเปลี่ยนแปลงที่ิยิ่งใหญ่มาก เพราะในสมัยก่อน ทุกอย่างยังคงใช้ฟืนไฟ หรือ ก๊าซเท่านั้น และหากย้อนอดีตไปมากกว่านั้น Thomas Edison เริ่มต้นทุกอย่างจากการเป็นแค่พนักงานโทรเลข ที่สุดท้ายกลายเป็นคนที่สร้างประวัติศาสตร์ให้กับโลกได้ Edisons net มีทรัพย์สินคิดเป็นมูลค่าในปัจจุบันราว 170 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

Warren Buffett

5. Warren Buffett

Warren Buffett กลายเป็นนักลงทถุนแห่งวอลสตรีท ที่ประสบความสำเร็จคนหนึ่งของโลก ได้ โดยมี William Grieder เคยเขียนความลับของเขาเอาไว้ในหนังสือ “The Soul of Capitalism” ว่า “stays close to his capital.” หรืออาจแปลเป็นไทยว่า อย่าละสายตาจากเงินทุนของคุณ ต้องคอยดูอยู่ใกล้ชิด และเขาจะไม่ลงทุนจนกว่า เขาจะได้พบกับผู้บริหารสูงสุดของแต่ละบริษัท และทำให้เขาเชื่อในโมเดลธุรกิจได้ Buffetts มีทรัพย์สินคิดเป็นมูลค่าราว 63,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

Oprah Winfrey

6. Oprah Winfrey

คงไม่มีใครคิดว่า หญิงสาวคนหนึ่ง ที่เป็นลูกของซิงเกิลมัม วัยรุ่น และเธอโดนข่มขืนตอนอายุ 9 ขวบ คลอดลูกชายตอนอายุ 14 และลูกชายก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา จะสามารถประสบความสำเร็จได้ถึงเพียงนี้

นั่นคือเรื่องราวของ Oprah Winfrey ทำงานแรกเป็นงานวิทยุในโรงเรียนมัธยม ต่อมาเธอทำงานในช่องทีวี และค่อยๆ เก็บหอมรอมริบเปิดบริษัทผลิตรายการของเธอเองชื่อ Harpo และนั่นคือจุดเริ่มต้นความสำเร็จของเธอในวันนี้ กับรายการที่มีคนดูมากที่สุดในประวัติศาสตร์ทีวี นั่นคือรายการ The Oprah Winfrey นั่นเอง Oprah net มีทรัพย์สินคิดเป็นมูลค่าราว 2,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

William Hewlett และ David Packard

7. William Hewlett และ David Packard

Hewlett-Packard เริ่มต้นจากเงินเพียงแค่ 538 ดอลลาร์สหรัฐฯ และสร้างโรงงานเล็กๆ ของพวกเขาในโรงรถ ในปี 1939 และในปี 1959 บริษัทของพวกเขาก็เข้าสู่ตลาด และสร้างมูลค่าให้ HP กว่า 112,000 ดอลลาร์ พวกเขาสองคนมีทรัพย์สินรวมกัน 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

Sergey Brin และ Larry Page

8. Sergey Brin และ Larry Page

Brin และ Page ก็ไม่ต่างอะไรไปจากเจ้าพอไอทีคนอื่นๆ ที่ไม่ค่อยอยากจะเรียนในมหาวิทยาลัยเท่าไหร่ และอยากสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากกว่า และสิ่งที่พวกเขาสร้างก็คือ Google แต่มันไม่ได้สวยงามอย่างที่คุณคิด และ Google ก็คงไม่รุ่งจนถึงทุกวันนี้ ถ้าในตอนนี้ เขาทั้งคู่ไม่กระตือรือร้นที่จะอยากได้เช็คเงินรางวัล 100,000 ดอลลาร์สหรัฐจากผู้ร่วมก่อตั้ง Sun ได้แก่ Andy Bechtolsheim ในการคิดโปรเจ็คหนึ่งขึ้นมาให้สำเร็จ และเขาก็ทำสำเร็จ และนั่นทำให้พวกเขากลายเป็นมหาเศรษฐีในวัย 30 กว่าๆ เท่านั้น ทั้งคู่มีทรัพย์สินรวมกันราว 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

Mark Cuban

9. Mark Cuban

เจ้าของ The Dallas Mavericks คนนี้ ตอนเด็กๆ เขาเกิดในครอบครัวชาวยิว ที่เป็นชนชั้นแรงงาน และการหาเงินครั้งแรกของเขาคือการขายขยะเพื่อหาเงินมาซื้อรองเท้ากีฬา แต่ด้วยความทะเยอทะยานและความมุ่งมั่นของเขานั้น ทำให้เขาสามารถทำธุรกิจออนไลน์จนเขาสามารถเก็บเงินซื้อทีมบาสเก็ตบอล Mavericks ได้นั่นเอง รายได้ของเขาอยู่ที่ราว 2,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

Howard Schultz

10. Howard Schultz

Howard Schultz ตอนเด็กๆ ยากจนมาก จนกระทั้งเขาก้าวขึ้นมาเป็น CEO ของสตาร์บัค ที่ตอนแรกมีเพียง 60 สาขาเท่านั้น เขาทำให้มันมี 16,000 สาขาทั่วโลกได้ เขามีทรัพย์สินในปัจจุบันราว 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

Ralph Lauren

11. Ralph Lauren

นักออกแบบชื่อดัง Ralph Lauren ทำงานที่ร้าน Brooks Brothers เขาไม่เคยได้ใส่เสื้อดีๆ เลยเพราะไม่มีเงิน เขาได้แต่มองดูเสื้อผ้าในร้าน จนกระทั่งเขาพบหนทางของเขา และสร้าง Polo label ในปี 1968 เขามีรายได้ 7,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

Sara Blakely

12. Sara Blakely

Sara Blakely เคยอยากเรียนกฎหมายมาก แต่สอบ LSAT สองครั้งก็ยังทำคะแนนได้ไม่ดี เธอพยายามลองเล่น Goofy ที่ Walt Disney World ก็สูงไม่พอ เธอเลยหันเหไปทำงานขายเครื่องแฟกซ์จนเธอเก็บเงินได้ 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ และวันหนึ่งเธฮก็คิดค้น Spanx สำเร็จ และทำให้เธอมีทุกวันนี้ ทรัพย์สินของเธออยู่ที่ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

J.K. Rowling

13. J.K. Rowling

เธอยากจนมาก แถมหย่าร้างกับสามีของเธอ เธอมีรายได้ตอนนั้นแค่ 160 ดอลลาร์สหรัฐต่อสัปดาห์ เธอเป็นโรคซึมเศร้าอีกด้วย จนกระทั่งเธอสามารถกลั่นกรองเรื่องราวของ Harry Potter ออกมาได้ ที่ทำให้เธฮประสบความสำเร็จมากสุดๆ ในวันนี้ เธอมีทรัพย์สินราว 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ขอบคุณข้อมูล  Businesspundit, Allday, kiitdoo.com

 

 
Credit: เอ็มไทยวาไรตี้
#คนดังต่างประเทศ
THEPOco
ผู้กำกับภาพ
สมาชิก VIP
6 พ.ย. 57 เวลา 07:54 4,459 40
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...