เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพ "สวนสัตว์มนุษย์" อย่างแพร่หลาย ทำให้หลายคนสงสัยว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือไม่หรือเป็นเพียงเรื่องเล่ากันแน่วันนี้ทีมงานที่นี่ดอทคอมก็ไปเสาะหาข้อมูลมาฝากค่ะ
นิทรรศการดังกล่าวถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ชาวนอร์เวย์ได้เห็นความสำคัญของการล่าอาณานิคมเพื่อปกครองคนผิวสีในแอฟริกา เนื่องจากในสวนสัตว์มนุษย์แห่งนี้เป็นการจำลองวิถีชีวิตของคนผิวสีทั้งวิถีชีวิตและสภาพความเป็นอยู่ที่ทำให้ชาวนอร์เวย์รู้สึกถึงความไร้อารยธรรมของคนผิวสี และสร้างความรู้สึกถึงความชอบธรรมในการเข้าไปปกครองผู้คนในภูมิภาคนี้
ตลอดระยะเวลากว่า 4 เดือนของการจัดแสดงนิทรรศการ ชาวนอร์เวย์กว่า 1.4 ล้านคน หรือประมาณครึ่งหนึ่งของประชากรในขณะนั้นได้เข้ามาซื้อบัตรเข้าชมหมู่บ้านคองโกแห่งนี้ สื่อในประเทศหลายสำนักให้ความเห็นว่านิทรรศการดังกล่าวสร้างความบันเทิงและความสนุกสนานให้แก่ผู้เข้าชมได้เป็นอย่างมาก ในขณะที่สื่อบางแห่งกล่าวว่า ‘น่ายินดีมากที่พวกเราเกิดเป็นคนผิวขาว!’
หนึ่งศตวรรษต่อมา โมฮัมเหม็ด อาลี ฟัดดาบี และ ลาร์ส คัซเนอร์ สองศิลปินชาวนอร์เวย์ตัดสินใจที่จะสร้างสวนสัตว์มนุษย์แห่งนี้ขึ้นมาอีกครั้งในสถานที่เดิมและเลียนแบบทุกอย่างจากครั้งที่แล้ว ในวาระฉลองครบรอบ 200 ปีของการได้มาซึ่งรัฐธรรมนูญภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของประเทศนอร์เวย์ในปี 2014 โดยได้รับความร่วมมือจากอาสาสมัครทั่วโลกในการใช้ชีวิตเป็นชนพื้นเมืองในหมู่บ้าน นิทรรศการในครั้งนี้ใช้ชื่อว่า ‘European Attraction Limited’ ซึ่งเปิดให้คนทั่วไปเข้าชมตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา และจะจัดแสดงไปจนถึงปลายเดือนสิงหาคมนี้
ทั้งสองบอกถึงสาเหตุของการนำนิทรรศการนี้กลับมาจัดแสดงใหม่อีกครั้งว่า ภาพของความมีมนุษยธรรมและส่งเสริมความเท่าเทียมกันของสังคมนอร์เวย์เป็นเพียงการสร้างภาพลักษณ์เพื่อให้ก้าวเข้าสู่เวทีโลกอย่างสง่าผ่าเผยในฐานะของชาติที่เป็นผู้นำในความก้าวหน้าทางความคิดและเปิดกว้างในความแตกต่าง ทว่ากลับหลงลืมประวัติศาสตร์ของประเทศตนเองที่เคยมีการกระทำที่ทั้งเหยียดชาติพันธุ์และสีผิวเช่นนี้มาก่อน ที่สำคัญเรื่องราวของสวนสัตว์มนุษย์แห่งนี้ถูกบอกเล่าในแบบเรียนอย่างผิวเผินและหายไปจากความทรงจำที่มีร่วมกันของชาวนอร์เวย์
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก waymagazine