ด็กสาวชาวแคเมอรูนถูกครอบครัวจับรีดหน้าอกตั้งแต่เด็ก
เพื่อลดสิ่งยั่วยุทางเพศ หลังพบเด็กสาวกว่า 1 ใน 5 ตั้งครรภ์ก่อนอายุ 17 ปี
กลายมาเป็นประเด็นซึ่งเป็นที่พูดถึงกันอย่างกว้างขวางเลยทีเดียว
สำหรับการที่ครอบครัวชาวแคเมอรูนนิยมทำการ "รีดนม" (Breast Ironing) เด็กหญิง
เพื่อลดการยั่วยุทางเพศ อันเป็นการปกป้องเด็กสาวเหล่านี้จากการถูกล่วงละเมิดทางเพศ
หลังพบเด็กหญิงชาวแคเมอรูนกว่า 1 ใน 5 ตั้งครรภ์ตั้งแต่ก่อนอายุ 17 ปี
โดยประเด็นการรีดนมซึ่งสร้างความทรมานทั้งร่างกายและจิตใจต่อเด็กหญิงชาวแคเมอรูนนี้
เป็นที่พูดถึงกันมานานหลายปีแล้ว และล่าสุดเมื่อเดือนมกราคม 2557
เว็บไซต์เดอะการ์เดี้ยนของอังกฤษ ก็ได้หยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาพูดถึงอีกครั้ง
หลัง อลิซาเบธ มบู 1 ในสตรีชาวแคเมอรูนที่ถูกแม่ของเธอทำการรีดหน้าอกในวัยเยาว์
ออกมาเผยเรื่องราว ที่เธอเก็บไว้มานานถึง 16 ปี โดยระบุว่า
ในอดีตเธอต้องถูกแม่ของเธอจับถอดเสื้อผ้า ก่อนใช้หินร้อนมานวดหน้าอกของเธอ
2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อให้ไม่หน้าอกของเธอโตขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่สร้างความเจ็บปวดอย่างมาก
และไม่เข้าใจว่าทำไมแม่ของเธอจึงต้องทำเช่นนั้น และเธอยังคง
ถูกทรมานจากการรีดหน้าอกต่อไปอีกเป็นปี
เพื่อทำให้หน้าอกของเธอได้รับความเสียหายอย่างถาวร
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อลิซาเบธ ในวัย 29 ปี
ได้เข้ามาเป็น 1 สมาชิกขององค์กร Came women and girls development
หรือ Came W&G ซึ่งเป็นองค์กรที่จะช่วยให้เด็กหญิงชาวแคเมอรูนลุกขึ้นมาต่อต้าน
วัฒนธรรมการรีดหน้าอกในประเทศ โดยจากผลการวิจัยในปี 2549 คาดว่า
มีเด็กหญิงชาวแคเมอรูนถึง 24% ที่ถูกจับรีดหน้าอก โดยเด็กที่สุดอายุ 9 ขวบ
ถูกแม่ของพวกเธอจับรีดหน้าอกอย่างลับ ๆ พร้อมอ้างว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่จะทำเช่นนี้
เพื่อปกป้องลูกสาวจากการท้องในวัยเยาว์และต้องออกจากโรงเรียน หรือการถูกข่มขืน
เพราะคิดว่าหน้าอกของเด็กสาวจะเป็นสิ่งดึงดูดผู้ชายนั่นเอง
ตามรายงานยังระบุว่า ผลสำรวจจากกองทุนประชากรของสหประชาชาติ
เมื่อ 2553 พบว่า 30% ของ ผู้หญิงชาวแคเมอรูน ที่มีอายุระหว่าง 20-24 ปี
ได้คลอดบุตรตั้งแต่ก่อนที่พวกเธอจะมีอายุถึง 18 ปี และมีเพียง 39% เท่านั้น
ที่มีโอกาสเข้าเรียนในระดับมัธยมศึกษา
ในขณะที่การรีดหน้าอกจะถูกเก็บไว้เป็นความลับภายในครอบครัว
Came W&G กลับมุ่งที่จะกระตุ้นเด็กหญิงให้หยุดเก็บเรื่องเงียบไว้
โดยได้จัดการประชุมขึ้นในชุมชนเมืองหลวงของประเทศ เพื่อให้เด็กสาว
ได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนประสบการณ์อันชอกช้ำทั้งร่างกายและจิตใจของพวกเธอ
โดยอลิซาเบธยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะพูดประเด็นปัญหานี้ต่อสาธารณชน
เพราะเด็กสาวล้วนกังวลว่าคนจะมองพวกเธอหรือพูดถึงครอบครัวของพวกเธออย่างไร
แต่สุดท้ายเด็กสาวเหล่านี้ก็กล้าที่จะพูดมันออกมาเมื่อได้เห็นคนอื่นเล่าประสบการณ์ของแต่ละคน
โดยเหยื่อการรีดหน้าอกรายหนึ่ง วัย 28 ปี เผยว่า
แม่มักจะทำให้พวกเธอขมขื่นด้วยการบอกว่าหน้าอกเป็นสิ่งไม่ดี
และยังเผยว่าการทรมานเด็กหญิงด้วยวิธีนี้ทำให้เกิดความเสียหายในอนาคตได้
เช่น การเกิดรอยแผลเป็นจากการเผาไหม้ด้วยหินร้อน รวมทั้ง
ยังมีรายงานปัญหาการให้นมบุตรในอนาคต และสูญเสียวามเชื่อมั่นในตัวเอง
ด้าน มากาเร็ต รยูดเซวิรา ประธาน Came W&G เผยว่า
การระดมความเห็นของเด็กสาว จะเป็นกุญแจสำคัญนำไปสู่การสิ้นสุดวัฒนธรรมรีดหน้าอก
พวกเธอจำเป็นต้องกระตุ้นให้เด็กสาวพูดมันออกมา สนับสนุนความรู้สึกของแม่ๆ
เช่นเดียวกับขอความร่วมมือจากผู้นำชุมชนเพื่อให้ออกกฎหมายห้ามการรีดหน้าอก
ทั้งนี้ Came W&G เป็นหนึ่งในไม่กี่องค์กรที่ออกมาต่อต้านการรีดหน้าอกในแคเมอรูน
โดยวางแผนการดำเนินการระดับประเทศร่วมกับสาวๆ ในโครงการสนับสนุนอื่นๆ
ขณะที่รัฐบาลแคเมอรูนก็ได้ร่วมลงนามในข้อตกลงเพื่อดำเนินการร่วมกับการณรงค์เรื่องนี้แล้ว
ซึ่งเป็นเหมือนประจักษ์พยานที่ช่วยให้ผู้คนเข้าใจการทำงานขององค์กรได้อย่างเป็นรูปธรรม