การทำงานทั้งงานใน-งานนอกให้ลงตัว ไร้ปัญหาชีวิต ของ Working Mom จำเป็นต้องใช้เวลาเพื่อรับผิดชอบหน้าที่ทั้งการงานนอกบ้าน และเจ้าตัวเล็กกับคุณผู้ชายที่บ้าน เฮ้อ! เวลาก็มีอยู่เท่านี้ แต่ต้องจัดการให้ลงตัว คุณแม่จะทำอย่างไรดีนะ


เคล็ดไม่ลับการจัดการเวลาของ Working Mom กันค่ะ

1. เช็กลิสต์

แนะนำให้พกสมุดทำเช็กลิสต์ประจำตัว 1 เล่ม จะหาซื้อหรือประยุกต์จากกระดาษ Re-use ก็ไม่ผิดกติกา แล้วใช้เวลาช่วงที่สมองปลอดโปร่ง เช่น ช่วงก่อนเข้านอน ช่วงเช้าที่ยังไม่เริ่มงาน หรือแม้แต่ตอนชงนมให้เจ้าตัวเล็กที่กำลังหลับ เพื่อทบทวนดูว่าในวันนี้มีงานอะไรที่ต้องทำบ้าง แล้วจดลงไปในสมุดเช็กลิสต์เล่มนั้น

 

3. เรียงลำดับความสำคัญ

ตัวคุณแม่เองย่อมเป็นผู้ที่รู้ดีที่สุด ว่า ระหว่างการเตรียมพรีเซนเทชั่น เพื่อพรีเซนต์ลูกค้าในวันพรุ่งนี้ กับเสื้อเชิ้ตของคุณสามี ที่ยังไม่ได้รีด สิ่งไหนสำคัญกว่ากัน บางครั้งหน้าที่ในครอบครัวอาจสำคัญเป็นลำดับรองลงมาจากหน้าที่การงานก็เป็น ได้ ขึ้นอยู่กับบางสถานการณ์ เพราะฉะนั้น คุณแม่อาจจัดลำดับความสำคัญดังนี้ สิ่งที่เร่งด่วนและสำคัญมากต้องทำทันที สิ่งสำคัญมากแต่ไม่เร่งด่วน สิ่งเร่งด่วนแต่ไม่สำคัญ และสิ่งที่ไม่รีบด่วนและไม่สำคัญ ทำแล้วเสียเวลา ต้องพยายามกำจัดกิจกรรมนี้ออกไปให้มากที่สุด เพราะทำแล้วไม่เกิดประโยชน์ เพียงเท่านี้คุณแม่ก็จะสามารถจัดลำดับความสำคัญได้ไม่ยาก
 

4. จัดระเบียบ

บางครั้งงานเร่ง ลูกร้อง สามีจะกินข้าว ที่เกิดขึ้นในเวลาเดียวกันก็ทำเอาคนเป็นแม่ปวดหัว แบบนี้ต้องจัดระเบียบด่วน โดยอาจต่อรองให้สามีไปดูแลลูก แล้วคุณแม่จะทำกับข้าวให้กิน ก็ช่วยเบาแรงเรื่องลูกลง จากนั้นคุณแม่ค่อยตะลุยทำงานต่อ
 

5. วางแผนการใช้เวลา

งานใหญ่ชิ้นสำคัญต้องใช้เวลามากควรเริ่ม ทำแต่เนิ่นๆ ส่วนงานเล็กก็อาจจะก็ใช้เวลาสั้นๆ แต่พอประมาณ หรือคุณแม่อาจจะวางแผนเวลาการทำงานตามลำดับความยากง่ายของงานก็ได้ค่ะ
 

6. แยกแยะ

ใครเคยหอบงานกลับมาทำที่บ้านบ้าง ลองคิดถึงลูกน้อย...เขาคงไม่อยากมองดูแม่ทำงานตาปริบๆ แล้วนั่งวาดรูปเล่นกับพ่อต่อไปอย่างเบื่อๆ ดีไม่ดีคุณแม่เผลอปล่อยอารมณ์โกรธที่ติดค้างมาจากงาน ไปกับคนในครอบครัว แบบนี้ไม่ดีแน่ๆ ต้องแบ่งภาคให้ดีระหว่างหน้าที่การงาน กับบทบาทความเป็นแม่ ออกจากที่ทำงานก็ทิ้งอารมณ์สีเทาทั้งหลายและงานกองโตที่ยังสามารถจัดการได้ ในวันรุ่งขึ้นไว้เบื้องหลัง แล้วกลับมาเล่นกับลูกให้ชื่นใจแทนดีกว่า

 

7. ยืดหยุ่น

แม้คำแนะนำจะบอกว่าไม่ควรเอางานกับมาทำ ที่บ้านบ่อยๆ แต่ก็ไม่ควรกำหนดตายตัวกับบางภาระ เช่น ฉันไม่มีวันเอางานกลับมาทำที่บ้าน ถ้างานยุ่งมากไม่ไหวจะเคลียร์จริงๆ ลองกำหนดเวลากับตัวเองว่า จะใช้เวลากับงานที่บ้านกี่ชั่วโมง โดยที่จะไม่ไปกระทบกับเวลาของครอบครัว หรือจะทำงานช่วงหลังจากที่ลูกหลับไปแล้ว
  

8. ตรวจสอบผล

ขั้นตอนสุดท้ายของการทำงานทุกประเภท ไม่จำกัดว่าจะเป็นเรื่องงานหรือเรื่องครอบครัว ต้องเช็กสิ่งที่ทำไปแล้วว่า สิ่งที่ทำไปตรงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่ เหมาะสมกับเวลาหรือเปล่า ผลตอบรับหรือผลกระทบเป็นอย่างไร แล้วบันทึกสิ่งเหล่านี้ไว้ เพื่อเป็นตัวอย่างการจัดการเวลาครั้งต่อไป
 

 

อาศัยเทคนิคที่กล่าวมานี้ ก็ช่วยให้คุณแม่รับมือกับสิ่งต่างๆ ได้ดี ไม่มีสะดุด และคุ้มค่ากับเวลา 24 ชั่วโมงแล้วค่ะ#

Credit: http://women.mthai.com/mom-child/138218.html