เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก RKU News
รถไฟชนรถเก๋งแคมรี่ที่เพชรบุรี รฟท. เล็งฟ้องเรียกค่าเสียหาย รถเก๋งขับฝ่าขึ้นมาบนรางทั้งที่รถไฟเปิดหวูดเตือนแล้ว ทำเกิดอุบัติเหตุ หัวรถจักรพัง คาดค่าเสียหายกว่าล้าน
จากกรณีรถไฟ กทม.-หัวหิน พุ่งชนรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า แคมรี่ สีดำ บริเวณจุดตัดรถไร่กล้วย ต.ต้นมะม่วง อ.เมือง จ.เพชรบุรี ทำให้รถไฟตกรางและไฟลุกไหม้รถของหัวหน้าฝ่ายบริหารโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ที่ขับมาพร้อมกับภรรยา เป็นเหตุให้ทั้งคู่เสียชีวิตทันที โดยบุตรชายของผู้เสียชีวิตยืนยันว่า ทั้งคู่ไม่ได้คิดฆ่าตัวตายตามที่มีกระแสข่าวออกมาอย่างแน่นอน เพราะตั้งใจขับรถไปร่วมงานแต่งงานที่จังหวัดขอนแก่น แต่ที่ขับออกนอกเส้นทางเพราะต้องการแวะซื้อของฝากที่จังหวัดเพชรบุรี ทำให้ตำรวจเตรียมสรุปว่าเป็นอุบัติเหตุ ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านั้น
ความคืบหน้าวันนี้ (30 ตุลาคม 2557) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3 รายงานว่า นายพรสุทธิ ทองสาด หัวหน้าสำนักงานประจำการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากการสอบถามพนักงานรถไฟทราบว่ารถไฟขับมาด้วยความเร็วปกติ คือ 80-90 กม.ต่อชั่วโมง ซึ่งต่ำกว่าความเร็วสูงสุดที่อนุญาต 100 กม.ต่อชั่วโมง และมีการเปิดสัญญาณหวูดเตือนแล้ว แต่รถเก๋งยังขับฝ่าขึ้นมาบนรางรถไฟจนเกิดเหตุชนกันขึ้น ทำให้เกิดไฟลุกไหม้จนหัวรถจักร ตัวรถภายนอก เครื่องยนต์ และสปีดมิเตอร์เสียหาย โดยขณะนี้นำรถไฟไปเข้าอู่ซ่อมแซมแล้ว คาดว่ามูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่าล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ รฟท. ได้ไปแจ้งความกับสถานีตำรวจแล้ว และทาง รฟท. เตรียมดำเนินคดีเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากผู้ละเมิดในชั้นศาล เพราะหัวรถจักรถือเป็นทรัพย์สินของราชการจะต้องมีผู้รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น แต่หากผู้เสียหายต้องการขอความช่วยเหลือจากการรถไฟก็สามารถทำเรื่องเสนอขึ้นมา ให้คณะกรรมการพิจารณาดูแลให้ตามความเหมาะสม
ด้าน พล.อ.อ. ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม กล่าวถึงมาตรการป้องกันอุบัติเหตุรถไฟชนรถยนต์ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งว่า ในเบื้องต้นทาง รฟท. ได้เสนอให้สร้างสัญลักษณ์ พร้อมติดตั้งสัญญาณเตือนด้วยระบบเซ็นเซอร์ในจุดที่มีความเสี่ยง 584 จุด ซึ่งประชาชนอาจใช้เป็นทางลัดผ่าน หรือทางที่ไม่อนุญาตให้ผ่าน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ