รถไฟเป็นวิธีการเดินทางที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากสะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องทนกับการจราจรที่ติดขัด และราคาก็ไม่แพงมาก แต่ละประเทศจึงพยายามพัฒนาระบบรถไฟ เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนให้ได้มากที่สุด
หากจะตัดสินว่าระบบรถไฟที่ดีที่สุดในโลกคือที่ไหน คงจะไม่มีใครสามารถฟันธงได้อย่างชัดเจน เนื่องจากการจะเป็นรถไฟที่ดีที่สุดนั้น ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆด้าน ถ้าพูดถึงรถไฟความเร็วสูงที่ทันสมัย หรือพูดกันในแง่ของความเร็ว รถไฟ Maglev ที่เซี่ยงไฮ้ของจีน ซึ่งวิ่งด้วยความเร็วเฉลี่ย 251 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสามารถวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดถึง 430 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่หากจะมองกันที่ความปลอดภัยแล้ว หลายคนก็คงจะเห็นว่า ระบบรถไฟของจีนไม่ได้ดีที่สุด
แม้ว่าจีนจะอ้างอิงข้อมูลว่า จีนมีอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่เกิดจากรถไฟที่ต่ำที่สุดของโลกในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา คิดเป็นร้อยละ 1 รายต่อผู้โดยสาร 55,300 ล้านคนต่อกิโลเมตร ซึ่งน้อยกว่า รถไฟญี่ปุ่นที่มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ต่อผู้โดยสาร 51,400 ล้านคนต่อกิโลเมตร แต่หลายคนก็มองว่าข้อมูลนี้อาจนำมาวัดไม่ได้ เนื่องจากประชากรของจีนมีจำนวนมาก จำนวนผู้ใช้บริการก็ต้องเยอะกว่าที่อื่นเป็นธรรมดา จึงสามารถเฉลี่ยให้อัตราผู้เสียชีวิตน้อยลง
อย่างไรก็ตาม ระบบรถไฟที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่า เป็นระบบรถไฟที่ปลอดภัยที่สุดก็คืออังกฤษ รถไฟอังกฤษถือเป็นระบบรถไฟที่เก่าแก่ที่สุดของโลก แต่มีการบำรุงรักษาและพัฒนาให้ปลอดภัยโดยเฉพาะในช่วง 5 ปี หลังมานี้ มีอุบัติเหตุจากรถไฟอังกฤษน้อยมาก และมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจากรถไฟไม่ถึง 10 รายนับตั้งแต่ปี 2548 นอกจากนี้ อังกฤษยังมีเส้นทางเดินรถไฟที่ยาวที่สุดในโลกจากอเบอร์ดีนไปจนถึงเพนแซนส์ เป็นระยะทาง 1,162 กิโมเมตร แต่ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ เส้นทางเดินรถไฟของอังกฤษครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ ซึ่งทำให้การเดินทางภายในอังกฤษโดยรถไฟสะดวกมาก
แต่หากจะพูดถึงรถไฟที่ตรงต่อเวลามากที่สุด หลายคนคงจะนึกถึงญี่ปุ่นญี่ปุ่นมีรถไฟความเร็วสูงเป็นแห่งแรกโลกที่เรียกว่า ชิงกันเซ็ง ซึ่งถือเป็นความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีที่ญี่ปุ่นภาคภูมิใจ แต่การตรงต่อเวลาถือเป็นหัวใจที่สำคัญที่สุดของรถไฟญี่ปุ่น เพราะเป็นประเทศที่ทุกคนเร่งรีบอยู่ตลอดเวลา ผู้โดยสารจึงคาดหวังว่ารถไฟจะต้องมาในเวลาที่กำหนดไว้ เพื่อไม่ให้ชีวิตสะดุดแม้แต่นาทีเดียว อย่างไรก็ตาม หลายคนมองว่าเกาหลีใต้เองก็มีระบบรถไฟที่ดีตรงเวลา และสะอาดพอสมควร ที่สำคัญคือ ราคาถูกกว่า และคนไม่แน่นเท่าการขึ้นรถไฟชิงกันเซ็งของญี่ปุ่น ซึ่งเมื่อเทียบคุณภาพและราคาก็ถือว่าดีมากทีเดียว
ขณะที่การจัดการรถไฟของฮ่องกงก็เป็นอีกแห่งที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบมากที่สุด แม้จะไม่มีตารางเวลาของรถไฟที่ชัดเจนอย่างที่อื่น แต่รถไฟจะวิ่งถี่มาก จึงไม่ต้องกังวลว่าตกรถไฟรอบนี้แล้วจะต้องรอนานหลายนาที นอกจากนี้ รถไฟของฮ่องกงยังใช้ง่ายและสะดวกในการเดินทางไปไหนมาไหน เพราะเส้นทางการเดินรถไม่ซับซ้อนแต่ครอบคลุม และตามสถานีจะมีป้ายบอกสถานที่สำคัญๆ ทั้งภาษาจีนและภาษาอังกฤษพร้อมภาพประกอบ การซื้อขายตั๋วก็สะดวกมาก จึงง่ายสำหรับนักท่องเที่ยวอย่างมาก
ข้อมูลจาก voicetv